10 ประเด็นที่น่ากลัวของการนำเสนอข่าวเหตุการณ์กราดยิง

กทม. 10 ก.พ.-เฟซบุ๊กแฟนเพจ “คลินิกสุขภาพจิตนายแพทย์เจษฎา” เผยแพร่สรุป 10 ประเด็นที่น่ากลัวและน่าสนใจของการนำเสนอข่าวเหตุการณ์กราดยิง


ภายหลังเกิดเหตุการณ์กราดยิงมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก 2 ครั้งติดๆ กันในไทย หลายคนเริ่มมีคำถามถึงอิทธิพลการนำเสนอของสื่อเชื่อมโยงกับเหตุความรุนแรงซ้ำๆ แบบนี้หรือไม่ เมื่อวานนี้ เฟซบุ๊กแฟนเพจ คลินิกสุขภาพจิตนายแพทย์เจษฎา ได้เผยแพร่ สรุป 10 ประเด็นที่น่ากลัวและน่าสนใจของการนำเสนอข่าวเหตุการณ์กราดยิง งานวิจัยทางจิตวิทยาและบทเรียนที่มีค่าที่เกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกา โดยมีผู้สนใจแสดงความเห็น และแชร์ไปแล้วจำนวนมาก 


เนื้อหาของบทความ เผยว่าสหรัฐอเมริกามีสถิติที่น่าตกใจเกี่ยวกับเหตุกราดยิง โดยข้อมูลพบว่ามีเหตุกราดยิง 1 ครั้ง เกิดขึ้นทุก 2 สัปดาห์ ในขณะที่เหตุกราดยิงหรือยิงกันในโรงเรียนเกิดขึ้นโดยเฉลี่ย 1 ครั้งในทุก 1 เดือน ทำให้มีงานวิจัยจากผู้เชี่ยวชาญทางจิตวิทยาและอาชญากรรมที่น่าสนใจเกิดขึ้นมากมาย กับประเด็นที่เป็นที่พูดถึงอย่างมากในวันนี้ต่อบทบาทและจรรยาบรรณของสื่อในการรายงานข่าวที่อาจสร้างฆาตกรกราดยิงคนต่อไป โดยสรุปและรวบรวมไว้ 10 ข้อ

1. ผลการศึกษาสำคัญพบว่า ยิ่งสื่อนำเสนอรายละเอียดของเหตุการณ์ ภาพใบหน้า ชื่อของฆาตกร รวมทั้งวิธีที่ฆาตกรใช้ ยิ่งละเอียดมากเพียงใด ก็ยิ่งทำให้เกิดเหตุการณ์กราดยิงตามมาได้มากขึ้นเท่านั้น ผ่านกลไกของพฤติกรรมการเลียนแบบ


2. หากเกิดข่าวใหญ่เรื่องการกราดยิง จะมีความเป็นไปได้ที่จะเกิดเหตุกราดยิงตามมา และมันก็มักจะเกาะกลุ่มกันหรือเกิดใกล้กันเสมอ งานวิจัยชิ้นหนึ่งในปี 2015 พบว่าหากมีเหตุกราดยิง แล้วมีทวิตเตอร์คำว่า “กราดยิง” มากกว่า 10 ทวิตต่อล้านทวิต ความน่าจะเป็นที่จะเกิดเหตุการณ์ที่สองภายใน 7 วัน จะเพิ่มขึ้นได้มากกว่าร้อยละ 50

3. พฤติกรรมเลียนแบบเกิดขึ้นได้ เพราะคนร้ายที่อาจจะมีสภาพจิตใจที่ไม่มั่นคงหรืออาจมีความแปรปรวนทางด้านจิตใจเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว รู้สึกว่าคนร้ายคนก่อนหน้าในข่าวดัง มีลักษณะบางอย่างที่คล้ายกับตน โดยเฉพาะปัจจัยทางเพศและอายุ 

4. ลักษณะการลงข่าวที่สุ่มเสี่ยงต่อการกระตุ้นให้เกิดพฤติกรรมการเลียนแบบ ได้แก่ การลงรายละเอียดเหตุการณ์หรือพฤติการของความรุนแรง การลงรูปใบหน้า หรือรวมลงชื่อของฆาตกร การเจาะลึกประวัติชีวิตฆาตกร

