แนะรัฐถอดบทเรียนเหตุกราดยิง หวั่นเหตุการณ์ซ้ำรอย

กทม.10ก.พ.-นักวิชาการอาชญาวิทยา  แนะ รัฐควรถอดบทเรียน เหตุกราดยิง  ป้องกันพฤติกรรมเลียนแบบ  หามาตรการป้องกันเหตุซ้ำร้อย พร้อมพัฒนาองค์ความรู้รับมือกับเหตุเผชิญหน้า ให้เจ้าหน้าที่และประชาชน   


รศ.พ.ต.ท.ดร.กฤษณพงศ์ พูตระกูล ผู้ช่วยอธิการบดีและประธานกรรมการคณะอาชญาวิทยา มหาวิทยาลัยรังสิต  กล่าวถึงเหตุการณ์กราดยิงในตัวเมืองโคราช เมื่อวันที่8กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ว่า ต้องมีการถอดบทเรียนในหลายประเด็น คือ  ต้องมีการสอบสวน มูลเหตุและแรงจูงใจในการก่อเหตุมาจากเรื่องใด  ควรดำเนินการสอบสวนอย่างจริงจัง เพื่อหามาตรการและกำหนดแนวทางการป้องกันการก่อเหตุประวัติศาสตร์ซ้ำรอย ซึ่งการก่อเหตุกราดยิงในต่างประเทศ หลังเกิดเหตุต้องมีการตรวจสอบและสอบสวนอย่างจริงจัง เพื่อหาสาเหตุแรงจูงใจหรือมูลเหตุ และเน้นการพัฒนาองค์ความรู้การประเมินผลของเจ้าหน้าที่ที่ครอบครองอาวุธในเรื่องภาวะผู้นำ เนื่องจากผู้ก่อเหตุเป็นทหารชั้นผู้น้อยแต่สามารถไปฆ่าเจ้านายตัวเอง สะท้อนให้เห็นว่ามีความเครียดหรือกดดัน ถึงขั้นยิงเจ้านายตังเองได้ หน่วนงานที่ใช้อาวุธ ทั้ง ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง หน่วยงานด้านความมั่นคง ผู้บังคับบัญชาควรต้องศึกษาในเรื่องนี้จริงจัง  ยกตัวอย่าง ตำรวจในประเทศเยอรมัน ให้ความสำคัญในการประเมินภาวะผู้นำในแต่ละระดับ หากมีความรู้ดี ทักษะดี แต่ไม่มีภาวะความเป็นผู้นำก็ไม่สามารถก้าวหน้าหรือเป็นผู้บังคับบัญชาได้    


ส่วนที่2 ระดับนโยบาย ต้องให้ความสำคัญเรื่องการรักษาความปลอดภัย ในระดับพื้นที่มากขึ้น ทั้งกำลังคน สายตำรวจ อุปกรณ์รักษาความปลอดภัยต่างๆ  งบประมาณ ดูว่ามีความพร้อมมากน้อยแค่ไหนในการเผชิญเหตุและรับมือหากเกิดสถานการณ์เช่นนี้  ตามมาตรฐานสากล หากคนร้ายมีอาวุธสงคราม เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องมีการควบคุมพื้นที่ และจำกัดพื้นที่เพื่อไม่ให้คนร้ายก่อเหตุในวงกว้างหรือกันประชาชนไม่เข้ามาใช้เส้นทางคนที่ร้ายกำลังใช้เส้นทางอยู่  สิ่งเหล่านี้ต้องมาเรียนรู้พร้อมกันและต้องมีการพัฒนาองค์ความรู้ของตำรวจและพัฒนารูปแบบในการสื่อสารกับประชาชนในพื้นที่อย่างไรเพื่อลดความสูญเสีย  เนื่องจากเหตุการณ์ไม่คาดฝันแบบนี้จะเกิดขึ้นอีกหรือไม่ เพื่อการป้องกันอย่างมีประสิทธิภาพและการรัดกลุม  


