แนะรัฐถอดบทเรียนเหตุกราดยิง หวั่นเหตุการณ์ซ้ำรอย

กทม.10ก.พ.-นักวิชาการอาชญาวิทยา  แนะ รัฐควรถอดบทเรียน เหตุกราดยิง  ป้องกันพฤติกรรมเลียนแบบ  หามาตรการป้องกันเหตุซ้ำร้อย พร้อมพัฒนาองค์ความรู้รับมือกับเหตุเผชิญหน้า ให้เจ้าหน้าที่และประชาชน   


รศ.พ.ต.ท.ดร.กฤษณพงศ์ พูตระกูล ผู้ช่วยอธิการบดีและประธานกรรมการคณะอาชญาวิทยา มหาวิทยาลัยรังสิต  กล่าวถึงเหตุการณ์กราดยิงในตัวเมืองโคราช เมื่อวันที่8กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ว่า ต้องมีการถอดบทเรียนในหลายประเด็น คือ  ต้องมีการสอบสวน มูลเหตุและแรงจูงใจในการก่อเหตุมาจากเรื่องใด  ควรดำเนินการสอบสวนอย่างจริงจัง เพื่อหามาตรการและกำหนดแนวทางการป้องกันการก่อเหตุประวัติศาสตร์ซ้ำรอย ซึ่งการก่อเหตุกราดยิงในต่างประเทศ หลังเกิดเหตุต้องมีการตรวจสอบและสอบสวนอย่างจริงจัง เพื่อหาสาเหตุแรงจูงใจหรือมูลเหตุ และเน้นการพัฒนาองค์ความรู้การประเมินผลของเจ้าหน้าที่ที่ครอบครองอาวุธในเรื่องภาวะผู้นำ เนื่องจากผู้ก่อเหตุเป็นทหารชั้นผู้น้อยแต่สามารถไปฆ่าเจ้านายตัวเอง สะท้อนให้เห็นว่ามีความเครียดหรือกดดัน ถึงขั้นยิงเจ้านายตังเองได้ หน่วนงานที่ใช้อาวุธ ทั้ง ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง หน่วยงานด้านความมั่นคง ผู้บังคับบัญชาควรต้องศึกษาในเรื่องนี้จริงจัง  ยกตัวอย่าง ตำรวจในประเทศเยอรมัน ให้ความสำคัญในการประเมินภาวะผู้นำในแต่ละระดับ หากมีความรู้ดี ทักษะดี แต่ไม่มีภาวะความเป็นผู้นำก็ไม่สามารถก้าวหน้าหรือเป็นผู้บังคับบัญชาได้    


ส่วนที่2 ระดับนโยบาย ต้องให้ความสำคัญเรื่องการรักษาความปลอดภัย ในระดับพื้นที่มากขึ้น ทั้งกำลังคน สายตำรวจ อุปกรณ์รักษาความปลอดภัยต่างๆ  งบประมาณ ดูว่ามีความพร้อมมากน้อยแค่ไหนในการเผชิญเหตุและรับมือหากเกิดสถานการณ์เช่นนี้  ตามมาตรฐานสากล หากคนร้ายมีอาวุธสงคราม เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องมีการควบคุมพื้นที่ และจำกัดพื้นที่เพื่อไม่ให้คนร้ายก่อเหตุในวงกว้างหรือกันประชาชนไม่เข้ามาใช้เส้นทางคนที่ร้ายกำลังใช้เส้นทางอยู่  สิ่งเหล่านี้ต้องมาเรียนรู้พร้อมกันและต้องมีการพัฒนาองค์ความรู้ของตำรวจและพัฒนารูปแบบในการสื่อสารกับประชาชนในพื้นที่อย่างไรเพื่อลดความสูญเสีย  เนื่องจากเหตุการณ์ไม่คาดฝันแบบนี้จะเกิดขึ้นอีกหรือไม่ เพื่อการป้องกันอย่างมีประสิทธิภาพและการรัดกลุม  


