เร่งล่าอีก 1 กลุ่มชายฉกรรจ์อุ้มหนุ่มซ้อมอ่วม หลังรวบแล้ว 4 คน

กรุงเทพฯ 11 ก.พ.- ตำรวจยังคงเร่งติดตามตัวผู้ก่อเหตุร่วมกันอุ้มผิดตัวในวัดย่านตลิ่งชัน หลังจากจับตัวมาได้แล้ว 4 คนเมื่อคืนที่ผ่านมา แต่ยังไม่ยืนยังถึงเหตุจูงใจในการก่อเกตุครั้งนี้


จากกรณีกลุ่มชาย 5 คน ร่วมกันใช้ปืนข่มขู่ผู้เสียหายชายคนหนึ่งจากวัดน้อยใน ย่านตลิ่งชัน ขณะมาร่วมงานอุปสมบทเมื่อช่วงเช้าวันที่ 10 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และมีน้องสาวของผู้เสียหายโพสต์ข้อความผ่านสื่อออนไลน์ให้ติดตามหาตัวผู้ก่อเหตุ จนเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา(10 ก.พ.) ตำรวจ สน.ตลิ่งชัน คุมตัวผู้ร่วมก่อเหตุได้ 4 คน แต่ยังมีผู้ต้องหาอีก 1 คนหลบหนี

เช้าวันนี้(11 ก.พ.)พลตำรวจตรีเอกชัย บุญวิสุทธิ์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 7 ได้เรียกพนักงานสอบสวน และชุดสืบสวนประชุมติดตามความคืบหน้าของคดี โดยขณะนี้ได้แจ้งข้อหากับทั้ง 4 คน ไปแล้ว 5 ข้อหา คือ ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้ตกใจกลัว ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่น ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่น มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และยิงปืนในที่สาธารณะ


ส่วนผู้ต้องหาอีก 1 คน ที่ยังหลบหนีตำรวจอยู่ระหว่างการพิสูจน์ทราบตัวบุคคลทั้งชื่อและนามสกุล เพื่อดำเนินการขอศาลออกหมายจับ แต่ขณะเดียวกันก็ให้ชุดสืบสวนทั้งของ สน. และนครบาล 7 ร่วมกันลงพื้นที่ติดตามตัวมาดำเนินคดี และคาดว่าจะจับตัวได้เร็วๆ นี้ ซึ่งคนนี้เป็นคนละกลุ่มกับ 4 คนที่จับได้ โดยทั้ง 4 คน ได้เรียกให้ชายคนนี้มาช่วยก่อเหตุ

สำหรับมูลเหตุจูงใจการก่อเหตุ พลตำรวจตรีเอกชัย เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าจะเกี่ยวกับสาเหตุใด แต่เมื่อผู้เสียหายถูกอุ้มตัวไปและถูกทำร้ายร่างกาย และข่มขู่ว่ารู้จักกับตำรวจ ส่วนปืนที่ยึดได้เป็นปืนขนาด 9 มม. 1 กระบอก และปืนปลอม 1 กระบอก และเบื้องต้นยังไม่พบประวัติการก่อเหตุทวงหนี้ของทั้ง 4 คนตามที่มีการกล่าวอ้าง แต่ยังไม่ตัดประเด็นการก่อเหตุนี้ทิ้ง

ขณะที่น้องสาวของผู้เสียหาย ที่ถูกทำร้ายร่างกายวันนี้จะมาพบพนักงานสอบสวนอีกครั้งเพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติม โดยเบื้องต้นได้ให้ข้อมูลไว้กับตำรวจเมื่อคืนนี้ว่า กลุ่มที่อุ้มพี่ชายไปทำร้าย เป็นวัยรุ่นแถวบ้าน แต่ไม่เคยมีปัญหาขัดแย้งกันมาก่อน และหลังเกิดเหตุ มีการติดต่อขอจ่ายเงินค่าเสียหาย เพื่อตกลงยอมความกัน