ส่วนที่3 การสร้างตัวแบบที่ดี เพราะโลกสมัยนี้มีทั้งโลกของความเป็นจริงและโลกออนไลน์หรือโลกเสมือน  โลกแห่งความเป็นจริงอาจไม่ได้รับการยอมรับ แต่โลกออนไลน์กับได้รับการยอมรับ  แม้แต่โพสต์เรื่องรุนแรง แต่กลับมาคนชื่นชม จึงต้องสร้างตัวแบบที่ดีให้คนในสังคมเป็นแบบอย่าง 

ส่วนที่4.ต้องเรียนรู้ร่วมในการนำเสนอข้อมูลข่าวสารเพื่อแจ้งข้อมูลข่าวสารให้ประชาชนได้รับทราบ  ในช่วงขณะเกิดเหตุการณ์อาจมีความสุ่มเสี่ยงให้คนร้ายทราบความเคลื่อนไหวในการปฏบัติงานของเจ้าหน้าที่ เช่น มีการนำเสนอว่า ขณะนี้มีเจ้าหน้าที่เข้าไปถึงจุดไหนและมีใครหลบซ่อนอยู่จุดไหนบ้าง ซึ่งคนร้ายมีการรับชมการถ่ายทอดสดของสื่อผ่านมือถือได้เช่นกันจะทำให้คนร้ายรู้ความเคลื่อนไหวของเจ้าหน้าที่และจุดซ่อนตัวของคนที่กำลังติดอยู่ด้านใน 

รศ.พ.ต.ท.ดร.กฤษณพงศ์  เชื่อว่า แรงจูงใจหลัก มูลเหตุสำคัญ น่าจะมาจากความเครียดเรื่องส่วนตัว ในเรื่องการไม่ได้รับเงินค่านายหน้าตามที่ตกลงกัน  และระบบของงาน เนื่องจากผู้ก่อเหตุเป็นทหารชั้นผู้น้อย การไปเรียกร้องสิทธิ์ต่างๆ คงทำได้อยาก โดยระบบทำให้เกิดความเครียดสะสม มีการโพสต์ผ่านเฟสบุ๊คส่วนตัวว่าจะมีการก่อเหตุ มีการโพสต์รูปปืน ต้องเรียนรู้ร่วมกันว่าต่อไปหากมีเพื่อนร่วมงาน โพสต์ลักษณะนี้ ต้องรีบเข้าไปคุย เจ้านายต้องเรียกมาคุย ทำความเข้าใจ เพื่อป้องกันก่อนถึงจุดวิกฤติ ก่อเหตุรุนแรง  ส่วนมูลเหตุการฆ่าผู้บริสุทธิ์ นั้น เชื่อว่า เกิดจากการนัดคุยที่ไม่ลงตัว และคนร้ายอาจเข้าใจว่าถูกเอาเปรียบ เลยตัดสินใจยิงเจ้านายและคนที่เกี่ยวข้อง และชิงอาวุธสงครามในค่ายทหาร เพราะเชื่อว่าตำรวจจะต้องติดตามจับกุมตัว จึงต้องมีอาวุธสงครามเพื่อป้องกันตัว และต้องหลบหนีไปในที่ที่สามารถนำมนุษย์มาเป็นโล่กำบังได้  จึงเลือกห้างสรรพสินค้า ซึ่งธรรมชาติของคนร้ายกราดยิงคนในที่สาธารณะ เวลาก่อเหตุจะเลือกสถานที่คือชุมชน  โรงเรียน ศูนย์การค้า เพราะการปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ต้องใช้ความระมัดระวังมาก  ในแต่ละคดีมีความยากง่ายต่างกัน  ผู้ก่อเหตุมีทักษะการยิงปืน และมีอาวุธสงคราม การปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่คำนึงถึงชีวิตของประชาชนสูงมาก  จึงไม่สามารถใช้ความรุนแรงระงับเหตุได้ตั้งแต่แรก  หากผู้ก่อเหตุเกิดการต่อสู้  การสูญเสียจะมากกว่านี้ได้  ซึ่งเป็นข้อจำกัดในการปฏิบัติการในครั้งนี้  

