กรุงเทพฯ 5 ก.พ.-กลุ่ม 3 มิตร ทั้งแกนนำ อาทิ “สมศักดิ์ สุริยะ” และสมาชิกว่า 40 คน รับประทานอาหารกลางวัน เตรียมรับมืออภิปรายไม่ไว้วางใจ ยันไม่ใช่เรื่องการแสดงพลัง หรือต่อรองอะไรทั้งสิ้น
ที่โรงแรมศุโกศล กลุ่มสามมิตร พรรคพลังประชารัฐกว่า 40 คน อาทิ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม รวมทั้ง ส.ส.ทั้งในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ต่างจังหวัด ในกลุ่มสามมิตร มารวมตัวกันที่โรงแรมสุโกศล เพื่อหารือ วางแผนเตรียมรับมืออภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีทั้ง 6 คน
นายอนุชา นาคาศัย รองหัวหน้าพรรค กล่าวว่า การนัดรับประทานอาหารกลางวันในครั้งนี้ไม่ได้มีวาระอะไรเป็นพิเศษแต่ก็คาดว่าจะมีการหารือประเด็นเกี่ยวกับการเตรียมความพร้อมอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยมีแกนนำและส.ส.ของพรรคประมาณ 30-40 คนมาร่วมหารือ การนัดพบปะกันดังกล่าวไม่ใช่การแสดงพลังแต่อย่างใด
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะแกนนำกลุ่มสามมิตร เปิดเผยว่า เดิมกลุ่มสามมิตรได้ยกเลิกไปแล้ว แต่ที่ต้องมารวมตัวกันอีกครั้ง เนื่องจากจะมีการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี กลุ่มสามมิตร ก็ต้องช่วยกันระดมความคิดในฐานะที่มีประสบการณ์ทางการเมืองหลายคน ผ่านการลงมติการอภิปรายไม่ไว้วางใจมาแล้ว อย่างเท่าที่ดูญัตติของฝ่ายค้าน ใช้คำกล่าวหาว่าเถื่อน เป็นเผด็จการสืบทอดอำนาจ ทั้งที่นายกรัฐมนตรีทำรัฐประหาร เนื่องจากบ้านเมืองอยู่ในภาวะวิกฤต หากไม่ออกมาปัญหาก็ไม่จบ ประชาชนจึงเชื่อมั่นว่าสิ่งที่นายกรัฐมนตรีทำถูกต้อง และพรรคพลังประชารัฐยังได้คะแนนถึง 8 ล้านเสียง จึงมองว่าประเด็นที่ฝ่ายค้านตั้งมาไม่มีน้ำหนัก
ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า กลุ่มสามมิตรกลับมารวมตัวกัน เพื่อแสดงอำนาจต่อรอง หากปรับคณะรัฐมนตรีภายหลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจนั้น นายสุริยะ กล่าวว่า การรวมตัวกันครั้งนี้เป็นการรวมตัวกันเพื่อช่วยเหลือนายกรัฐมนตรี เหตุการณ์กลุ่มสามมิตรในอดีตได้สำนึกผิดแล้ว การรวมตัวกันครั้งนี้เพื่อช่วยกันระดมความคิดเห็นและให้การบ้าน แล้วจะรวบรวมเสนอที่ประชุมพรรคพลังประชารัฐ ไม่มีการแตกแยกภายในพรรค แต่เป็นการรวมตัวกันเพื่อเสริมให้กับพรรค ไม่ได้ส่งสัญญาณไปถึงการปรับคณะรัฐมนตรีครั้งต่อไป เมื่อการอภิปรายไม่ไว้วางใจเสร็จสิ้น กลุ่มสามมิตรก็จะสลายไปเหมือนเดิม
ส่วนความมั่นใจในพรรคร่วมรัฐบาล นายสุริยะ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ก็ออกมาให้ความชัดเจนแล้ว ว่าจะช่วยหากเกิดกรณีฝ่ายค้านอภิปรายนอกประเด็น ส่วนกรณีที่นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ จะเข้าร่วมหารือการประชุมวันนี้ด้วยนั้น นายสุริยะ กล่าวว่า ประเด็นเศรษฐกิจคงไม่น่าหนักใจ เพราะนายกรัฐมนตรีได้สั่งการบ้านอยู่แล้ว แต่ที่สำคัญคือประเด็นทางการเมือง ซึ่ง ส.ส.ต้องช่วยกัน
ด้านนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจ ที่จะมีขึ้น กลุ่มสามมิตรจะหารือเตรียมตัวทำการบ้าน โดยเฉพาะในส่วนที่ตนรับผิดชอบซึ่งก็คือกระทรวงยุติธรรม ส่วน สส.ที่ทำงานร่วมกับนายกรัฐมนตรีต้องช่วยกันทำการบ้านก่อนส่งข้อมูลช่วยนายกรัฐมนตรีซึ่งถือว่าครั้งนี้จะเป็นการทำการบ้านและซักซ้อมว่าจะช่วยกันรับมืออย่างไร เพราะหากนายกรัฐมนตรีพลาดพลั้งไป 1 คน ก็จะเสียหายกันไปทั้งหมดซึ่งจะไม่ยอมให้เหตุการณ์นี้เกิดขึ้น