ส่วนที่3 การสร้างตัวแบบที่ดี เพราะโลกสมัยนี้มีทั้งโลกของความเป็นจริงและโลกออนไลน์หรือโลกเสมือน  โลกแห่งความเป็นจริงอาจไม่ได้รับการยอมรับ แต่โลกออนไลน์กับได้รับการยอมรับ  แม้แต่โพสต์เรื่องรุนแรง แต่กลับมาคนชื่นชม จึงต้องสร้างตัวแบบที่ดีให้คนในสังคมเป็นแบบอย่าง 

ส่วนที่4.ต้องเรียนรู้ร่วมในการนำเสนอข้อมูลข่าวสารเพื่อแจ้งข้อมูลข่าวสารให้ประชาชนได้รับทราบ  ในช่วงขณะเกิดเหตุการณ์อาจมีความสุ่มเสี่ยงให้คนร้ายทราบความเคลื่อนไหวในการปฏบัติงานของเจ้าหน้าที่ เช่น มีการนำเสนอว่า ขณะนี้มีเจ้าหน้าที่เข้าไปถึงจุดไหนและมีใครหลบซ่อนอยู่จุดไหนบ้าง ซึ่งคนร้ายมีการรับชมการถ่ายทอดสดของสื่อผ่านมือถือได้เช่นกันจะทำให้คนร้ายรู้ความเคลื่อนไหวของเจ้าหน้าที่และจุดซ่อนตัวของคนที่กำลังติดอยู่ด้านใน 

รศ.พ.ต.ท.ดร.กฤษณพงศ์  เชื่อว่า แรงจูงใจหลัก มูลเหตุสำคัญ น่าจะมาจากความเครียดเรื่องส่วนตัว ในเรื่องการไม่ได้รับเงินค่านายหน้าตามที่ตกลงกัน  และระบบของงาน เนื่องจากผู้ก่อเหตุเป็นทหารชั้นผู้น้อย การไปเรียกร้องสิทธิ์ต่างๆ คงทำได้อยาก โดยระบบทำให้เกิดความเครียดสะสม มีการโพสต์ผ่านเฟสบุ๊คส่วนตัวว่าจะมีการก่อเหตุ มีการโพสต์รูปปืน ต้องเรียนรู้ร่วมกันว่าต่อไปหากมีเพื่อนร่วมงาน โพสต์ลักษณะนี้ ต้องรีบเข้าไปคุย เจ้านายต้องเรียกมาคุย ทำความเข้าใจ เพื่อป้องกันก่อนถึงจุดวิกฤติ ก่อเหตุรุนแรง  ส่วนมูลเหตุการฆ่าผู้บริสุทธิ์ นั้น เชื่อว่า เกิดจากการนัดคุยที่ไม่ลงตัว และคนร้ายอาจเข้าใจว่าถูกเอาเปรียบ เลยตัดสินใจยิงเจ้านายและคนที่เกี่ยวข้อง และชิงอาวุธสงครามในค่ายทหาร เพราะเชื่อว่าตำรวจจะต้องติดตามจับกุมตัว จึงต้องมีอาวุธสงครามเพื่อป้องกันตัว และต้องหลบหนีไปในที่ที่สามารถนำมนุษย์มาเป็นโล่กำบังได้  จึงเลือกห้างสรรพสินค้า ซึ่งธรรมชาติของคนร้ายกราดยิงคนในที่สาธารณะ เวลาก่อเหตุจะเลือกสถานที่คือชุมชน  โรงเรียน ศูนย์การค้า เพราะการปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ต้องใช้ความระมัดระวังมาก  ในแต่ละคดีมีความยากง่ายต่างกัน  ผู้ก่อเหตุมีทักษะการยิงปืน และมีอาวุธสงคราม การปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่คำนึงถึงชีวิตของประชาชนสูงมาก  จึงไม่สามารถใช้ความรุนแรงระงับเหตุได้ตั้งแต่แรก  หากผู้ก่อเหตุเกิดการต่อสู้  การสูญเสียจะมากกว่านี้ได้  ซึ่งเป็นข้อจำกัดในการปฏิบัติการในครั้งนี้  