รศ.พ.ต.ท.ดร.กฤษณพงศ์   ยอมรับว่าลักษณะการก่อเหตุกราดยิงในที่สาธารณะครั้งนี้ เป็นครั้งแรกในประเทศไทย และมีผู้เสียชีวิตถึง 30 คน บาดเจ็บอีกจำนวนมาก ต้องถอดบทเรียนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รวมทั้งดูรูปแบบการป้องกันแก้ไขเหตุลักษณะนี้ในต่างประเทศด้วย เช่น ในสหรัฐอเมริกา เป็นประเทศที่มีเหตุกราดยิงมากที่สุดในโลก ได้มีการศึกษาและทำวิจัยว่า แรงจูงใจในการก่อเหตุของคนร้ายคืออะไร  จัดทำระดับนโยบาย เพื่อวางแผนในการรับมือกับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นอีก  ทั้งรัฐ เอกชน ประชาชนในพื้นที่ ต้องบูรณาการร่วมกัน  สำหรับประเทศไทยเหตุกราดยิง อาจจบในทางคดีเนื่องจากคนร้ายเสียชีวิต แต่เพิ่งจะเป็นจุดเริ่มต้นสำหรับประเทศไทยที่ต้องมาถอดบทเรียน เรียนรู้ ปรากฏการณ์อาชญากรรมร้ายแรงที่เกิดขึ้นในโลก นอกเหนือจากเหตุการณ์ในประเทศไทยเองเพื่อเตรียมรับมือกับสถานการณ์ในอนาคต

นอกจากนี้ยังแนะนำประชาชน หากเจอเหตุกราดยิงในที่สาธารณะ ตามมาตรฐานสากล หากประชาชนอยู่ในพื้นที่ชุมชน ห้าง โรงเรียน หากได้ยินเสียงปืนดัง ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่า มีความผิดปกติเกิดขึ้น  ให้วิ่งออกจากที่เกิดเหตุ โดยใช้บันไดหนีไฟ หลบหนีออกมาให้เร็วที่สุด ห้ามใช้ลิฟท์ เนื่องจากคนร้ายอาจกราดยิงเข้าไปในลิฟท์  หากอยู่ใกล้กับเสียงปืน ให้ตั้งสติและสังเกตุว่าเสียงปืนอยู่ในทิศทางไหน หากพบว่าคนร้ายอยู่ไกลให้หาทางหลบหนี หากพบว่าอยู่ใกล้และอยู่ชั้นเดียวกัน ให้หาทางหลบซ่อนตัว  โดยการปิดเสียงเครื่องมือสื่อสารทุกชนิด และหาช่องทางติดต่อสื่ออสารกับคนภายนอก โดยการส่งข้อความ แจ้งตำแหน่ง พิกัดที่หลบอยู่ เพื่อส่งต่อเจ้าหน้าที่ประเมินการช่วยเหลือ  ทรัพย์สินมีค่าทุกชนิดให้ทิ้ง บางคนลืมกระเป๋าไว้บนโต๊ะ จะวิ่งกลับไปเอา ขอให้สละไปเลย หรือรองเท้าหลุด จะวิ่งกลับไปเอา  บางครั้งต้องเรียนรู้สิ่งเหล่านี้ร่วมกัน  ในมาตรฐานสากล หากคนร้ายมาจวนตัวและรู้ว่าตัวเองอยู่ตำแหน่งนี้  ต้องคิดเพื่อต่อสู้  ซึ่งจะมีการเรียนการสอนในโรงเรียน และมีการเผยแพร่องค์ความรู้จากหน่วยงานสู่สาธารณ  

