fbpx

ชี้ตำรวจ-นิติเวช ต้องตอบข้อกังขาสังคมคดี “แตงโม”

กรุงเทพฯ 10 มี.ค. – ผู้เชี่ยวชาญด้านอาชญาวิทยาชี้คดี “แตงโม” ตำรวจควรนำพยานหลักฐานและเบาะแสจากประชาชนมาตรวจสอบด้วย ควรมีวิชาชีพเฉพาะร่วมชันสูตรกับนิติเวช เรียกความเชื่อมั่นกระบวนการยุติธรรม ชี้สภาพศพตอบข้อกังขาสังคมได้


รศ.พ.ต.ท.ดร.กฤษณพงค์ พูตระกูล ผู้ช่วยอธิการบดี และประธานกรรมการคณะอาชญาวิทยา มหาวิทยาลัยรังสิต ตั้งข้อสังเกตคดี “แตงโม ภัทรธิดา” พลัดตกเรือเสียชีวิต ว่าความยุติธรรมจะเกิดขึ้นได้ต้องมาจากพยานหลักฐานทางคดี ส่วนหนึ่งมาจากการรวบรวมพยานหลักฐานของตำรวจ และอีกส่วนที่สำคัญคือเบาะแสจากภาคประชาชน คลิปต่างๆ ที่ปรากฏขึ้นมาเรื่อยๆ อาจเป็นพยานหลักฐานที่สำคัญทางคดีก็ได้ เช่น คลิปการพบปะของกลุ่ม 5 คนบนเรือ ที่ปั๊มน้ำมันหลังเกิดเหตุ หรือคลิปช่วงเวลาที่คล้ายแตงโมตกจากเรือ สิ่งเหล่านี้มีความสำคัญถ้านำมาต่อกับพยานหลักฐานของตำรวจ และเชื่อมกันได้พอดี เช่น วันเวลาขณะเกิดเหตุที่แตงโมพลัดตกลงไป ประมาณ 22.30 น. ก็ไปตรงกับจีพีเอสของเรือที่จับได้ว่าเรืออยู่ตรงนี้พอดี แสดงว่าพยานหลักฐานนี้ต้องรับฟังแล้ว แต่ถ้าตำรวจรีบสรุปคดีนี้ว่าเป็นอุบัติเหตุ อาจเป็นข้อกังขาของสังคม และส่งผลต่อความเชื่อมั่นกระบวนการยุติธรรม

ส่วนกรณีที่ยังไม่มีการเปิดเผยผลทางนิติเวชออกมาอย่างเป็นทางการ อาจเพราะตำรวจมองว่าเป็นพยานหลักฐานสำคัญทางคดี แต่แพทย์นิติเวชสามารถมาให้ข้อมูลเพื่อตอบคำถามแก่สังคมได้ เช่น แตงโมถูกทำร้ายร่างกายก่อนพลัดตกเรือหรือไม่ ล่าสุดมีข้อมูลว่าศีรษะแตงโมถูกทุบด้วยขวดไวน์ ข้อสงสัยเหล่านี้ สภาพศพสามารถอธิบายได้ว่าตกลงมีการทำร้ายร่างกายกันจริงไหม หรือแตงโมเสียชีวิตจากสาเหตุใดกันแน่


ส่วนข้อกังขาในการทำหน้าที่ของนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ ควรมีหน่วยงานวิชาชีพเฉพาะมาร่วมทำงานสืบสวนสอบสวนในคดีนี้ด้วย เพื่อความโปร่งใสและน่าเชื่อถือ ทั้งนี้ ตามหลักกฎหมายบุคคลที่สืบสายโลหิตกันมา อย่างคุณแม่ หรือพี่ชาย สามารถขอทราบผลตรวจเบื้องต้นจากนิติเวชได้ คาดทนายน่าจะดำเนินการอยู่

