มอบเงินเยียวยาผู้บาดเจ็บ-เสียชีวิตเหตุกราดยิงที่โคราช

นครราชสีมา 10 ก.พ.-การจากไปอย่างไม่มีวันกลับของเหยื่อกระสุนจ่าสิบเอกคลั่งกราดยิงในห้างเทอร์มินอล 21 นครราชสีมา ยังสร้างความโศกเศร้าเสียใจให้กับครอบครัว โดยเฉพาะครอบครัวของ 3 พ่อแม่ลูกที่ถูกปลิดชีวิตในภายห้องเย็น ยอมรับยังทำใจไม่ได้ ขณะที่ทุกภาคส่วนเร่งเยียวยาผู้บาดเจ็บและครอบครัวของผู้เสียชีวิตอย่างเต็มที่

นายสุทธิ สุโกศล ปลัดกระทรวงแรงงาน พร้อมคณะ เดินทางไปที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา เพื่อจ่ายเงินสิทธิประโยชน์ผู้ประกันตนให้ครอบครัวผู้เสียชีวิตจากเหตุกราดยิง หลังจากวานนี้มอบไปแล้ว 6 ราย รวมกว่า 2.74 ล้านบาท ส่วนวันนี้มอบให้ครอบครัวผู้เสียชีวิต 4 ราย เป็นเงิน 1,487,635 บาท หนึ่งในครอบครัวผู้ที่รับมอบคือ ครอบครัวของนายสุริยะ ลิมป์รัชตามร, นางสาวปภัชญา การบรรจง และลูกชายวัย 2 ขวบ พ่อแม่ลูกที่เสียชีวิตรวมอยู่กับจ่าสิบเอกที่ก่อเหตุ


พี่เหยื่อกระสุนมั่นใจน้องชายปกป้องครอบครัวเต็มที่แล้ว

นายพงศ์ศิษฐ์ ลิ้มรัชตามร พี่ชายของนายสุริยะ เล่าว่า ครอบครัวน้องชายเปิดร้านขายเครื่องนอนอยู่ที่ชั้นใต้ดินของห้างฯ และขณะเกิดเหตุน้องชายได้พาภรรยาและลูกไปซ่อนตัวอยู่ในตู้ไฟใกล้กับห้องเย็นที่ผู้ก่อเหตุไปใช้ซ่อนตัว โดยช่วง 20.00 น. น้องชายยังติดต่อมาและบอกว่าปลอดภัยดี จากนั้นช่วงกลางดึกติดต่อน้องชายไม่ได้ กระทั่งช่วงเช้าทราบว่าน้องชายพร้อมภรรยาและลูกชายถูกผู้ก่อเหตุยิงเสียชีวิตอย่างโหดเหี้ยม มั่นใจก่อนเกิดเหตุกราดยิง น้องชายพยายามปกป้องชีวิตคนในครอบครัวอย่างดีที่สุดแล้ว


ยอดสมทบช่วยผู้บาดเจ็บ-ครอบครัวผู้เสียชีวิตทะลุ 7 ล้านบาท
ด้านนายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าฯ นครราชสีมา นำเงินจากประชาชนจิตอาสาจำนวน 1.5 ล้านบาท ไปฝากเข้าบัญชีช่วยเหลือเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจากเหตุกราดยิง ทำให้ยอดเงินบริจาคในบัญชีรวมแล้วกว่า 7.5 ล้านบาท

“วีรศักดิ์” ห่วงเศรษฐกิจโคราชซึม สั่งเร่งฟื้นฟู
นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รมช.พาณิชย์ เผยกรมพัฒนาธุรกิจการค้าเตรียมประกาศขยายเวลายื่นงบการเงินให้นิติบุคคลที่ประสบเหตุกราดยิง รวมถึงนิติบุคคลที่อยู่ในช่วงที่ต้องการการฟื้นฟูกิจการ ซึ่งรายละเอียดทั้งหมดจะประกาศภายในสัปดาห์นี้