ทั้งนี้ ในต่างประเทศมีการศึกษาพบว่า เหตุกราดยิงที่มีความต่อเนื่อง เป็นพฤติกรรมที่เกิดมาจากการเลียนแบบกันได้  ซึ่งเกิดจากการดูจากสื่อหรือดูจากข่าว และเรียนรู้ข้อมูลนำไปสู่พฤติกรรมเลียนแบบ  สื่อมีส่วนสำคัญมากจึงไม่สนับสนุนการนำเสนอภาพก่อเหตุถี่ๆซ้ำๆ จะทำให้คนซึมซับพฤติกรรมเหล่านั้นได้  หากเปลี่ยนเป็นการ นำเสนอภาพฮีโร่คือ เจ้าหน้าที่ที่เข้าไปช่วยผู้บาดเจ็บ  เจ้าหน้าที่พยาบาล พลเมืองดี ผู้ที่กล้าหาญ กล้าคิด กล้าทำในสิ่งที่ถูกต้อง ไม่ละเมิดกฏหมาย แทน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“สุชาติ” จ่อลาออก สส. ให้สภามี สส.ทำงาน

ทำเนียบ 7 ก.ค.-“สุชาติ” เผยเตรียมลาออก สส. เพื่อให้บัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้ขึ้นมา มองให้สภามี สส.ทำงาน นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงธรรมเนียมปฏิบัติของคนที่เป็น สส.ระบบบัญชีรายชื่อ จะลาออกเมื่อเป็นรัฐมนตรี หรือไม่ว่า ที่ผ่านมายังไม่มีการลาออกแต่โดยธรรมเนียมก็ควรจะลาออก เพราะการทำหน้าที่ของรัฐมนตรีก็เต็มเวลาอยู่แล้ว ไม่มีเวลาที่จะไปช่วยงานสภา ซึ่งขณะนี้สภาเสียงปริ่มน้ำ ซึ่งตนมีความตั้งใจที่จะลาออกจาก สส ระบบบัญชีรายชื่ออยู่แล้ว เพื่อให้ สส.ระบบบัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้เลื่อนขึ้นมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สส. ลำดับถัดไปที่จะขึ้นมาเป็น สส.แทนนายสุชาติ คือ นายเอกพร รักความสุข บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 38.-316.-สำนักข่าวไทย

พม.ร้องเอาผิด “จอนนี่ มือปราบ” สร้างรีสอร์ทรุกล้ำที่ส่วนกลาง

บก.ปทส. 7 ก.ค. – จนท.กรมพัฒนาสังคมฯ ร้องตำรวจป่าไม้ตรวจสอบปมรีสอร์ทของ “จอนนี่มือปราบ” อินฟลูชื่อดัง บุกรุกพื้นที่นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ในอุบลราชธานี และถูกข่มขู่ไม่ให้เข้าพื้นที่ นายวัชระ โกเสนตอ นักพัฒนาสังคมชำนาญการพิเศษ ได้รับมอบอำนาจจากนายกันตพงศ์ รังษีสว่าง อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นำหลักฐานเอกสารเข้าแจ้งความกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ บก.ปทส. เพื่อให้ดำเนินคดีกับ ด.ต.ยุทธพล หรือ “จอนนี่ มือปราบ” อดีตตำรวจที่ผันตัวลาออกจากราชการมาเป็นอินฟลูเอนเซอร์ กรณีสร้างรีสอร์ทรุกเข้าไปในเขตนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ตำบลคำเขื่อนแก้ว อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี นายวัชระ เปิดเผยว่า กรมพัฒนาสังคมฯ รับแจ้งจากนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ว่ามีผู้เข้าไปทำประโยชน์ในที่ดินของนิคมโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยส่วนที่รุกล้ำเข้ามาเป็นพื้นที่ที่นิคมกันไว้เป็นป่าไม้ส่วนกลาง 20% รุกล้ำเข้ามาประมาณ 1 ไร่ และเริ่มก่อสร้างรีสอร์ทเมื่อปี 2564 เป็นต้นมา และทางกรมฯ ก็ได้ลงบันทึกประจำวันและมีหนังสือให้ระงับการดำเนินการรีสอร์ทมาตั้งแต่ปี 2565 แต่เจ้าของรีสอร์ทไม่ให้ความร่วมมือ และยังมาโวยวายที่นิคมฯ ข่มขู่เจ้าหน้าที่ ไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปที่รีสอร์ท ทั้งนี้นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย มีพื้นที่ตามแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งนิคมสร้างตนเองฯ ชัดเจน เนื้อที่ […]

