10 ประเด็นที่น่ากลัวของการนำเสนอข่าวเหตุการณ์กราดยิง

กทม. 10 ก.พ.-เฟซบุ๊กแฟนเพจ “คลินิกสุขภาพจิตนายแพทย์เจษฎา” เผยแพร่สรุป 10 ประเด็นที่น่ากลัวและน่าสนใจของการนำเสนอข่าวเหตุการณ์กราดยิง


ภายหลังเกิดเหตุการณ์กราดยิงมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก 2 ครั้งติดๆ กันในไทย หลายคนเริ่มมีคำถามถึงอิทธิพลการนำเสนอของสื่อเชื่อมโยงกับเหตุความรุนแรงซ้ำๆ แบบนี้หรือไม่ เมื่อวานนี้ เฟซบุ๊กแฟนเพจ คลินิกสุขภาพจิตนายแพทย์เจษฎา ได้เผยแพร่ สรุป 10 ประเด็นที่น่ากลัวและน่าสนใจของการนำเสนอข่าวเหตุการณ์กราดยิง งานวิจัยทางจิตวิทยาและบทเรียนที่มีค่าที่เกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกา โดยมีผู้สนใจแสดงความเห็น และแชร์ไปแล้วจำนวนมาก 


เนื้อหาของบทความ เผยว่าสหรัฐอเมริกามีสถิติที่น่าตกใจเกี่ยวกับเหตุกราดยิง โดยข้อมูลพบว่ามีเหตุกราดยิง 1 ครั้ง เกิดขึ้นทุก 2 สัปดาห์ ในขณะที่เหตุกราดยิงหรือยิงกันในโรงเรียนเกิดขึ้นโดยเฉลี่ย 1 ครั้งในทุก 1 เดือน ทำให้มีงานวิจัยจากผู้เชี่ยวชาญทางจิตวิทยาและอาชญากรรมที่น่าสนใจเกิดขึ้นมากมาย กับประเด็นที่เป็นที่พูดถึงอย่างมากในวันนี้ต่อบทบาทและจรรยาบรรณของสื่อในการรายงานข่าวที่อาจสร้างฆาตกรกราดยิงคนต่อไป โดยสรุปและรวบรวมไว้ 10 ข้อ

1. ผลการศึกษาสำคัญพบว่า ยิ่งสื่อนำเสนอรายละเอียดของเหตุการณ์ ภาพใบหน้า ชื่อของฆาตกร รวมทั้งวิธีที่ฆาตกรใช้ ยิ่งละเอียดมากเพียงใด ก็ยิ่งทำให้เกิดเหตุการณ์กราดยิงตามมาได้มากขึ้นเท่านั้น ผ่านกลไกของพฤติกรรมการเลียนแบบ


2. หากเกิดข่าวใหญ่เรื่องการกราดยิง จะมีความเป็นไปได้ที่จะเกิดเหตุกราดยิงตามมา และมันก็มักจะเกาะกลุ่มกันหรือเกิดใกล้กันเสมอ งานวิจัยชิ้นหนึ่งในปี 2015 พบว่าหากมีเหตุกราดยิง แล้วมีทวิตเตอร์คำว่า “กราดยิง” มากกว่า 10 ทวิตต่อล้านทวิต ความน่าจะเป็นที่จะเกิดเหตุการณ์ที่สองภายใน 7 วัน จะเพิ่มขึ้นได้มากกว่าร้อยละ 50

3. พฤติกรรมเลียนแบบเกิดขึ้นได้ เพราะคนร้ายที่อาจจะมีสภาพจิตใจที่ไม่มั่นคงหรืออาจมีความแปรปรวนทางด้านจิตใจเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว รู้สึกว่าคนร้ายคนก่อนหน้าในข่าวดัง มีลักษณะบางอย่างที่คล้ายกับตน โดยเฉพาะปัจจัยทางเพศและอายุ 

4. ลักษณะการลงข่าวที่สุ่มเสี่ยงต่อการกระตุ้นให้เกิดพฤติกรรมการเลียนแบบ ได้แก่ การลงรายละเอียดเหตุการณ์หรือพฤติการของความรุนแรง การลงรูปใบหน้า หรือรวมลงชื่อของฆาตกร การเจาะลึกประวัติชีวิตฆาตกร

5. ผู้เชี่ยวชาญทางอาชญากรรม พบว่าก่อนที่คนร้ายเหตุกราดยิงคนหนึ่งจะก่อเหตุ เขามักจะได้เห็นสื่อต่างๆ ที่เกี่ยวกับการกราดยิงมาก่อน ข่าวเหล่านั้นทำให้เขารู้สึกถึง “ความเชื่อมโยง” บางอย่างทีคล้ายกับตน เกิดความรู้สึกว่ามีคนที่คิดเช่นเดียวกัน และทำให้เกิดแรงบันดาลใจที่จะลงมือให้สำเร็จ เพราะเห็นคนต้นแบบและวิธีการอย่างละเอียดแล้วจากสื่อ