อย่างไรก็ตาม ในช่วงบ่ายพนักงานสอบสวนจะควบคุมตัวทั้ง 4 คนไปชี้จุดเกิดเหตุประกอบการสอบสวน และจะควบคุมตัวไปขออำนาจศาลอาญาตลิ่งชัน ฝากขังผัดแรก

ด้านนายทวีศักดิ์ สุขสม อายุ 55 ปี พ่อคนเจ็บ กล่าวว่า ลูกชายตนเล่าว่า ก่อนเกิดเหตุประมาณ 07.00 น. ไปช่วยงานบวชเพื่อนที่วัด แล้วกลุ่มผู้ก่อเหตุก็ขับรถกระบะเข้ามา ก่อนชักปืนยิงข่มขู่ 3 นัด จากนั้นก็ลากตัวขึ้นรถไปใส่กุญแจมือและนำถุงผ้ามาคลุมหัวจึงไม่ทราบว่าเอาตัวไปที่ไหน ก่อนจะถูกซ้อม และกลับมาปล่อยตัวที่โรงพักตลิ่งชันในเย็นวันเดียวกัน พร้อมผู้ก่อเหตุทั้งสี่ โดยมาอ้างภายหลังว่ากระทืบผิดตัวยืนยันว่าทั้งตนและลูก รวมถึงชาวบ้านในละแวกนั้นต่างไม่รู้จักกลุ่มผู้ก่อเหตุ และไม่มีเรื่องขัดแย้งกันด้วย ตนสงสัยว่าต้องเป็นกลุ่มคนแบบไหน มีดีอะไรจึงกระทำการอุกอาจเช่นนี้ แม้จะเป็นบริเวณของวัดก็ตาม ส่วนลูกชายตนประกอบธุรกิจค้าขายอาหารทะเลในตลาดสด ไม่มีหนี้สินหรือเรื่องขัดแย้งกับใคร ส่วนอาการบาดเจ็บแพทย์ระบุว่ามีแผลช้ำใน และใบหน้าแตก เหมือนถูกอาวุธตี ซึ่งลูกตนยังรู้สึกขวัญเสียจึงไม่อาจเล่าเหตุการณ์ได้ทั้งหมด ขณะที่ตำรวจก็ยังไม่ให้ข้อมูล ตอนนี้ยังหวาดกลัวว่าคนร้ายอีกรายที่ยังหลบหนีอยู่จะมาทำอันตรายอีกหรือไม่.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พปชร.เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา

พปชร. เปิดตัวทัพใหญ่ ว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา เผยเลือดไหลเข้าพรรคพร้อมรับใช้ประชาชนอีกมาก

สาวถูกงูเห่ากัดใช้เบตาดีนทา สุดท้ายถูกหามเข้า ICU

อุทาหรณ์ สาวโพสต์โดนงูเห่ากัดตอนตี 5 ล้างแผล ทาเบตาดีนสู้พิษงู ลุกไปเข้าเวรเช้าต่อ ก่อนภาพตัด ถูกหามเข้าไอซียู

ตร.ไซเบอร์บุกค้น 9 จุด รวบรอบ 2 “มินนี่” เจ้าแม่เว็บพนัน

ตำรวจ บช.สอท. นำกำลังพร้อมหมายค้น ปูพรม 9 จุด ทั้งในกรุงเทพฯ จังหวัดเลย และจังหวัดใกล้เคียง จับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายพนันออนไลน์ “มินนี่” กว่า 30 หมายจับ

เตือนพายุฤดูร้อนไทยตอนบน ฉ.1 มีผล 6-8 มี.ค.นี้

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน ฉบับที่ 1 มีผลกระทบช่วงวันที่ 6-8 มี.ค.68 เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง

ข่าวแนะนำ

ครู-ผู้ปกครอง ห่วงยกเลิก “ทรงผมนักเรียน” กระทบระเบียบวินัย

ครูและผู้ปกครองใน จ.ขอนแก่น แสดงความกังวล หลังศาลปกครองสูงสุด สั่งยกเลิกกฎกระทรวง ข้อกำหนด “ผมทรงนักเรียน” ห่วงการปล่อยเสรีอาจกระทบต่อระเบียบวินัยและความเรียบร้อยของนักเรียน ขณะที่นักเรียนจำนวนมากพอใจคำตัดสินดังกล่าว