5. ผู้เชี่ยวชาญทางอาชญากรรม พบว่าก่อนที่คนร้ายเหตุกราดยิงคนหนึ่งจะก่อเหตุ เขามักจะได้เห็นสื่อต่างๆ ที่เกี่ยวกับการกราดยิงมาก่อน ข่าวเหล่านั้นทำให้เขารู้สึกถึง “ความเชื่อมโยง” บางอย่างทีคล้ายกับตน เกิดความรู้สึกว่ามีคนที่คิดเช่นเดียวกัน และทำให้เกิดแรงบันดาลใจที่จะลงมือให้สำเร็จ เพราะเห็นคนต้นแบบและวิธีการอย่างละเอียดแล้วจากสื่อ

6. จากผลการศึกษาพบว่า ฆาตกรกราดยิงมักมีความอ่อนไหวและเปราะบางทางอารมณ์จิตใจ มีความรู้สึกว้าเหว่ และมองหาความสัมพันธ์แบบ Parasocial (ความเชื่อมโยงกับคนอื่นที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน) ซึ่งสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นได้อย่างง่ายดายจากการเข้าไปอ่านหรือเสพสื่อที่ให้รายละเอียดของฆาตกรคนก่อนๆ มีฆาตกรที่มหาลัยอิลลินอย ได้ลักพาตัวและฆ่านักศึกษาสาวชาวจีน ตำรวจพบหลักฐานว่าก่อนเกิดเหตุ ฆาตกรได้แชทคุยกับกลุ่มฆาตกรที่เคยก่อเหตุในเน็ตทั้งก่อนและหลังกระทำ

7. เมื่อสื่อนำเสนอเรื่องราวของฆาตกร ทั้งชื่อ ใบหน้า ปมปัญหา รายละเอียดการฆ่า กระบวนการนี้จะทำให้คนร้ายรายนั้นเริ่มเป็นที่รู้จัก อิทธิพลของการนำเสนอนี้ ส่งผลให้คนอีกหลายคนที่มีต้นทุนของจิตใจที่แปรปรวน อำมหิต หรือมีจิตใจที่โหดร้ายอยู่เป็นทุนเดิม รู้สึกถึงความเชื่อมโยงกับตน ทำให้รู้สึกได้ถึงสิ่งที่เหมือนตนเอง

8. ยิ่งฆาตกรได้พื้นที่สื่อ ได้ออกข่าวดัง ได้ออกแถลงข่าว มีภาพการทำแผน ฯลฯ ยิ่งมากเท่าไหร่ ในทางจิตวิทยาแล้วคนร้ายเหล่านี้ก็จะยิ่งรู้สึกว่า “ฉันได้รางวัล” จากความรุนแรงที่ได้ทำไป

9. แล้วสื่อควรจะนำเสนอข่าวอย่างไร เพื่อจะลดโอกาสในการเกิดเหตุกราดยิงในอนาคต

งานวิจัยหลายฉบับได้สรุปถึงแนวทางที่สื่อจะช่วยลดพฤติกรรมการเลียนแบบของคนร้ายกราดยิงได้ โดยการปฏิบัติตามแนวทางการนำเสนอข่าวขององค์การอนามัยโลก โดย

1. ไม่ควรลงข่าวถี่หรือนานจนเกินไป ไม่ลงหัวข่าวตัวโตเตะตา หรือไม่ใส่สีสันให้ตื่นเต้น หรือดึงดราม่าจนเกินเหตุ ควรเขียนข่าวสั้น กระชับ เฉพาะรายละเอียดที่จำเป็นเพื่ออธิบายเหตุการณ์ ลดระยะเวลาการรายงานข่าวโดยรวมของเหตุการณ์นี้

2. ไม่ควรอธิบาย พรรณนา รายละเอียดของพฤติกรรมการฆ่าจนถึงขั้นละเอียดยิบ จนนำไปปฏิบัติหรือต่อยอดพฤติกรรมได้ พึงระมัดระวังดาบสองคมที่อาจเกิดจากการทำอนิเมชั่นจำลองเหตุการณ์ให้ดูซ้ำแล้วซ้ำอีก ยิ่งอธิบายมากก็ยิ่งเลียนแบบได้มาก