6. จากผลการศึกษาพบว่า ฆาตกรกราดยิงมักมีความอ่อนไหวและเปราะบางทางอารมณ์จิตใจ มีความรู้สึกว้าเหว่ และมองหาความสัมพันธ์แบบ Parasocial (ความเชื่อมโยงกับคนอื่นที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน) ซึ่งสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นได้อย่างง่ายดายจากการเข้าไปอ่านหรือเสพสื่อที่ให้รายละเอียดของฆาตกรคนก่อนๆ มีฆาตกรที่มหาลัยอิลลินอย ได้ลักพาตัวและฆ่านักศึกษาสาวชาวจีน ตำรวจพบหลักฐานว่าก่อนเกิดเหตุ ฆาตกรได้แชทคุยกับกลุ่มฆาตกรที่เคยก่อเหตุในเน็ตทั้งก่อนและหลังกระทำ

7. เมื่อสื่อนำเสนอเรื่องราวของฆาตกร ทั้งชื่อ ใบหน้า ปมปัญหา รายละเอียดการฆ่า กระบวนการนี้จะทำให้คนร้ายรายนั้นเริ่มเป็นที่รู้จัก อิทธิพลของการนำเสนอนี้ ส่งผลให้คนอีกหลายคนที่มีต้นทุนของจิตใจที่แปรปรวน อำมหิต หรือมีจิตใจที่โหดร้ายอยู่เป็นทุนเดิม รู้สึกถึงความเชื่อมโยงกับตน ทำให้รู้สึกได้ถึงสิ่งที่เหมือนตนเอง

8. ยิ่งฆาตกรได้พื้นที่สื่อ ได้ออกข่าวดัง ได้ออกแถลงข่าว มีภาพการทำแผน ฯลฯ ยิ่งมากเท่าไหร่ ในทางจิตวิทยาแล้วคนร้ายเหล่านี้ก็จะยิ่งรู้สึกว่า “ฉันได้รางวัล” จากความรุนแรงที่ได้ทำไป

9. แล้วสื่อควรจะนำเสนอข่าวอย่างไร เพื่อจะลดโอกาสในการเกิดเหตุกราดยิงในอนาคต

งานวิจัยหลายฉบับได้สรุปถึงแนวทางที่สื่อจะช่วยลดพฤติกรรมการเลียนแบบของคนร้ายกราดยิงได้ โดยการปฏิบัติตามแนวทางการนำเสนอข่าวขององค์การอนามัยโลก โดย

1. ไม่ควรลงข่าวถี่หรือนานจนเกินไป ไม่ลงหัวข่าวตัวโตเตะตา หรือไม่ใส่สีสันให้ตื่นเต้น หรือดึงดราม่าจนเกินเหตุ ควรเขียนข่าวสั้น กระชับ เฉพาะรายละเอียดที่จำเป็นเพื่ออธิบายเหตุการณ์ ลดระยะเวลาการรายงานข่าวโดยรวมของเหตุการณ์นี้

2. ไม่ควรอธิบาย พรรณนา รายละเอียดของพฤติกรรมการฆ่าจนถึงขั้นละเอียดยิบ จนนำไปปฏิบัติหรือต่อยอดพฤติกรรมได้ พึงระมัดระวังดาบสองคมที่อาจเกิดจากการทำอนิเมชั่นจำลองเหตุการณ์ให้ดูซ้ำแล้วซ้ำอีก ยิ่งอธิบายมากก็ยิ่งเลียนแบบได้มาก

3. ไม่ลงรูปถ่าย ภาพประกอบ หรือคลิปมากเกินควร โดยในสหรัฐอเมริกา กำลังมีไอเดียมากขึ้นเรื่อยๆ ถึงการไม่ลงชื่อของคนร้ายในสื่อ หรือถ้าจำเป็นก็ควรลงให้น้อยที่สุด 

4. ไม่ขุดคุ้ยเรื่องราวชีวิตของฆาตกรมาประโคมเผยแพร่ ไม่เผยแพร่ประโยคคำพูด การแถลง คลิปสารภาพผิด ทั้งจากไฟล์เสียง วิดีโอ หรือแม้แต่แคปเจอคำพูดจากเฟชส่วนตัวของ ฆาตกร ฯลฯ กลยุทธ์ที่แนะนำคือ เมื่อต้องนำเสนอเกี่ยวกับพฤติกรรมหรือรายละเอียดใดๆของฆาตกร เช่น การเตรียมการ การวางแผนการยิง ให้สื่อพยายามเชื่อมโยงถึงความน่าอับอาย ความน่ารังเกียจ หรือความขี้ขลาดตาขาวของฆาตกรเสมอ การศึกษาในสหรัฐพบว่า อัตราการกราดยิงมีแนวโน้มลดลงอย่างเห็นได้ชัด เมื่อสื่อหันมานำเสนอข่าวด้วยกลยุทธ์นี้