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ส่วนสำคัญที่สุด คงไม่ใช่เพียงแค่พรรคพลังประชารัฐแต่พรรคร่วมรัฐบาลก็ต้องร่วมกันทำการบ้านด้วย ซึ่งการมารวมตัวกันในครั้งนี้ หวังว่าจะเป็นตัวอย่าง ให้พรรคร่วมรัฐบาลเตรียมตัวสู้ศึกไปด้วยกัน และหลังจากนี้จะมีการซักซ้อมกันตลอดจนกว่าจะมีการอภิปราย ที่จะมีขึ้นในวันที่ 25 กุมภาพันธ์นี้ การนัดรวมตัวกันครั้งนี้ไม่ใช่การต่อรอง เพื่อการปรับคณะรัฐมนตรีครั้งต่อไปเพราะกระทรวงยุติธรรมคงจะไปต่อรองอะไรไม่ได้อยู่แล้ว เรามาในครั้งนี้เพื่อเตรียมข้อมูลและแสดงน้ำใจต่อกันและหวังให้เป็นจุดเริ่มต้นให้กับพรรคร่วมรัฐบาลใครจะไปต่อรองก็เรื่องของเขา
เมื่อถามว่า ประเด็นการอภิปราย เป็นเรื่องเก่า คิดว่าประชาชนจะได้ประโยชน์หรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ได้แจ้งประธานสภาไปแล้ว ซึ่งประธานสภาต้องช่วยดูว่าญัตติที่เขียนไว้หากเป็นเรื่องเก่าแล้วนำไปบรรจุจะเป็นปัญหา เราหลีกเลี่ยงไม่ได้จะมีการประท้วงกันมากมาย หากมีการประท้วงก็ต้องเข้าใจว่าเราได้พยายามแล้ว และเราไม่สามารถห้ามใครได้ 100% เพราะถือเป็นการรักษาสิทธิ์ของแต่ละฝ่าย
เมื่อถามว่าจะมีโอกาสเชิญพรรคร่วมรัฐบาลมาพูดคุย ด้วยหรือไม่ นายสมศักดิ์กล่าวว่า เห็นว่าในอนาคตน่าจะพัฒนาไปถึงตรงนั้นเมื่อใกล้เวลาที่จะอภิปราย แต่การอภิปรายครั้งนี้ ผู้ถูกอภิปรายล้วนเป็นบุคลากรสำคัญของพรรคพลังประชารัฐพรรคร่วมรัฐบาลไม่โดนเลย ก็อาจจะทำให้มองในอีกมุมหนึ่งแต่ถ้าหากไม่อยากให้มองในมุมนั้นก็ต้องมาช่วยกันรับมือกับการอภิปรายครั้งนี้ พร้อมย้ำการกลับมาใช้ชื่อกลุ่ม 3 มิตรเป็นการทำกิจกรรมที่มีประโยชน์โดยไม่ได้ต่อรองอะไรและผลประชุมในวันนี้ไม่น่าจะนำเข้าหารือในที่ประชุมใหญ่ของพรรคแต่หวังเพียงให้ขยายผลไปยังพรรคร่วมรัฐบาล
ด้านนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การรวมตัวกันครั้งนี้จะเป็นการหารือเกี่ยวกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจเพื่อให้เป็นการอภิปรายที่สมบูรณ์ ทั้งเรื่องข้อมูลและวางตัวบุคคล ซึ่งการอภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นเรื่องปกติในระบอบประชาธิปไตย ฝ่ายค้านมีหน้าที่ตรวจสอบ ฝ่ายรัฐบาลก็มีหน้าที่ชี้แจงให้เข้าใจร่วมกัน เพื่อจะได้ร่วมงานกันได้ในอนาคต ตนและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐมาร่วมประชุมครั้งนี้ ไม่ได้ให้นโยบายอะไร แต่มาเพื่อให้กำลังใจ เพราะตนไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับพรรคอยู่แล้ว
ส่วนเรื่องที่ไม่ได้ติดเป็นหนึ่งในบุคคลที่ถูกอภิปรายเรื่องเศรษฐกิจ นายสมคิด กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีจะตอบได้ทุกคำถามอยู่แล้ว และกระทรวงที่เกี่ยวข้องก็สามารถชี้แจงช่วยนายกรัฐมนตรีได้อยู่แล้วเป็นเรื่องปกติ นายกรัฐมนตรีมีข้อมูลอยู่ในหัวอยู่ กระทรวงการคลังและกระทรวงที่เกี่ยวข้องก็ต้องเอาข้อมูลมาช่วยเพื่อตอบให้เข้าใจกัน ส่วนจะให้ตนเองช่วยชี้แจงหรือไม่ นายกรัฐมนตรียังไม่มอบหมายให้ใครชี้แจง แต่คนที่เกี่ยวข้องก็ควรจะชี้แจงในส่วนที่เกี่ยวข้อง เพราะผู้บริหารสูงสุดดูเรื่องนโยบาย ส่วนการขับเคลื่อนเป็นหน้าที่ของกระทรวง
นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ บอกว่า ในส่วนของพรคมีการเตรียมตัวกันเต็มที่ ไม่ใช่เพียงกลุ่มสามมิตรเท่านั้น แต่ทุกกลุ่มจะมีการประสานกัน รวมถึงประสานกับพรรคร่วมรัฐบาลด้วย และเริ่มดำเนินการแล้ว
ส่วนการประชุมกลุ่มสามมิตรวันนี้ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ใช่แค่กลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง แต่ต้องทำด้วยกันทั้งหมด เมื่อมีการพบปะหารือกันกับกลุ่มนี้แล้ว ก็คงจะมีการหารือกับกลุ่มอื่นอีก และคงจะมีการหารือพร้อมกัน ยืนยันว่าการรวมตัวกันครั้งนี้ ไม่เกี่ยวกับการต่อรองหากมีการปรับคณะรัฐมนตรีหลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เป็นเพียงการเตรียมความพร้อมการอภิปรายไม่ไว้วางใจเท่านั้น .-สำนักข่าวไทย