รศ.พ.ต.ท.ดร.กฤษณพงศ์   ยอมรับว่าลักษณะการก่อเหตุกราดยิงในที่สาธารณะครั้งนี้ เป็นครั้งแรกในประเทศไทย และมีผู้เสียชีวิตถึง 30 คน บาดเจ็บอีกจำนวนมาก ต้องถอดบทเรียนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รวมทั้งดูรูปแบบการป้องกันแก้ไขเหตุลักษณะนี้ในต่างประเทศด้วย เช่น ในสหรัฐอเมริกา เป็นประเทศที่มีเหตุกราดยิงมากที่สุดในโลก ได้มีการศึกษาและทำวิจัยว่า แรงจูงใจในการก่อเหตุของคนร้ายคืออะไร  จัดทำระดับนโยบาย เพื่อวางแผนในการรับมือกับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นอีก  ทั้งรัฐ เอกชน ประชาชนในพื้นที่ ต้องบูรณาการร่วมกัน  สำหรับประเทศไทยเหตุกราดยิง อาจจบในทางคดีเนื่องจากคนร้ายเสียชีวิต แต่เพิ่งจะเป็นจุดเริ่มต้นสำหรับประเทศไทยที่ต้องมาถอดบทเรียน เรียนรู้ ปรากฏการณ์อาชญากรรมร้ายแรงที่เกิดขึ้นในโลก นอกเหนือจากเหตุการณ์ในประเทศไทยเองเพื่อเตรียมรับมือกับสถานการณ์ในอนาคต

นอกจากนี้ยังแนะนำประชาชน หากเจอเหตุกราดยิงในที่สาธารณะ ตามมาตรฐานสากล หากประชาชนอยู่ในพื้นที่ชุมชน ห้าง โรงเรียน หากได้ยินเสียงปืนดัง ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่า มีความผิดปกติเกิดขึ้น  ให้วิ่งออกจากที่เกิดเหตุ โดยใช้บันไดหนีไฟ หลบหนีออกมาให้เร็วที่สุด ห้ามใช้ลิฟท์ เนื่องจากคนร้ายอาจกราดยิงเข้าไปในลิฟท์  หากอยู่ใกล้กับเสียงปืน ให้ตั้งสติและสังเกตุว่าเสียงปืนอยู่ในทิศทางไหน หากพบว่าคนร้ายอยู่ไกลให้หาทางหลบหนี หากพบว่าอยู่ใกล้และอยู่ชั้นเดียวกัน ให้หาทางหลบซ่อนตัว  โดยการปิดเสียงเครื่องมือสื่อสารทุกชนิด และหาช่องทางติดต่อสื่ออสารกับคนภายนอก โดยการส่งข้อความ แจ้งตำแหน่ง พิกัดที่หลบอยู่ เพื่อส่งต่อเจ้าหน้าที่ประเมินการช่วยเหลือ  ทรัพย์สินมีค่าทุกชนิดให้ทิ้ง บางคนลืมกระเป๋าไว้บนโต๊ะ จะวิ่งกลับไปเอา ขอให้สละไปเลย หรือรองเท้าหลุด จะวิ่งกลับไปเอา  บางครั้งต้องเรียนรู้สิ่งเหล่านี้ร่วมกัน  ในมาตรฐานสากล หากคนร้ายมาจวนตัวและรู้ว่าตัวเองอยู่ตำแหน่งนี้  ต้องคิดเพื่อต่อสู้  ซึ่งจะมีการเรียนการสอนในโรงเรียน และมีการเผยแพร่องค์ความรู้จากหน่วยงานสู่สาธารณ  

ทั้งนี้ ในต่างประเทศมีการศึกษาพบว่า เหตุกราดยิงที่มีความต่อเนื่อง เป็นพฤติกรรมที่เกิดมาจากการเลียนแบบกันได้  ซึ่งเกิดจากการดูจากสื่อหรือดูจากข่าว และเรียนรู้ข้อมูลนำไปสู่พฤติกรรมเลียนแบบ  สื่อมีส่วนสำคัญมากจึงไม่สนับสนุนการนำเสนอภาพก่อเหตุถี่ๆซ้ำๆ จะทำให้คนซึมซับพฤติกรรมเหล่านั้นได้  หากเปลี่ยนเป็นการ นำเสนอภาพฮีโร่คือ เจ้าหน้าที่ที่เข้าไปช่วยผู้บาดเจ็บ  เจ้าหน้าที่พยาบาล พลเมืองดี ผู้ที่กล้าหาญ กล้าคิด กล้าทำในสิ่งที่ถูกต้อง ไม่ละเมิดกฏหมาย แทน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบแล้วบ้าน “พระอลงกต” ที่ขอนแก่น ชาวบ้านเผยเป็นคนใจดี