Camp Mystic after Texas floods

เปิดภาพความเสียหายน้ำท่วมแคมป์ในเท็กซัส

เท็กซัส 6 ก.ค.- ทีมกู้ภัย อาสาสมัครและตำรวจ ช่วยกันรื้อถอนเศษซากความเสียหายและซากต้นไม้กิ่งไม้ใกล้ที่ตั้งแคมป์ในรัฐเท็กซัสของสหรัฐ ซึ่งมีนักเรียนหญิง 27 คน สูญหายจากเหตุน้ำท่วมฉับพลันที่เกิดขึ้นเมื่อเช้ามืดวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น   ค่ายมิสติก (Camp Mystic) เป็นค่ายกิจกรรมนักเรียนหญิงล้วน มีนักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมในค่าย 700 คน ในช่วงที่เกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมฉับพลันครั้งใหญ่ในเทศมณฑลเคอร์ ทางตอนกลางของรัฐเท็กซัส แคมป์แห่งนี้ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำกัวดาลูปในแถบหุบเขาตอนกลางรัฐเท็กซัส ซึ่งเป็นศูนย์กลางที่เกิดน้ำท่วม ก่อตั้งโดยโค้ชฟุตบอลมหาวิทยาลัยเท็กซัส เมื่อเกือบหนึ่งร้อยปีก่อนในปี 2469 เพื่อให้เยาวชนหญิงได้สัมผัสบรรยากาศแบบคริสเตียนในการพัฒนาตนเอง.-820(814).-สำนักข่าวไทย

กรมอุตุฯ เตือน 4 ภาครับมือฝนถล่ม ระวังน้ำท่วม-น้ำป่าไหลหลาก

กทม. 6 ก.ค.- กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยยังมีฝนฟ้าคะนอง เตือน “เหนือ อีสาน ตะวันออก ใต้” รับมือฝนตกหนัก อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณจังหวัดภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเมียนมาตอนบนและลาวตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง พายุโซนร้อน “ดานัส” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะเคลื่อนเข้าใกล้ไต้หวัน ในช่วงวันที่ 6–7 กรกฎาคม 2568 โดยไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย แต่จะทำให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่ปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยพายุนี้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

