ชี้ตำรวจ-นิติเวช ต้องตอบข้อกังขาสังคมคดี “แตงโม”

กรุงเทพฯ 10 มี.ค. – ผู้เชี่ยวชาญด้านอาชญาวิทยาชี้คดี “แตงโม” ตำรวจควรนำพยานหลักฐานและเบาะแสจากประชาชนมาตรวจสอบด้วย ควรมีวิชาชีพเฉพาะร่วมชันสูตรกับนิติเวช เรียกความเชื่อมั่นกระบวนการยุติธรรม ชี้สภาพศพตอบข้อกังขาสังคมได้


รศ.พ.ต.ท.ดร.กฤษณพงค์ พูตระกูล ผู้ช่วยอธิการบดี และประธานกรรมการคณะอาชญาวิทยา มหาวิทยาลัยรังสิต ตั้งข้อสังเกตคดี “แตงโม ภัทรธิดา” พลัดตกเรือเสียชีวิต ว่าความยุติธรรมจะเกิดขึ้นได้ต้องมาจากพยานหลักฐานทางคดี ส่วนหนึ่งมาจากการรวบรวมพยานหลักฐานของตำรวจ และอีกส่วนที่สำคัญคือเบาะแสจากภาคประชาชน คลิปต่างๆ ที่ปรากฏขึ้นมาเรื่อยๆ อาจเป็นพยานหลักฐานที่สำคัญทางคดีก็ได้ เช่น คลิปการพบปะของกลุ่ม 5 คนบนเรือ ที่ปั๊มน้ำมันหลังเกิดเหตุ หรือคลิปช่วงเวลาที่คล้ายแตงโมตกจากเรือ สิ่งเหล่านี้มีความสำคัญถ้านำมาต่อกับพยานหลักฐานของตำรวจ และเชื่อมกันได้พอดี เช่น วันเวลาขณะเกิดเหตุที่แตงโมพลัดตกลงไป ประมาณ 22.30 น. ก็ไปตรงกับจีพีเอสของเรือที่จับได้ว่าเรืออยู่ตรงนี้พอดี แสดงว่าพยานหลักฐานนี้ต้องรับฟังแล้ว แต่ถ้าตำรวจรีบสรุปคดีนี้ว่าเป็นอุบัติเหตุ อาจเป็นข้อกังขาของสังคม และส่งผลต่อความเชื่อมั่นกระบวนการยุติธรรม

ส่วนกรณีที่ยังไม่มีการเปิดเผยผลทางนิติเวชออกมาอย่างเป็นทางการ อาจเพราะตำรวจมองว่าเป็นพยานหลักฐานสำคัญทางคดี แต่แพทย์นิติเวชสามารถมาให้ข้อมูลเพื่อตอบคำถามแก่สังคมได้ เช่น แตงโมถูกทำร้ายร่างกายก่อนพลัดตกเรือหรือไม่ ล่าสุดมีข้อมูลว่าศีรษะแตงโมถูกทุบด้วยขวดไวน์ ข้อสงสัยเหล่านี้ สภาพศพสามารถอธิบายได้ว่าตกลงมีการทำร้ายร่างกายกันจริงไหม หรือแตงโมเสียชีวิตจากสาเหตุใดกันแน่


ส่วนข้อกังขาในการทำหน้าที่ของนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ ควรมีหน่วยงานวิชาชีพเฉพาะมาร่วมทำงานสืบสวนสอบสวนในคดีนี้ด้วย เพื่อความโปร่งใสและน่าเชื่อถือ ทั้งนี้ ตามหลักกฎหมายบุคคลที่สืบสายโลหิตกันมา อย่างคุณแม่ หรือพี่ชาย สามารถขอทราบผลตรวจเบื้องต้นจากนิติเวชได้ คาดทนายน่าจะดำเนินการอยู่