3. ไม่ลงรูปถ่าย ภาพประกอบ หรือคลิปมากเกินควร โดยในสหรัฐอเมริกา กำลังมีไอเดียมากขึ้นเรื่อยๆ ถึงการไม่ลงชื่อของคนร้ายในสื่อ หรือถ้าจำเป็นก็ควรลงให้น้อยที่สุด 

4. ไม่ขุดคุ้ยเรื่องราวชีวิตของฆาตกรมาประโคมเผยแพร่ ไม่เผยแพร่ประโยคคำพูด การแถลง คลิปสารภาพผิด ทั้งจากไฟล์เสียง วิดีโอ หรือแม้แต่แคปเจอคำพูดจากเฟชส่วนตัวของ ฆาตกร ฯลฯ กลยุทธ์ที่แนะนำคือ เมื่อต้องนำเสนอเกี่ยวกับพฤติกรรมหรือรายละเอียดใดๆของฆาตกร เช่น การเตรียมการ การวางแผนการยิง ให้สื่อพยายามเชื่อมโยงถึงความน่าอับอาย ความน่ารังเกียจ หรือความขี้ขลาดตาขาวของฆาตกรเสมอ การศึกษาในสหรัฐพบว่า อัตราการกราดยิงมีแนวโน้มลดลงอย่างเห็นได้ชัด เมื่อสื่อหันมานำเสนอข่าวด้วยกลยุทธ์นี้

5. ไม่ขุดคุ้ยหรือพรรณนาแรงจูงใจ ต้นสายปลายเหตุ หรือที่มาของการฆ่าแบบละเอียดจนเกินไป เพราะในทางจิตวิทยาแล้ว มนุษย์ทุกคนจะมีแนวโน้มที่จะเลียนแบบคนที่เรารู้สึกว่าเขามี “อะไร” ที่คล้ายกันกับเราเสมอ เมื่อนำเสนอถี่เข้าถี่เข้า จากที่ไม่ทันสังเกตเห็นก็กลับเห็นได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ยกตัวอย่างเช่น การนำเสนอซ้ำๆว่าฆาตกรทำลงไปเพื่อแก้แค้นจากการที่เขาเคยถูกรังแกมาหลายปี ข้อมูลเช่นนี้เมื่อนำเสนอซ้ำๆ จะส่งผลให้เกิดการเชื่อมโยงว่า การกราดยิงก็เป็นทางเลือกหนึ่งที่ทำได้

6. ควรลดการไลฟ์สดหลังเกิดเหตุการณ์ลง แม้จะขายได้ แต่การไลฟ์สดเพิ่มระดับของ “ความตื่นเต้น” ต่อเหตุการณ์ ที่ทำให้ความสนใจของสังคมเพิ่มขึ้น ทำให้ฆาตกรและคนที่จะเป็นฆาตกรคนต่อไปรับรู้ได้ถึง “ความหอมหวาน” และ “รางวัล” ที่ได้รับเมื่อลงมือฆ่า คำแนะนำคือ ควรเลี่ยงไปใช้การนำเสนอในรูปแบบการอัพเดตที่เป็นลายลักษณ์อักษรแทน สิ่งนี้ไม่เพียงแต่จะลดความหวานของของรางวัลเท่านั้น แต่มันอาจช่วยลดความสนใจโดยรวมของสังคม ช่วยป้องกันการเลียนแบบของฆาตกรคนต่อไปได้

10. จาซินดา อาร์เดิร์น นายกรัฐมนตรีหญิงของนิวซีแลนด์ พูดถึงเหตุกราดยิงในเมืองไครสต์เชิร์ช มีนาคมปีที่แล้ว ซึ่งมีผู้เสียชีวิตถึง 50 ศพ อย่างมีวิสัยทัศน์ โดยประกาศในสภาว่า “เธอจะไม่มีวันเอ่ยถึงชื่อของฆาตกรเด็ดขาด และประชาชนจะไม่ได้ยินชื่อของฆาตกรจากปากของเธออย่างแน่นอน เขาจะต้องได้รับโทษสูงสุดตามกฎหมาย และจะไม่ได้ในสิ่งที่เขาต้องการ นั่นคือการโด่งดังเป็นที่รู้จักแต่บุคคลที่สมควรได้รับการพูดถึง และควรให้เกียรติจริงๆ คือเหล่าคนที่สูญเสียจากเหตุการณ์อันน่าสะเทือนใจครั้งนี้มากกว่า”