ขอนแก่น 25 ส.ค. – พบแล้วบ้านของ “พระอลงกต” ใน อ.เมือง จ.ขอนแก่น ตรวจสอบพบเป็นบ้านพักข้าราชการของกรมทางหลวง ชาวบ้านเผย “พระอลงกต” เป็นคนใจดี กลับมาแจกเงินทุกปี พอเห็นข่าวรู้สึกตกใจและสงสาร เพราะเที่เคยสัมผัสเป็นคนใจดี ทีมข่าวตรวจสอบข้อมูลเพื่อตามหาบ้านของพระอลงกต รู้ว่าเป็นคน จ.ขอนแก่น ตั้งแต่กำเนิด สืบค้นที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน พบระบุว่าบ้านเกิดของหลวงพ่ออลงกต อยู่ใน อ.เมือง จ.ขอนแก่น ตรวจสอบพบว่าเป็นบ้านพักข้าราชการของกรมทางหลวง และไปพบบ้านของพ่อเฉย พ่อของพระอลงกต ซึ่งทุกคนไม่ได้เรียกว่าพระอลงกต แต่จะคุ้นเคยเรียกกันว่าพระจอร์จ และนิสัยของพระพระอลงกตมีแต่เรื่องราวดีๆ มอบให้กับสังคม พระอลงกตจะแวะเวียนมาบอกบุญเสมอปีละครั้ง ในช่วงวันเกิดที่โรงเรียนแก่นนคร ที่พระอลงกตเคยศึกษา อย่างช่วงที่พ่อเฉย พ่อของพระอลงกต ยังมีชีวิต พ่อเฉยจะทำว่าวให้เด็กๆ ละแวกนี้เล่น เป็นที่รักของคนในชุมชนเช่นกัน พี่สาวของพระอลงกต ขายข้าวแกงอยู่ตรงข้ามบ้านพักข้าราชการ ซึ่งบ้านของครอบครัวพระอลงกต จะอยู่ติดกับรั้วของสำนักงานทางหลวง แต่พอครอบครัวพระอลงกตเกษียณก็พากันย้ายออกไปอยู่ที่อื่น บ้านพักปัจจุบันนี้ไม่มีใครอยู่ และบ้านส่วนตัวก็ไม่มีใครอยู่อาศัยเช่นกัน พระอลงกตออกจากบ้านไปช่วงปี 2527 แต่พระอลงกตจะกลับมาที่บ้านส่วนตัวทุกปี หลังจากเป็นเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ เพื่อมาทำบุญวันเกิดโรงเรียนแก่นนคร มอบทุนการศึกษาให้กับเด็กๆ เสมอ […]

ตำรวจแจ้งข้อหาเมาแล้วขับ “มารี เบรินเนอร์”

กทม. 24 ส.ค.-ตำรวจแจ้งข้อหาเมาแล้วขับ “มารี เบรินเนอร์” ขับรถหรูเจอด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์แล้วไม่ยอมเป่า ส่วนเพื่อนชายที่มาด้วยโวยวายและขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ คาดน่าจะเกิดจากมึนเมา กรณีนักแสดงสาว “มารี เบรินเนอร์” ขับรถหรูเจอด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์แล้วไม่ยอมเป่าวัด ส่วนเพื่อนชายที่มาด้วยได้ลงจากรถมาโวยวายขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ ทาง พ.ต.อ.เจษฎา ยางนอก ผกก.สน.วังทองหลาง เผยว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา ตำรวจ สน.วังทองหลาง ได้ตั้งด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์ ที่ถนนประดิษฐ์มนูธรรม ช่วงเวลาประมาณ 02.00-04.00 น. ได้ขอตรวจรถยนต์ยี่ห้อปอร์เช่ สีเขียว ปรากฏว่ามี น.ส.มารี เบรินเนอร์ นักแสดงสาว เป็นผู้ขับขี่ และมีนายอัศม์กรณ์ โดยสารมาด้วย ซึ่งนั่งข้างหน้า และมีผู้หญิงมาด้วยอีก 2 คน เมื่อขอตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ นายอัศม์กรณ์ กลับโวยวาย ขัดขวางไม่ให้ตรวจ และมีการด่าทอด้วยคำที่หยาบคาย แต่ไม่ได้มีการทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ ในที่สุดตำรวจได้คุมตัวทั้งหมดมายัง สน.วังทองหลาง พร้อมกับแจ้งข้อกล่าวหาเมาแล้วขับ กับนางสาวมารี เนื่องจากนางสาวมารี ไม่ยินยอมเป่าเครื่องตรวจวัดแอลกอฮอล์ จากนั้นนางสาวมารี ได้ยื่นหลักทรัพย์เป็นเงินสดจำนวน 20,000 บาท […]