อากาศร้อนจัด หนุ่มขับเก๋งย่องขโมยแอร์ครบชุด

อากาศร้อนจัด หนุ่มขับเก๋งย่องขโมยแอร์ครบชุดจากร้านแอร์ กลางเมืองสมุทรสงคราม เชื่อคนร้ายมีความรู้เรื่องแอร์ เพราะเลือกหยิบชุดเดียวกัน

นายกฯ ชูซอฟต์พาวเวอร์ไทย บนเวที “ITB Berlin 2025”

นายกฯ ชู soft power ไทย บนเวทีท่องเที่ยวโลก “ITB Berlin 2025” ผลักดันเมืองน่าเที่ยว 18 จังหวัด มุ่งขับเคลื่อนให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวระดับโลก ตั้งเป้าสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว 3.5 ล้านล้านบาท

Trudeau tells Trump that tariffs are 'very dumb,' says Canada striking back

ประเทศคู่ค้าตอบโต้กำแพงภาษีสหรัฐ

ออตตาวา 5 มี.ค.- ประเทศคู่ค้าขนาดใหญ่ของสหรัฐ ทั้งแคนาดา เม็กซิโก และจีน ออกมาตรการด้านภาษีและมาตรการอื่น ๆ ตอบโต้มาตรการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ ทั้งนี้หลังจากมาตรการของสหรัฐที่เก็บภาษีสินค้านำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโกเป็นร้อยละ 25 มีผลตั้งแต่วันที่ 4 มีนาคม นายจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดาแถลงในอีกไม่กี่ชั่วโมงต่อมาว่า เป็นมาตรการที่โง่เขลาอย่างยิ่ง และแคนาดาได้มีมาตรการโต้กลับด้วยการเก็บภาษีในอัตราร้อยละ 25 ทันทีกับสินค้าของสหรัฐมูลค่า 30,000 ล้านดอลลาร์แคนาดา (ราว 701,115 ล้านบาท) และจะเก็บในอีก 21 วันกับสินค้าสหรัฐมูลค่า 125,000 ล้านดอลลาร์แคนาดา (ราว 2.9 ล้านล้านบาท)   ขณะที่ร้านจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ขนาดใหญ่ในแคนาดาต่างพร้อมใจกันเก็บเหล้าและไวน์ที่นำเข้าจากสหรัฐออกจากชั้นวางและยังเชิญชวนให้ผู้บริโภคหันไปซื้อสินค้าที่ผลิตเองในประเทศแทน  ผู้ผลิตคราฟต์เบียร์รายหนึ่งเปิดเผยว่า จะเพิ่มการใช้วัตถุดิบในประเทศเป็นหลัก แทนวัตถุดิบที่เคยนำเข้าจากสหรัฐ  แต่วัตถุดิบจำเป็นบางอย่างต้องนำเข้าจากเยอรมนี ส่วนกระป๋องอลูมิเนียมสำหรับบรรจุเบียร์ที่เคยนำเข้าจากสหรัฐเพราะแคนาดาไม่ได้ผลิตนั้น จะเปลี่ยนไปซื้อจากจีนแทนซึ่งมีราคาถูกกว่า ด้านเม็กซิโก ประธานาธิบดีคลอเดีย เชนบามแถลงว่า การขึ้นภาษีของสหรัฐไม่มีความชอบธรรม เพราะที่ผ่านมาเม็กซิโกให้ความร่วมมือกับสหรัฐมาโดยตลอดในการแก้ปัญหาต่าง ๆ ทั้งเรื่องผู้อพยพและยาเสพติด ดังนั้นรัฐบาลเม็กซิโกจะมีมาตรการตอบโต้สหรัฐด้วยมาตรการด้านภาษีและมาตรการอื่น ๆ  โดยจะมีการแถลงรายละเอียดเกี่ยวกับมาตรการตอบโต้อีกครั้งในวันที่ 9 […]