คุมได้แล้ว! เพลิงไหม้โรงงานผลิตยาง จ.สมุทรสาคร

สมุทรสาคร 7 ก.ค. – คุมได้แล้ว! ไฟไหม้โรงงานผลิตยาง จ.สมุทรสาคร พบต้นเพลิงเกิดขึ้นบริเวณท่อส่งน้ำมัน หวั่นอาคารพังถล่ม หลังโหมไหม้รุนแรง ภาพจากมุมสูงจะเห็นอาคารที่เกิดเหตุมีขนาดใหญ่เนื้อที่ราวๆ 3-4 ไร่ ต.บ้านเกาะ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ของบริษัทประกอบกิจการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่ทำจากยาง เจ้าหน้าที่ต้องระดมรถน้ำของ อบต.บ้านเกาะ และพื้นที่ใกล้เคียงกว่า 20 คัน ฉีดน้ำสกัดเพลิงที่โหมลุกไหม้อย่างรุนแรง ควันสีดำพวยพุ่งขึ้นท้องฟ้า มีเสียงระเบิดดังขึ้นเป็นระยะ จุดต้นเพลิงเกิดขึ้นบริเวณท่อส่งน้ำมันที่ใช้ในกระบวนการผลิตภายในโรงงาน เนื่องจากมีเชื้อเพลิงไวไฟ ประกอบกับภายในมีสินค้าประเภทยางที่ผลิตแล้วเป็นจำนวนมาก ทำให้เพลิงลุกลามอย่างรวดเร็วจนอาคารเริ่มทรุดตัว มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 2 คน เป็นเจ้าหน้าที่ของโรงงาน 1 คน และเจ้าหน้าที่ดับเพลิง 1 คน เจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง จึงควบคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัดได้ แต่ไฟยังดับไม่สนิท เนื่องจากภายในมีทั้งเครื่องจักรที่ใช้ในกระบวนการผลิต วัตถุดิบไวไฟ และสินค้ายางยืดที่ผลิตเสร็จแล้วจำนวนมาก ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี จึงต้องฉีดน้ำหล่อเลี้ยงไปเรื่อยๆ พร้อมกับให้เจ้าหน้าที่ชุดผจญเพลิงนำอุปกรณ์เข้าไปดับไฟด้านใน ทั้งนี้ ต้องเฝ้าระวังความปลอดภัยจากตัวอาคารที่อาจพังถล่มลงมาได้ เนื่องจากถูกไฟลุกไหม้อย่างรุนแรงจนเสียหายเกือบทั้งหมด คนงานเล่าว่าเพลิงลุกที่ท่อส่งน้ำมันที่ส่งไปยังเครื่องจักร ซึ่งใช้ในกระบวนการผลิตสินค้าประเภทยาง แต่ไม่รู้ว่าเกิดจากอะไร […]

หนุ่มวัย 24 สารภาพผลักลูกเลี้ยงหัวฟาดพื้นดับ คุมทำแผนฯ

นนทบุรี 7 ก.ค. – ตำรวจคุมตัวพ่อเลี้ยงโหด ผลักลูกเลี้ยงวัย 2 ขวบ ล้มศีรษะฟาดพื้นเสียชีวิต ทำแผนฯ หลังเค้นสอบกว่า 6 ชั่วโมง จนยอมรับ อ้างโมโหเด็กส่งเสียงดังรบกวน ตำรวจ สภ.บางบัวทอง คุมตัวนายธนวัฒน์ อายุ 24 ปี ทำแผนประกอบคำรับสารภาพทำร้ายร่างกาย “น้องขงเบ้ง” อายุ 2 ขวบ 5 เดือน ลูกเลี้ยง จนเสียชีวิตภายในบ้านพัก ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี พร้อมให้การว่า เด็กส่งเสียงดังรบกวนจึงเกิดความโมโหผลักจนล้ม ทำให้บริเวณท้ายทอยกระแทกกับพื้น กระทั่งแน่นิ่งไป เหตุเกิดช่วงเวลาประมาณ 18.00-20.00 น. เมื่อวานนี้ (6 ก.ค.) ส่วนบาดแผลรอยจ้ำตามร่างกายและบาดแผลอื่นๆ นายธนวัฒน์ยังไม่รับสารภาพ ต้องรอผลการตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ประกอบอีกครั้ง แม่ของเด็ก อายุ 25 ปี เล่าว่า ตนออกไปทำงานทุกวัน เวลา 4 โมงเย็น […]