“คาจิกิ” ทวีกำลังเป็นพายุไต้ฝุ่น ส่งผลให้ไทยฝนตกเพิ่มทุกภาค

กรุงเทพฯ 24 ส.ค.- กรมอุตุฯ ออกประกาศระบุ ช่วงเช้าที่ผ่านมา พายุโซนร้อน “คาจิกิ” ในทะเลจีนใต้ ได้ทวีกำลังแรงเป็นพายุไต้ฝุ่น เตือน 57 จังหวัด เฝ้าระวังฝนตกหนักถึงหนักมาก ตั้งแต่วันที่ 24-27 ส.ค.68 นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการกองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า พายุโซนร้อน “คาจิกิ” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง ทวีกำลังแรงเป็นพายุไต้ฝุ่น “กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก ค่อนไปทางเหนือเล็กน้อย และมีแนวโน้มที่จะเคลื่อนเข้าสู่อ่าวตังเกี๋ย ก่อนจะขึ้นฝั่งตอนบนของ ประเทศเวียดนาม และ สปป.ลาว ในช่วงวันที่ 25–26 สิงหาคมนี้ ขอบด้านหน้าของพายุ เริ่มส่งผลกระทบต่อไทยตั้งแต่วันนี้ โดยเฉพาะพื้นที่ด้านตะวันออกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะมีเมฆฝนเพิ่มขึ้น จากนั้นจะมีฝนตก ก่อนขยายไปยังภาคกลาง รวมทั้ง กรุงเทพฯ และปริมณฑล ภาคตะวันออก และ ภาคใต้ ในช่วงวันถัดไป กรมอุตุนิยมวิทยาเตือนว่า อิทธิพลของพายุ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ที่มีกำลังแรง จะทำให้มีฝนตกเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะ […]

“จิรายุ” ย้ำคลิป “นั่งลงลูก” ในห้องพิจารณาคดี เป็นคลิปตกแต่งเสียง

ทำเนียบ 24 ส.ค.-“จิรายุ” ย้ำคลิป “นั่งลงลูก” ในห้องพิจารณาคดีศาล รธน. ที่ “ชวน” ได้ยินเป็นคลิปตกแต่งเสียง ฟังกี่รอบก็ชัดว่า “นั่งลงครับ” เตือนประชาชนบิดเบือนข้อมูลใส่ร้าย อย่าโพสต์ ไม่ชัวร์ อย่าแชร์ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี อดีตประธานคณะกรรมาธิการกิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการฯ กล่าวถึง กรณีมีการบิดเบือนคำพูดในวันสืบพยานของนายกรัฐมนตรี โดยหลังจากนายกรัฐมนตรีกล่าวคำสาบานตนแล้ว ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญท่านหนึ่งได้กล่าวคำว่า “นั่งลงครับ” แต่กลับมีกระบวนการนำไปบิดเบือนและตกแต่งเสียง โดยกล่าวหาว่า ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญพูดว่า “นั่งลงลูก“ ซึ่งเป็นการบิดเบือน ขณะเดียวกัน ยังพบว่าอดีตประธานรัฐสภา นายชวน หลีกภัย ได้สัมภาษณ์ให้ความเห็นในกรณีดังกล่าวหลายประเด็น ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่า นายชวน หลีกภัย อาจจะยังไม่ได้ฟังคลิปเต็มๆ จริงๆ ในวันดังกล่าว หรือไม่ก็อาจจะได้ฟังจากคลิปที่ถูกบิดเบือนและตกแต่ง ซึ่งความเป็นจริงการบันทึกเสียงทั้งหมดหรือการกล่าวบนบัลลังก์ คนที่นั่งอยู่ในห้องพิจารณาก็ได้ยินตรงกันว่า “นั่งลงครับ” ทั้งสิ้น นายจิรายุ กล่าว ตนในฐานะเคยดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการกิจการศาลองค์กรอิสระ องค์กรอัยการฯ ติดตามการทำงานกระบวนการยุติธรรมมาโดยตลอด ไม่มีเหตุผลใดๆ ในกระบวนการยุติธรรมที่จะใช้คำพูดในลักษณะเช่นนี้ […]