ส่วนแนวทางฟื้นฟูจิตใจผู้ประกอบการ และพนักงานห้างเทอร์มินอล 21 กระทรวงพาณิชย์กำลังประสานรายละเอียด เพื่อเยียวยาอย่างดีที่สุด รวมถึงเร่งพูดคุยส่วนราชการและภาคเอกชนของจังหวัด ฟื้นบรรยากาศการค้าขาย ไม่ให้กระทบกับภาพรวมเศรษฐกิจ

ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม แถลงการณ์ผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ใจความว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงแสดงความเสียพระราชหฤทัยต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่จังหวัดนครราชสีมา เมื่อวันเสาร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ 2563 และพระราชทานกำลังใจให้แก่ครอบครัวผู้สูญเสียและเจ้าหน้าที่ทุกคน พร้อมทั้งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานรับศพผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ดังกล่าวไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ และพระราชทานพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรมและพระราชทานเพลิงศพเป็นกรณีพิเศษ อีกทั้งยังโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้องคมนตรี และข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ จากสำนักพระราชวัง และหน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์ เป็นผู้แทนพระองค์ไปเยี่ยมเยียนผู้ได้รับบาดเจ็บและครอบครัวผู้สูญเสียทุกราย

ด้าน พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ส่งสารขอบคุณผู้บังคับบัญชาและตำรวจทุกนายที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ ในการระงับเหตุคนร้ายกราดยิงที่โคราช ด้วยความกล้าหาญ เสียสละ อุทิศตน แม้ต้องแลกด้วยเลือดเนื้อและชีวิต เพื่อปกป้องประชาชนผู้บริสุทธิ์ สมกับการได้ทำหน้าที่ “ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์” อย่างแท้จริง.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้นหาร่างใต้ตึกถล่ม

คาดไม่เกิน 1 สัปดาห์ ทราบชัดมีผู้ติดค้างในซากอาคาร สตง.หรือไม่

คาดไม่เกิน 1 สัปดาห์ จะทราบชัดมีผู้ติดค้างในซากอาคาร สตง. หรือไม่ ปัจจุบันการทำงานบริเวณทางเชื่อมด้านอาคารจอดรถด้านหลังยังลงไปไม่ถึงพื้นของชั้นใต้ดิน

ผบ.ตร. สั่งเร่งตรวจสอบ ตร.พาผู้ต้องหาลอบนำข้อสอบฯ ออกจากโรงพัก

ผบ.ตร. สั่งเร่งตรวจสอบกรณีมีตำรวจพาผู้ต้องหาลักลอบนำข้อสอบฯ ออกจากโรงพัก ทั้งที่การสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ย้ำใครผิดว่าไปตามผิด

รวบมือปาหิน

รวบแล้วมือปาหินใส่รถ ย่านบางนา-ตราด อ้างขาดสติเพราะดื่มเหล้า

รวบแล้วมือปาหินใส่รถประชาชน ย่านบางนา-ตราด อ้างขาดสติเพราะดื่มเหล้า พบประวัติเคยถูกจับมาแล้ว 12 ครั้ง ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 13

ข่าวแนะนำ

สร้างสถานการณ์ ปาประทัดบอลใส่บ้านชาวไทยพุทธที่ปัตตานี

คนร้ายสร้างสถานการณ์ปาประทัดบอลใส่บ้านชาวไทยพุทธ ในพื้นที่ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี เจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบลายนิ้วมือ หาตัวผู้ก่อเหตุ

กำชับเฝ้าระวังโรค “แอนแทรกซ์” เข้มข้น

“สมศักดิ์” กำชับเฝ้าระวังโรค “แอนแทรกซ์” เข้มข้น จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย จับมือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันจำกัด-ยับยั้ง การแพร่ระบาด พร้อมเตือนรับประทานหมูดิบ เสี่ยงโรคหูดับตลอดชีวิต