“บิ๊กเต่า” เผย “สีกา ก.” ให้ข้อมูลเป็นประโยชน์ เลือกเหยื่อรวย-เข้าถึงง่าย

7 ก.ค. – “บิ๊กเต่า” เรียกประชุมแบ่งภารกิจให้กองใต้สังกัด สืบสวนสอบสวนหาข้อมูลเพิ่ม เผยคืบหน้ากรณี “ทิดอาชว์” และนางสาว ก. เจ้าตัวยอมรับเลือกแต่คนรวย-เข้าถึงง่าย อ้างสำนึกผิด ยอมร่วมมือกับตำรวจ พร้อมจี้สำนักพุทธฯ ทำงานให้มากกว่านี้ เพื่อเรียกศรัทธาวงการสงฆ์กลับมา ความคืบหน้าในประเด็น อดีตพระเทพวชิรปาโมกข์ หรือ ทิดอาชว์ เจ้าอาวาสวัดตรีทศเทพ เจ้าคณะภาค 14-15 สายธรรมยุต มีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับนางสาว ก. จนถูกแบล็กเมล์รีดไถ่เงิน 7.3 ล้านบาท ล่าสุดวันนี้ เวลา 14.00 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. และ พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. ได้เรียกคณะทำงานเข้าประชุมวางแผนการทำงานในกรณีของทิดอาชว์และนางสาว ก. ซึ่งใช้เวลาประมาณกว่า 3 ชั่วโมง โดย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ได้ออกมาเผยความคืบหน้าว่า วันนี้เป็นการเรียกประชุมกองงานต่าง ๆ เพื่อแบ่งสายงานมอบหมายภารกิจให้แต่ละกองไปสืบสวนสอบสวนหาข้อมูลมาเพิ่มเติม ภายหลังจากที่ทำการสอบสวนนางสาว ก. และได้ข้อมูลมามากพอสมควร […]

Cambodia strongly rejects Thailand’s baseless claim over Ta Krabei Temple

กัมพูชาโต้ไทยอ้างปราสาทตาควายอยู่ในไทย

พนมเปญ 7 ก.ค.- กัมพูชาคัดค้านอย่างหนักว่า ไทยอ้างโดยไร้มูลว่า ปราสาทตาควายอยู่ในดินแดนไทย และตำหนิไทยว่าห้ามชาวกัมพูชาคล้องผ้าขาวม้าขึ้นปราสาทตาควาย เว็บไซตขแมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานว่า กระทรวงกลาโหมแห่งชาติของกัมพูชาได้ออกแถลงการณ์แสดงความคัดค้านอย่างหนักต่อการกล่าวอ้างอย่างไร้มูลและโอหังของสื่อไทย เจ้าหน้าที่ทหารไทย และพลเรือนชาวไทยบางกลุ่มที่ว่า ปราสาทตาควายตั้งอยู่ในดินแดนอธิปไตยของไทย แถลงการณ์ของกัมพูชาระบุว่า การกล่างอ้างดังกล่าวเป็นการบิดเบือนความจริงอย่างสิ้นเชิง เพราะไทยอ้างแผนที่ฝ่ายเดียวที่ไม่มีคุณค่าทางกฎหมายตามหลักการกฎหมายสากล กัมพูชายืนยันว่า ในทางภูมิศาสตร์แล้วปราสาทตาควายตั้งอยู่ในเทือกเขาดงรัก อำเภอบันเตียอัมปึล จังหวัดอุดรเมียนเจยหรืออุดรมีชัย ซึ่งทั้งหมดอยู่ในดินแดนและอธิปไตยของกัมพูชา โดยเป็นไปตามกฎหมายที่ได้รับการรับรองจากสากล แถลงการณ์ของกระทรวงกลาโหมกัมพูชายังระบุว่า ทหารไทยห้ามนักท่องเที่ยวชาวกัมพูชาคล้องผ้ากรอมาหรือผ้าขาวม้าติดธงชาติกัมพูชาขึ้นปราสาทตาควาย แต่กลับอนุญาตให้นักท่องเที่ยวชาวไทยสวมเครื่องแต่งกายและเครื่องประดับติดธงชาติไทย ถือเป็นการละเมิดข้อตกลงทวิภาคีที่เคยตกลงกันไว้.-814.-สำนักข่าวไทย