ข่าวแนะนำ

จับตา “คาจิกิ” หลายจังหวัดภาคเหนือเตรียมรับมือน้ำท่วมดินถล่ม

25 ส.ค. – หลายจังหวัดทางภาคเหนือ โดยเฉพาะพื้นที่ซึ่งเคยเผชิญน้ำท่วมครั้งใหญ่ทั้งน่าน ชายแดนแม่สาย เชียงราย และเชียงใหม่ ต่างเร่งเตรียมรับมือพายุคาจิกิ ซึ่งคาดว่าจะส่งผลกระทบชัดเจนตั้งแต่พรุ่งนี้ นอกจากเสี่ยงจะเกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลากแล้ว บางพื้นที่ยังเสี่ยงดินโคลนถล่มด้วย โดยเฉพาะหมู่บ้านใกล้เชิงเขาที่จังหวัดน่าน ซึ่งเกิดดินสไลด์จนกระทบบ้านเรือนนับสิบหลังก่อนหน้านี้ ตอนนี้ต้องอพยพชาวบ้านกว่า 20 ครอบครัวออกจากพื้นที่เพื่อความปลอดภัยแล้ว .-สำนักข่าวไทย

“บ้านหนองจาน” วุ่น เขมรบุกรื้อรั้วลวดหนาม-ปาของใส่ทหารไทย

สระแก้ว 25 ส.ค. – ชายแดนสระแก้วตึงเครียด ชาวกัมพูชาบุกรื้อรั้วลวดหนาม-ปาของใส่เจ้าหน้าที่ ในพื้นที่บ้านหนองจาน ทหารไทยเจ็บ 1 นาย ด้านกองทัพภาคที่ 1 แจงเป็นความเข้าใจผิดของฝ่ายกัมพูชา สถานการณ์บริเวณแนวชายแดนไทย–กัมพูชา พื้นที่บ้านหนองจาน ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ยังคงเกิดความตึงเครียดอย่างต่อเนื่อง หลังจากทางฝั่งกัมพูชาได้ประกาศเสียงตามสาย เรียกระดมชาวบ้านให้ออกมารวมตัวกันยังพื้นที่พิพาทติดแนวชายแดน โดยมีเจ้าหน้าที่ทหาร เจ้าหน้าที่ฝ่ายป่าไม้ และที่ดินของกัมพูชา เข้าร่วมอยู่ในพื้นที่ด้วย เมื่อชาวบ้านจำนวนหนึ่งเดินทางมาถึง เกิดเหตุเหตุจราจลขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากกลุ่มชาวกัมพูชาบางส่วนพากันบุกเข้ามารื้อรั้วลวดหนามที่ฝ่ายไทยขึงกั้นไว้เพื่อป้องกันการรุกล้ำ นอกจากนี้ ยังมีการขว้างปาสิ่งของเข้าใส่เจ้าหน้าที่ฝั่งไทยอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ทหารไทยได้รับบาดเจ็บแล้ว 1 นาย ขณะปฏิบัติหน้าที่ควบคุมสถานการณ์ ขณะเดียวกัน มีรายงานว่าประชาชนจากฝั่งกัมพูชายังคงทยอยเดินทางเข้ามาสมทบเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้บรรยากาศตึงเครียดยิ่งขึ้น ด้านกองกำลังทหารไทยจึงได้เสริมกำลังเข้าตรึงพื้นที่เพื่อควบคุมสถานการณ์และป้องกันการบานปลาย ที่น่าสังเกตคือ ฝั่งกัมพูชาได้เปิดเพลงเสียงดังสนั่น คาดว่าเป็นเพลงปลุกใจ เพื่อสร้างขวัญและกระตุ้นให้ชาวบ้านในพื้นที่มีความฮึกเหิมมากขึ้น เสียงเพลงดังกล่าวได้ถูกเปิดก้องไปทั่วบริเวณแนวชายแดน สร้างความกดดันให้กับเจ้าหน้าที่ฝั่งไทยที่กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ สถานการณ์ล่าสุดยังคงมีการเผชิญหน้ากันระหว่างประชาชนและเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย โดยทหารไทยยังคงตรึงกำลังแน่นหนา เพื่อเฝ้าระวังการปะทะที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ขณะที่ฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่ได้ประสานงานอย่างใกล้ชิดกับส่วนกลางเพื่อรายงานความคืบหน้าและเตรียมมาตรการรองรับ กองทัพภาคที่ 1 แจงแล้ว ปมชาวบ้านเขมรรื้อรั้วหนาม ล่าสุด กองทัพภาคที่ […]