บทความของคลินิกสุขภาพจิตนายแพทย์เจษฎา ลงท้ายสรุปขอให้สื่อไทยจงเติบโต ปรับปรุง และเรียนรู้จากความผิดพลาด อย่าให้ความชั่วร้ายนี้ได้มีพื้นที่ในสื่อ ไม่ให้ราคากับเรื่องราวชีวิตของฆาตกร แต่ให้โฟกัสไปที่เรื่องราวของผู้เสียสละ การทำงานที่เหน็ดเหนื่อยและความกล้าหาญของผู้ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงวิธีที่จะป้องกันเหตุการณ์ในลักษณะนี้ในอนาคต จะเป็นแนวทางที่เหมาะสมอย่างยิ่ง และหวังให้เหตุกราดยิงที่น่าเศร้าในครั้งนี้ เป็นครั้งสุดท้ายของไทย.-สำนักข่าวไทย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

วิสามัญคนร้ายกราดยิงเมืองโคราชแล้ว    
ผู้ว่าฯ โคราช แถลงสรุปเหตุกราดยิง ยอดตายอยู่ที่ 30
ร่าง 2 นายตำรวจหน่วยอรินทราช 26 ถึง กทม. กองเกียรติยศตั้งขบวนต้อนรับสมเกียรติ
ประชาชนทยอยวางดอกไม้อาลัยเหยื่อกราดยิงโคราช 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ-กลาง-ตะวันออก

กรุงเทพฯ 17 ก.ค. – กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง พะเยา และน่าน ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนักอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 70% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมิวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนอง และมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง พะเยา และน่าน ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้ เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเมียนมาตอนบน และประเทศลาวตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบน มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่าง มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูงมากกว่า […]

มทภ.2 เผยกำลังพลเหยียบกับระเบิดขณะลาดตระเวน เจ็บ 3

อุบลราชธานี 17 ก.ค. – แม่ทัพภาค 2 เผยกำลังพลเหยียบกับระเบิด ขณะออกลาดตระเวนจากฐานปฏิบัติการมรกต ไปยังเนิน 481 ชายแดนช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี บาดเจ็บ 3 นาย อาการปลอดภัย ชี้เป็นระเบิดตกค้างในพื้นที่สู้รบเดิม พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ระบุว่า ชุดลาดตระเวนกองร้อยทหารพรานที่ 2302 (ชุด ลว. ร้อย ทพ.2302 ) (ดุสิต) ได้จัดกำลังพลจำนวน 14 นาย ประกอบด้วย ทพ. 2 นาย ชุด RDF 6 นาย ทหารช่าง 6 นาย ออกลาดตระเวนจากฐานปฏิบัติการมรกต ไปยังเนิน 481 ชายแดนช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี กำลังพลชุดลาดตระเวนได้ประสบเหตุเหยียบกับระเบิด บริเวณพิกัด WA 220 […]

เจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก-เจ้าคุณประสิทธิ์ สึกแล้ว