ส่วนแนวทางที่จะช่วยให้ปิดคดีนี้ได้ โดยไม่มีข้อกังขาจากสังคมนั้น การทำสำนวนของตำรวจต้องอิงพยานหลักฐานในคดีเป็นสำคัญ เพื่อดูว่าบุคคลที่เกี่ยวข้องมีพยานหลักฐานใดเชื่อมโยงบ้าง มิเช่นนั้นหากปล่อยให้คลุมเครืออยู่แบบนี้จะทำให้สังคมเกิดความไม่เชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม ก็จะตัดสินใจแก้ปัญหาด้วยตัวเอง ใช้ความรุนแรง ไปดักแก้แค้นกันเอง ฉะนั้นการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม ปฏิรูปตำรวจ ให้เกิดขึ้นจริงจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ

พร้อมย้ำให้สังคมติดตามคดีของแตงโมอย่างมีสติและไม่เครียดจนเกินไป ถ้ามีข้อมูลเบาะแสที่เป็นประโยชน์กับคดีจริงๆ ควรส่งมาให้คณะทำงานของตำรวจ เพื่อจะได้เป็นประโยชน์ทางคดี แต่ถ้าไม่มีก็ไม่ควรเปิดเป็นประเด็นใหม่ขึ้นมา ซึ่งจะทำให้ตำรวจทำงานยากขึ้น และทำให้สังคมเกิดความสับสนมากขึ้นไปอีก.- สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชี้อิสราเอล-อิหร่านส่งสัญญาณหาทางถอยจากสงคราม

เยรูซาเล็ม 19 เม.ย.- สื่ออิสราเอลมองว่า การที่อิหร่านพยายามปฏิเสธว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอิหร่านวันนี้ไม่ใช่การโจมตีแก้แค้นของอิสราเอล และการที่อิสราเอลยังคงนิ่งเฉยไม่ออกตัวว่าเป็นผู้กระทำ เป็นการส่งสัญญาณว่าทั้ง 2 ฝ่ายกำลังหาทางล่าถอยจากการทำสงครามในขณะที่นานาชาติกดดันให้ใช้ความอดกลั้น เว็บไซต์ไทมส์ออฟอิสราเอลรายงานว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการยืนยันจากทางการอิสราเอลว่า ได้โจมตีอิหร่านในเช้าวันนี้ ขณะที่สื่อทางการอิหร่านรายงานเพียงว่า มีการเปิดใช้งานระบบป้องกันภัยทางอากาศ และปฏิเสธรายงานข่าวเรื่องมีการโจมตีที่ตั้งทางทหารในเมืองอิสฟาฮาน ที่อยู่ห่างจากกรุงเตหะรานลงไปทางใต้ 315 กิโลเมตร โดยระบุว่าเหตุการณ์ปกติ แต่เจ้าหน้าที่อิสราเอลและสหรัฐที่ขอสงวนนามเผยกับสื่อในสหรัฐว่า เป็นฝีมือของอิสราเอล หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์ของสหรัฐอ้างแหล่งข่าวอิหร่าน 3 คนว่า ฐานทัพอากาศในเมืองอิสฟาฮานถูกโจมตีแต่ไม่มีข้อมูลเรื่องความเสียหาย ไทมส์ออฟอิสราเอลมองว่า ลักษณะของการโจมตีอย่างจำกัด ซึ่งมีรายงานว่าเป็นการใช้โดรน ไม่ใช่ขีปนาวุธหรือปฏิบัติการโจมตีทางอากาศ ประกอบกับการที่อิสราเอลไม่ได้ยอมรับอย่างเป็นทางการ น่าจะเปิดทางให้รัฐบาลอิหร่านสามารถปฏิเสธเรื่องความจำเป็นที่จะต้องขู่โจมตีอิสราเอลเป็นครั้งที่ 2 หลังจากระดมยิงขีปนาวุธและโดรนมากกว่า 300 ลูกใส่อิสราเอลเมื่อเช้ามืดวันที่ 14 เมษายนตามเวลาอิสราเอล เป็นสัญญาณเบื้องต้นว่า ทั้ง 2 ประเทศอาจกำลังหาทางล่าถอยจากการทำสงคราม ก่อนหน้านี้มีการคาดการณ์กันอย่างกว้างขวางว่า อิสราเอลจะแก้แค้นอิหร่านตามที่แสดงท่าทีมาตลอดทั้งสัปดาห์ว่า จะไม่ยอมปล่อยให้อิหร่านโจมตีโดยไม่ตอบโต้ จุดกระแสวิตกว่า การโจมตีตอบโต้กันไปมาจะบานปลายกลายเป็นสงครามเต็มรูปแบบ อย่างไรก็ดี มีสัญญาณว่ากองกำลังป้องกันอิสราเอลได้ลดความุรนแรงของแผนการโจมตีตามที่นานาชาติกดดันให้ใช้ความอดกลั้น.-814.-สำนักข่าวไทย  