ส่วนแนวทางที่จะช่วยให้ปิดคดีนี้ได้ โดยไม่มีข้อกังขาจากสังคมนั้น การทำสำนวนของตำรวจต้องอิงพยานหลักฐานในคดีเป็นสำคัญ เพื่อดูว่าบุคคลที่เกี่ยวข้องมีพยานหลักฐานใดเชื่อมโยงบ้าง มิเช่นนั้นหากปล่อยให้คลุมเครืออยู่แบบนี้จะทำให้สังคมเกิดความไม่เชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม ก็จะตัดสินใจแก้ปัญหาด้วยตัวเอง ใช้ความรุนแรง ไปดักแก้แค้นกันเอง ฉะนั้นการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม ปฏิรูปตำรวจ ให้เกิดขึ้นจริงจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ

พร้อมย้ำให้สังคมติดตามคดีของแตงโมอย่างมีสติและไม่เครียดจนเกินไป ถ้ามีข้อมูลเบาะแสที่เป็นประโยชน์กับคดีจริงๆ ควรส่งมาให้คณะทำงานของตำรวจ เพื่อจะได้เป็นประโยชน์ทางคดี แต่ถ้าไม่มีก็ไม่ควรเปิดเป็นประเด็นใหม่ขึ้นมา ซึ่งจะทำให้ตำรวจทำงานยากขึ้น และทำให้สังคมเกิดความสับสนมากขึ้นไปอีก.- สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

อดีตครูจำใจสร้างห้องขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา

สลด! อดีตครูวัย 64 ปี จำใจจ้างช่างทำห้องคล้ายกรงขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา-พนันออนไลน์ หลังส่งตัวบำบัดกว่า 10 ครั้ง แต่ออกมาก็เหมือนเดิม

หนุ่มใหญ่ควบเก๋งเผลอเหยียบผิดพุ่งทะลุกำแพงอาคารจอดรถดิ่งตกจากชั้น 2

หนุ่มใหญ่ควบเก๋งเผลอเหยียบผิดพุ่งทะลุกำแพงอาคารจอดรถดิ่งตกจากชั้น 2 โชคดีบาดเจ็บเล็กน้อย เจ้าหน้าที่ส่งรักษาตัวที่ รพ.เจ้าพระยา

อาม่าแจ้งความ “หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง” หลอกทำพิธีสูญ 60 ล้าน

อาม่าวัย 77 ปี โร่แจ้งความเอาผิด “หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง” หลอกทำพิธี-แนะซื้อวัตถุมงคลแล้วไม่ได้รับของ สูญเงินกว่า 60 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

เรือใบอิตาลีที่สวยงามที่สุดในโลกเดินทางถึงภูเก็ตแล้ว

ภูเก็ตคึกคัก เรือใบอิตาลีที่ขึ้นชื่อว่างดงามที่สุดลำหนึ่งของโลก ออกเดินทางมาแล้วรอบโลก ได้เข้าจอดเทียบท่าจังหวัดภูเก็ต โดยมีทัพเรือภาคที่ 3 ให้การต้อนรับทหารเรืออิตาลีกว่า 150 นาย อย่างอบอุ่นพร้อมเปิดให้ประชาชนขึ้นชมเรือฟรีได้ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (6 พ.ย.)

พระเปย์สีกา ช่องโหว่ผลประโยชน์ในดงขมิ้น

รองเจ้าอาวาสวัดชื่อดังแห่งหนึ่งในมหาสารคาม ขอลาสิกขากลางดึก หลังถูกแฉ เป็นพระปลัดใจป๋า เปย์สีกาไม่อั้น ขณะที่รอง ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ สั่งตรวจสอบว่า เป็นเงินส่วนตัว หรือ เงินวัด เพราะจะมีความผิดแตกต่างกัน

“สันธนะ” เปิดใจหลังเคลียร์ใจ “ชูวิทย์” กลับไทยขึ้นศาล

“สันธนะ” เผย นอนคิดมา 1 คืนเริ่มใจอ่อนรับคำขอโทษ “ชูวิทย์” รับรู้ถึงความจริงใจ แต่คดีอาญาถอนฟ้องไม่ได้ ต้องปล่อยไปตามกฎหมาย