พิษณุโลก 16 ก.ค. – พระชั้นผู้ใหญ่ที่พัวพันสีกากอล์ฟยังทยอยสึกเพิ่ม ล่าสุด “เจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก” แอบสึกแล้วที่วัดสว่างอารมณ์ จ.ตาก หลังมีข่าวลือสะพัดมาตั้งแต่เช้า ขณะที่ “เจ้าคุณประสิทธิ์” ถอดใจสึกแล้ว พระราชรัตนสุธี เจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก เป็นพระชั้นผู้ใหญ่อีก 1 รูป ที่มีชื่อพัวพันกับสีกากอล์ฟ ซึ่งในช่วงเช้ามีข่าวลือว่าจะลาสิกาในวันนี้ ผู้สื่อข่าวไปตรวจสอบตามวัดต่างๆ ในจังหวัดพิษณุโลก โดยเฉพาะที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ วรมหาวิหาร มีตำรวจนอกเครื่องแบบ และเจ้าหน้าที่ มาคอยเฝ้าดูแลตลอดเวลา กระทั่ง เวลา 12.00 น. เจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก ปรากฏตัวในชุดขาว คาดว่าไปลาสิกขาที่วัดสว่างอารมณ์ อำเภอบ้านตาก จังหวัดตาก สำหรับพระราชรัตนสุธี มีตำแหน่งเป็นเจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก ผู้อำนวยการวิทยาลัยสงฆ์พุทธชินราช เป็นพระเถระชั้นผู้ใหญ่ของจังหวัดพิษณุโลกที่ได้รับความเคารพอย่างสูงรูปหนึ่ง เพราะมีบทบาทสำคัญและมีคุณูปการขับเคลื่อนงานคณะสงฆ์ให้รุ่งเรือง นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผู้อำนวยการสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ออกมายืนยันเช่นกันว่า ขณะนี้อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลกได้ทำการลาสิกขาแล้ว และวันนี้เจ้าอาวาสวัดใหญ่จอมปราสาท ก็มารายงานตัวกับเจ้าคณะใหญ่หนกลางด้วยเช่นเดียวกัน กรณีเอกสารสำนักพุทธจังหวัดสมุทรสาครหายออกไปจากวัด ซึ่งขณะนี้ได้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เพราะขณะนี้ยังไม่ชัดเจนว่าเอกสารยังมีอยู่หรือไม่ และถ้าหากเอกสารหายไปจริงก็ถือว่าเป็นการผิดวินัย และเจ้าอาวาสบกพร่อง ต้องไปดูด้วยว่าสาเหตุที่หายเพราะอะไร เพราะเอกสารทางราชการมีการรับส่งเป็นระบบ […]

เปิดคำสารภาพ “สีกากอล์ฟ”

กทม. 16 ก.ค.-เปิดคำสารภาพ “สีกากอล์ฟ” ด้านอดีตพระมหาบุญเลิศ แฉถูกสีกากอล์ฟ กุเรื่องลวงไปบ้านพัก ซ้ำถูกเชิดเงิน 1 แสน เตรียมเข้าแจ้งความเอาผิดเพิ่ม พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผู้บังคับการป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ผบก.ปปป.) กล่าวถึงความคืบหน้าคดีน.ส.วิลาวัลย์ หรือ สีกากอล์ฟ อายุ 35 ปี ว่า จากการสอบปากคำเมื่อวานที่ผ่านมา เจ้าตัวให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีเป็นอย่างมาก พร้อมให้ความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี ซึ่งในวันพรุ่งนี้ทางพนักงานสอบสวน บก.ปปป. จะนำตัวส่งฝากขังยังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เพื่อฝากขังเป็นผัดแรก ด้านพ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการปราบปราม (รอง ผบก.ป.) กล่าวถึงความคืบหน้าการสอบปากคำ น.ส.วิลาวัลย์ ในส่วนของคดีข่มขืนใจและรีดเอาเงินทิดแหล่ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ ว่า เบื้องต้น สีกากอล์ฟ ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี รวมถึงให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี ซึ่งจากการสอบปากคำเบื้องต้นเจ้าตัวยังคงให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยยอมรับในข้อเท็จจริงว่าเคยมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับพระผู้ใหญ่รูปต่างๆ จริง ส่วนกรณีที่ถูกกล่าวหาว่าข่มขู่รีดเอาเงิน และบังคับทิดแหล่ ให้ร่างหนังสือร้องเรียนเจ้าคุณอาชว์ อดีตเจ้าอาวาสวัดตรีฯ เรื่องการมีเพศสัมพันธ์กับหญิงสาว เจ้าตัวอ้างว่าไม่เป็นความจริง แต่ยอมรับว่าเป็นคนให้ทิดแหล่ร่างหนังสือดังกล่าวจริง เพียงแต่เป็นการไหว้วาน ไม่ได้เป็นการบังคับ […]