ไทย-สวีเดน ลงนามซื้อ “กริพเพน” เฟสแรก 4 ลำ

สวีเดน 25 ส.ค.-ไทย-สวีเดน ลงนามซื้อ “กริพเพน” เฟสแรก 4 ลำ “มาริษ-ผบ.ทอ.” ร่วมเป็นสักขีพยาน ชูเป็นเขี้ยวเล็บป้องกันตัว พ่วง Offset Policy พัฒนาอุตสาหกรรม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 12.20 น. ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งตรงกับเวลา 17.20 น. ตามเวลาในประเทศไทย รัฐบาลไทยและสวีเดน ได้บรรลุข้อตกลงครั้งประวัติศาสตร์ในการจัดซื้อเครื่องบินขับไล่โจมตี Gripen E/F ระยะที่ 1 จำนวน 4 เครื่อง วงเงิน 19,500 ล้านบาท โดยมี พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) เป็นผู้ลงนามฝ่ายไทย มีนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และ ดร.พอล ยอนซอน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสวีเดน ร่วมเป็นสักขีพยาน นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังพิธีว่า ข้อตกลงครั้งนี้ไม่เพียงแต่จะเสริมสร้าง “เขี้ยวเล็บ” […]

มทภ.2 ชี้หากพบกัมพูชารุกล้ำ-ลอบวางทุ่นระเบิด พร้อมใช้กำลังพลตอบโต้

เกษตรศาสตร์ 25 ส.ค.- แม่ทัพภาค 2 ชี้หากพบทหารกัมพูชารุกล้ำ-ลอบวางทุ่นระเบิด พร้อมใช้กำลังพลตอบโต้ แต่ยิงแจ้งเตือนก่อน หากยังขัดขืนสั่งยิงทันที เชื่อประชุม RBC 27 ส.ค.นี้ ราบรื่นดี มองหากกัมพูชาไม่รับเงื่อนไขเก็บทุ่นระเบิด เตรียมเก็บหลักฐานฟ้อง UN วันนี้ (25 ส.ค. 68) ที่ห้องประชุมสุธรรม อารีกุล อาคารสารนิเทศ 50 ปี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค ไทย – กัมพูชา (RBC) ในวันที่ 27 ส.ค.นี้ หากฝ่ายกัมพูชาไม่ตกลงที่จะเก็บกู้ทุ่นระเบิด ว่า ถ้าไม่เก็บกู้ก็จะรายงานไปที่ UN และทำบันทึกไว้เพื่อเป็นการประท้วง ส่วนการประชุม RBC ที่พื้นที่กองทัพภาคที่ 1 มีการตอบรับเรื่องเก็บกู้ระเบิดร่วมกัน ในส่วนของกองทัพภาคที่ 2 ควรจะมีการตอบรับด้วยหรือไม่เพื่อแสดงถึงความจริงใจ นั้น พล.ท.บุญสิน กล่าวว่า […]