ผงะ! พบศพหนุ่มเมียนมาในแท็งก์น้ำ ดาดฟ้าหอพัก

ผงะ! พบศพหนุ่มเมียนมาสภาพเปลือย ในแท็งก์น้ำบนดาดฟ้าหอพัก ย่านมีนบุรี เสียชีวิตมาแล้ว 2 วัน คาดลงไปเล่นน้ำคลายร้อน

ระทึก! สารแอมโมเนียจากโรงน้ำแข็งรั่ว บาดเจ็บนับร้อย

ระทึกกลางดึก สารแอมโมเนียรั่วในโรงน้ำแข็ง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ชาวบ้านสูดดม ได้รับผลกระทบกว่า 100 คน ต้องกระจายส่งตาม รพ. ต่างๆ

จับแล้ว! ชายอินเดียฆ่าปาดคอหญิงวัย 51 ปี

เกิดเหตุฆ่าปาดคอหญิงอายุ 51 ปี ในโรงแรมท้องที่ สน.ตลาดพลู ผู้ต้องสงสัยเป็นชายชาวอินเดียที่อยู่ด้วยกันในโรงแรม กว่า 1 สัปดาห์ ก่อนหายตัวไปหลังเกิดเหตุ ล่าสุดตามจับได้แล้ว สารภาพอ้างแค้นผู้ตายไม่คืนเงิน

ข่าวแนะนำ

นายกฯ เชิญ 4 ธนาคารใหญ่ ถกลดดอกเบี้ยบ้านกลุ่มเปราะบาง

นายกฯ เชิญผู้บริหาร 4 ธนาคารใหญ่ เข้าหารือ ขอให้ทั้ง 4 ธนาคาร ช่วยลดราคาดอกเบี้ยเงินกู้บ้านให้กับประชาชน ส่วนความเคลื่อนไหวทางด้านการเมือง เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ เผยส่งชื่อรัฐมนตรีให้นายกฯ พิจารณาแล้ว

สถานการณ์ชายแดนแม่สอดยังไม่น่าไว้วางใจ มีเสียงปืน-ระเบิดจากฝั่งเมียนมา

สถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา ด้าน อ.แม่สอด จ.ตาก ยังไม่น่าไว้วางใจ หลังเช้านี้ได้ยินเสียงปืนและระเบิดจากการปะทะของกองกำลังกะเหรี่ยงกับทหารเมียนมา ดังขึ้นในรอบ 3 วัน ขณะที่บ่ายนี้ (23 เม.ย.) รมว.ต่างประเทศ เตรียมลงพื้นที่

เฮลิคอปเตอร์กองทัพเรือมาเลเซียชนกันกลางอากาศ-ดับแล้ว 10

กองทัพเรือมาเลเซียกล่าวในแถลงการณ์ว่า เฮลิคอปเตอร์ของกองทัพเรือมาเลเซีย 2 ลำ ชนกันกลางอากาศในระหว่างการฝึกซ้อมสำหรับการแสดงในขบวนพาเหรดของกองทัพเรือ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 10 ราย

ยัน รบ.ไม่ได้กู้เงิน ธ.ก.ส. ไม่ทำให้ขาดสภาพคล่อง

“จุลพันธ์” ยันรัฐบาลไม่ได้กู้เงิน ธ.ก.ส. ใช้ดิจิทัลวอลเล็ต แต่เป็นกลไกงบประมาณ มั่นใจไม่ทำ ธ.ก.ส.ขาดสภาพคล่อง บอก อย่าลืมรัฐถือหุ้น100% พัฒนา “ซูเปอร์แอปฯ” ใช้งบประมาณไม่ถึงพันล้าน