5. ไม่ขุดคุ้ยหรือพรรณนาแรงจูงใจ ต้นสายปลายเหตุ หรือที่มาของการฆ่าแบบละเอียดจนเกินไป เพราะในทางจิตวิทยาแล้ว มนุษย์ทุกคนจะมีแนวโน้มที่จะเลียนแบบคนที่เรารู้สึกว่าเขามี “อะไร” ที่คล้ายกันกับเราเสมอ เมื่อนำเสนอถี่เข้าถี่เข้า จากที่ไม่ทันสังเกตเห็นก็กลับเห็นได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ยกตัวอย่างเช่น การนำเสนอซ้ำๆว่าฆาตกรทำลงไปเพื่อแก้แค้นจากการที่เขาเคยถูกรังแกมาหลายปี ข้อมูลเช่นนี้เมื่อนำเสนอซ้ำๆ จะส่งผลให้เกิดการเชื่อมโยงว่า การกราดยิงก็เป็นทางเลือกหนึ่งที่ทำได้

6. ควรลดการไลฟ์สดหลังเกิดเหตุการณ์ลง แม้จะขายได้ แต่การไลฟ์สดเพิ่มระดับของ “ความตื่นเต้น” ต่อเหตุการณ์ ที่ทำให้ความสนใจของสังคมเพิ่มขึ้น ทำให้ฆาตกรและคนที่จะเป็นฆาตกรคนต่อไปรับรู้ได้ถึง “ความหอมหวาน” และ “รางวัล” ที่ได้รับเมื่อลงมือฆ่า คำแนะนำคือ ควรเลี่ยงไปใช้การนำเสนอในรูปแบบการอัพเดตที่เป็นลายลักษณ์อักษรแทน สิ่งนี้ไม่เพียงแต่จะลดความหวานของของรางวัลเท่านั้น แต่มันอาจช่วยลดความสนใจโดยรวมของสังคม ช่วยป้องกันการเลียนแบบของฆาตกรคนต่อไปได้

10. จาซินดา อาร์เดิร์น นายกรัฐมนตรีหญิงของนิวซีแลนด์ พูดถึงเหตุกราดยิงในเมืองไครสต์เชิร์ช มีนาคมปีที่แล้ว ซึ่งมีผู้เสียชีวิตถึง 50 ศพ อย่างมีวิสัยทัศน์ โดยประกาศในสภาว่า “เธอจะไม่มีวันเอ่ยถึงชื่อของฆาตกรเด็ดขาด และประชาชนจะไม่ได้ยินชื่อของฆาตกรจากปากของเธออย่างแน่นอน เขาจะต้องได้รับโทษสูงสุดตามกฎหมาย และจะไม่ได้ในสิ่งที่เขาต้องการ นั่นคือการโด่งดังเป็นที่รู้จักแต่บุคคลที่สมควรได้รับการพูดถึง และควรให้เกียรติจริงๆ คือเหล่าคนที่สูญเสียจากเหตุการณ์อันน่าสะเทือนใจครั้งนี้มากกว่า”

บทความของคลินิกสุขภาพจิตนายแพทย์เจษฎา ลงท้ายสรุปขอให้สื่อไทยจงเติบโต ปรับปรุง และเรียนรู้จากความผิดพลาด อย่าให้ความชั่วร้ายนี้ได้มีพื้นที่ในสื่อ ไม่ให้ราคากับเรื่องราวชีวิตของฆาตกร แต่ให้โฟกัสไปที่เรื่องราวของผู้เสียสละ การทำงานที่เหน็ดเหนื่อยและความกล้าหาญของผู้ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงวิธีที่จะป้องกันเหตุการณ์ในลักษณะนี้ในอนาคต จะเป็นแนวทางที่เหมาะสมอย่างยิ่ง และหวังให้เหตุกราดยิงที่น่าเศร้าในครั้งนี้ เป็นครั้งสุดท้ายของไทย.-สำนักข่าวไทย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

วิสามัญคนร้ายกราดยิงเมืองโคราชแล้ว    
ผู้ว่าฯ โคราช แถลงสรุปเหตุกราดยิง ยอดตายอยู่ที่ 30
ร่าง 2 นายตำรวจหน่วยอรินทราช 26 ถึง กทม. กองเกียรติยศตั้งขบวนต้อนรับสมเกียรติ
ประชาชนทยอยวางดอกไม้อาลัยเหยื่อกราดยิงโคราช 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก