ค่าฝุ่น กทม.วันนี้ลดลง เกินเกณฑ์ 27 เขต

กทม. 4 ก.พ.-ค่าฝุ่น PM2.5 ในพื้นที่ กทม.วันนี้ แนวโน้มลดลง แต่ยังเกิน มาตรฐาน 27เขต ขณะที่ กทม.มีมติหยุดการก่อสร้างรถไฟฟ้าและอาคารสูง เริ่มตั้งแต่วันนี้ (4ก.พ.) เพื่อลดปัญหาฝุ่น



ศูนย์ประสานงานและแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศของกรุงเทพมหานครขอสรุปผลการตรวจวัด PM2.5 ณ เวลา 05.00-07.00 น. ตรวจวัดได้ 46-77 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) ค่าเฉลี่ย 59 มคก./ลบ.ม. โดยนางศิลปสวย ระวีแสงสูรย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า วันนี้ค่า PM2.5 มีแนวโน้มลดลงแต่ยังคงเกินมาตรฐาน อยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ จำนวน 27 เขต คือเขตสัมพันธวงศ์ เขตพญาไท เขตวังทองหลาง เขตปทุมวัน เขตบางรัก เขตยานนาวา เขตจตุจักร เขตบางกะปิ เขตลาดกระบัง เขตคลองสาน เขตบางกอกน้อย เขตภาษีเจริญ เขตบางเขน เขตบางพลัด เขตบางขุนเทียน เขตพระนคร เขตสาทร เขตคลองเตย เขตบางซื่อ เขตหลักสี่ เขตบึงกุ่ม เขตสวนหลวง เขตลาดพร้าว เขตสายไหม ขตห้วยขวาง เขตดอนเมือง เขตพระโขนง

ขอให้ประชาชนในบริเวณที่มีมลพิษทางอากาศเกินมาตรฐานเฝ้าระวังสุขภาพ หากมีอาการเบื้องต้น เช่น ไอ หายใจลำบาก ระคายเคืองตา ควรลดระยะเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้ง โดยเฉพาะ ผู้สูงอายุ เด็ก และผู้ป่วยทางเดินหายใจ พร้อมใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเองหากเกิดความจำเป็น 


ทั้งนี้ กทม.ได้มอบหมายให้สำนักงานเขตต่างๆฉีดล้างถนน ต้นไม้ ป้ายรถเมล์ และฉีดพ่นละอองน้ำอย่างต่อเนื่องทุกวัน เพื่อลดฝุ่นละอองสะสมในอากาศ สำหรับประชาชนทั่วไปสามารถติดตามข้อมูลคุณภาพอากาศของ กทม. แบบ Real Time ได้ที่: www.bangkokairquality.com www.air4bangkok.com  Facebook : กองจัดการคุณภาพอากาศและเสียง  Facebook : สำนักงานประชาสัมพันธ์ กทม. 

ขณะที่นางจินดารัตน์ ชโยธิน ร.ต.อ พงศกร ขวัญเมือง และน.ส.อรพินทร์ เพชรทัต คณะโฆษกของ กทม.แถลงผลการประชุมคณะผู้บริหาร กทม. ครั้งที่ 3/2563 วานนี้ (3ก.พ.) ซึ่ง พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯกทม. เป็นประธาน ณ ห้องประชุมและวางแผน (WAR ROOM) ชั้น 35 อาคารธานีนพรัตน์ กทม. 2 ดินแดง ว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มารายงานความคืบหน้าการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง ในการดำเนินการตามมาตรการและแนวทางการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ โดยพบว่าในระยะนี้ในพื้นที่กรุงเทพฯมีความกดอากาศสูงเข้ามาปกคลุม โดยเฉพาะในช่วงเช้าถึงเที่ยง ประกอบกับลมมีกำลังอ่อนลง ทำให้ไม่สามารถกระจายฝุ่นในพื้นที่ออกไปได้ ดังนั้นในช่วง 2-3 วันหลังจากนี้ ค่าฝุ่นละอองจะมีปริมาณสูงขึ้น 

ที่ผ่านมา กทม.ได้ดำเนินมาตรการป้องกันและแก้ไขร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง อาทิ ตรวจจับรถควันดำ ตั้งแต่ต.ค.62- ม.ค.63 สามารถตรวจจับได้ 29,513 คัน เฉพาะวันที่31ม.ค.63 จำนวน 520 คัน และมาตรการควบคุมการเผาในที่โล่ง การประสาน ขสมก.เพื่อล้างท่อไอเสียของรถร่วมบริการทั้งหมด 

อย่างไรก็ดีคณะผู้บริหาร กทม.เห็นว่าการก่อสร้างในพื้นที่กรุงเทพฯทั้งหมดมีส่วนทำให้เกิดปัญหาฝุ่นละอองได้เช่นกัน ทั้งการก่อสร้างรถไฟฟ้าและการก่อสร้างทั่วไปจึงมีมติสั่งการให้หยุดการก่อสร้างในกิจกรรมที่จะก่อให้เกิดฝุ่นละออง ตั้งแต่วันที่ 4-6ก.พ.63 รวมถึงการก่อสร้างรถไฟฟ้า 6 สายในพื้นที่กรุงเทพฯ และการก่อสร้างอาคารสูง โดยหากสภาพอากาศดีขึ้นทุกโครงการสามารถกลับมาดำเนินการก่อสร้างได้ตามปกติ 

สำหรับกิจกรรมอื่นที่ไม่เกี่ยวกับการก่อสร้าง อาทิ การตกแต่งภายในของอาคารต่างๆ ยังสามารถดำเนินการได้ นอกจากนี้กรุงเทพมหานครจะดำเนินมาตรการอื่นควบคู่ไปด้วย ได้แก่ การติดสปริงเกอร์พ่นละอองน้ำ และการฉีดน้ำล้างถนน

 

ส่วนการเตรียมความพร้อมมาตรการรองรับสถานการณ์เชื้อไวรัสโคโรนาของกทม.ปัจจุบันประชาชนยังสับสนกับวิธีการทิ้งหน้ากากอนามัยที่ถูกต้อง วิธีที่สะดวกที่สุดคือการห่อหน้ากากอนามัยที่ใช้แล้วก่อนทิ้ง โดยเมื่อถอดหน้ากากแล้ว ควรพับเก็บและไม่ให้มือสัมผัสด้านในของหน้ากาก ซึ่งอาจเป็นส่วนที่มีสารคัดหลั่ง น้ำมูกหรือน้ำลายติดอยู่ จากนั้นให้ใช้หูของหน้ากากรัดโดยรอบและห่อด้วยกระดาษก่อนทิ้ง เพื่อให้ผู้ที่มีหน้าที่จัดเก็บขยะไม่ต้องสัมผัสเชื้อด้วย ในส่วนมาตรการอื่น รัฐบาลได้ดำเนินการอย่างครอบคลุมแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการป้องกันที่สนามบิน การคัดกรองที่โรงพยาบาล และการป้องกันในโรงแรมที่พักอาศัย 

สำหรับการดำเนินการเชิงรุกนั้น กทม.จะจัดอบรมเจ้าหน้าที่อาสาสมัครสาธารณสุขหรือ อสส.จำนวน 700 คน เพื่อเฝ้าระวังและคัดกรองผู้ที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อ ในวันนี้ (4 ก.พ.) ณ อาคารไอราวัต สภากรุงเทพมหานคร และร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขในการอบรมให้ความรู้กับทีมเฝ้าระวังและสอบสวนโรค สำนักอนามัยของกรุงเทพมหานคร จำนวน 71 ทีม เพื่อให้ผู้ปฏิบัติงานทั้งหมดมีความรู้และทักษะในการปฏิบัติงานที่ถูกต้อง และปลอดความเสี่ยงจากการติดเชื้อ 

สำหรับการตรวจโรคของโรงพยาบาล สังกัดสำนักการแพทย์มีการเฝ้าระวังอยู่ในระดับที่ได้มาตรฐาน  และมีการกำหนดแผนการดำเนินงานที่ชัดเจน ได้แก่ การกำหนดช่องทางการเข้าออกโรงพยาบาลให้เหลือเฉพาะช่องทางที่จำเป็นเพื่อคัดกรองผู้ป่วยและญาติผู้ป่วยทุกราย การจัดทำบัตรคำแนะนำทางด้านสุขภาพ Health Care สำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงติดเชื้อ ,การเปิดศูนย์ปฏิบัติการตอบโต้ภาวะฉุกเฉินกรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ณ สำนักการแพทย์ และสำนักอนามัย และการทำความสะอาดโรงพยาบาลสังกัดกทม.ทุกแห่ง เพื่อฆ่าเชื้อไวรัส 

นอกจากนี้สำนักอนามัยยังได้จัดกิจกรรมให้ความรู้กับผู้ขับรถแท็กซี่ ซึ่งมีความเสี่ยงที่จะได้พบเจอผู้ป่วย และหลายหน่วยงานได้ร่วมกันล้างและฆ่าเชื้อราวจับในพื้นที่สาธารณะ อาทิ ในสถานีรถไฟฟ้า อาคารสำนักงานที่ให้บริการประชาชน ซึ่งสารคัดหลั่งของผู้ป่วยอาจมีโอกาสติดอยู่ โดยจะดำเนินการอย่างต่อเนื่องเพื่อลดปัญหาการแพร่เชื้อ  .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

ศาลอาญาฯ อนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว “ไฮโซลูกนัท”

กรุงเทพฯ 7 ส.ค. – ศาลอาญาพระโขนง อนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว “ไฮโซลูกนัท” ตีราคาประกัน 100,000 บาท หลังตำรวจนำตัวฝากขัง คดียาเสพติด และ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ พนักงานสอบสวน สน.คลองตัน ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาพระโขนง ฝากขังครั้งที่ 1 นายธนัตถ์ หรือ ไฮโซลูกนัท อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาคดีกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ โดยศาลอนุญาตฝากขังตามคำร้อง ซึ่งวันนี้ผู้ต้องหาได้ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว ศาลพิจารณาแล้วมีคำสั่งอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว ตีราคาประกัน 100,000 บาท โดยผู้ต้องหานำเงินสดเป็นหลักประกันตนเอง.-สำนักข่าวไทย

รมว.ต่างประเทศ ย้ำทูตไทยทั่วโลกแจงผลประชุม GBC

7 ส.ค. – รมว.ต่างประเทศ ถกทูตไทยทั่วโลก ชื่นชมผลประชุม GBC กำชับทูตไทยทั่วโลกทำงานเชิงรุก เดินหน้าชี้แจงข้อเท็จจริง บนพื้นฐานของหลักฐานเชิงประจักษ์ ชี้ “ความจริงจะชนะทุกสิ่ง” นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นประธานการประชุมแบบออนไลน์ ร่วมกับ เอกอัครราชทูตไทย ผู้แทนสถานเอกอัครราชทูต และคณะผู้แทนถาวรไทยในต่างประเทศจาก 70 ประเทศทั่วโลก และกรมต่างๆ เพื่อชี้แจงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ทั้งผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป General Border Committee หรือ GBC ที่ประเทศมาเลเซีย พร้อมมอบนโยบายและแนวทางในการดำเนินการของกระทรวงฯ และสำนักงานในต่างประเทศ เพื่อแก้ไขปัญหาสถานการณ์ชายแดนดังกล่าวอย่างบูรณาการร่วมกัน นายมาริษ กล่าวถึงผลของการประชุม GBC และข้อตกลงที่เห็นพ้องร่วมกันทั้ง 13 ข้อ ว่าเป็นพัฒนาการและก้าวสำคัญสำหรับการเจรจาการหยุดยิง บรรลุเป้าหมายที่ต้องการในเบื้องต้น ซึ่งต้องขอบคุณมาเลเซีย สหรัฐอเมริกา และจีน ณ ที่นี้ด้วย โดยกระทรวงพร้อมให้การสนับสนุนกระทรวงกลาโหมในการดำเนินการเจรจาต่อไป ซึ่งที่ผ่านมาได้สนับสนุนการดำเนินงานของกระทรวงกลาโหม และทำงานร่วมกันอย่างใกล้ ตั้งแต่การเป็นฝ่ายเลขาฯ การร่างเพื่อเสนอกรอบข้อตกลง โดยหลังจากนี้ไทยพร้อมเปิดรับการเจรจาทวิภาคีผ่านช่องทางทางการทูต เพื่อสนับสนุนภารกิจของกระทรวงกลาโหม ภายใต้เงื่อนไขว่าฝ่ายกัมพูชาเคารพและดำเนินการตามข้อตกลงของการเจรจาหยุดยิงต่อไป […]

ชาวบ้านยังไม่วางใจ แม้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง

อุบลราชธานี 7 ส.ค. – ชาวบ้านในพื้นที่ชายแดน จ.อุบลราชธานี ยังไม่วางใจสถานการณ์ แม้ผลประชุม GBC ไทย-กัมพูชา ทั้ง 2 ชาติเห็นพ้องข้อตกลงหยุดยิงแล้ว ค่ำคืนนี้หลายหมู่บ้านยังคงมีคำเตือนให้ออกนอกพื้นที่ หลังบางส่วนทยอยกลับเข้ามา .-สำนักข่าวไทย

กต.อัปเดตสถานการณ์ไทย-กัมพูชา กับทูตไทยทั่วโลก

กระทรวงการต่างประเทศ 7 ส.ค. – กต. นำผลประชุม GBC อัปเดตสถานการณ์ไทย-กัมพูชา กับทูตไทยทั่วโลก เพื่อชี้แจงรัฐบาล-องค์การระหว่างประเทศ พร้อมประเมินระดับความเข้าใจของนานาชาติถึงสถานการณ์ ป้องกันการบิดเบือนข้อมูล นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวเกาะติดพัฒนาการสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยได้สรุปผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee : GBC) ไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ ซึ่งนำโดย พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม หัวหน้าคณะผู้แทนไทย โดยมีผู้แทนจากมาเลเซีย สหรัฐอเมริกา และจีน ร่วมสังเกตการณ์ ซึ่งการประชุมเป็นกลไกหารือทวิภาคีระหว่างไทย-กัมพูชา ทั้งนี้ ก่อนการประชุม GBC ประธาน GBC ของทั้ง 2 ฝ่าย ได้เข้าเยี่ยมคารวะ นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย โดยได้ยืนยันว่ามาเลเซีย รวมถึงประเทศสมาชิกอาเซียนต่างๆ เห็นตรงกันว่าสนับสนุนให้ใช้กลไกทวิภาคีแก้ไขปัญหาระหว่างไทย-กัมพูชา สอดคล้องกับท่าทีของไทย ทั้ง 2 ฝ่ายตกลงปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด โดยไม่เสริมกำลังเพิ่ม หลีกเลี่ยงการกระทำที่ยั่วยุทั้งทางการทหาร […]