“อนุทิน” บินไปรับคนไทยกลับจากอู่ฮั่นด้วยตัวเองพรุ่งนี้

ทำเนียบ 3 ก.พ.-“อนุทิน” เตรียมบินไปรับคนไทยกลับจากอู่ฮั่นด้วยตัวเองพรุ่งนี้ ไม่เปิดเผยสถานที่กักกันโรค ให้ความมั่นใจจะดูแลให้ดีที่สุด


นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ในวันพรุ่งนี้ นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้ตนเองเดินทางไปรับคนไทยที่นครอู่ฮั่น พร้อมกับทีมแพทย์และเจ้าหน้าที่รวม 16 คน ซึ่งตนเองจะสวมชุดป้องกัน ควบคุมโรค และชุดดังกล่าวทำให้ไม่ต้องถูกกักเฝ้าระวังเชื้อไวรัส 14 วัน พร้อมยืนยันว่าจะดูแลคนไทยเดินทางกลับประเทศให้ดีที่สุด ขณะเดียวกันปฏิเสธที่จะเปิดเผยว่าจะนำคนไทยกลับมาลงที่สนามบินและกักตัวอยู่ที่ใดเหตุผลเพราะเป็นการกักกันโรค และไม่ต้องการให้คนตื่นตระหนก รวมถึงผู้ที่เดินทางกลับมาไม่ใช่คนป่วย แต่ต้องทำให้เกิดความปลอดภัยสูงสุด และขอให้ประชาชนมั่นใจ ไม่กังวลเฟคนิวส์ตราบใดที่ตั้งใจทำงาน 

รองนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า การดูแลและการนำคนไทยกลับมาทุกอย่างจะเป็นไปตามมาตรฐานสากล และต้องการให้ผู้โดยสารทุกคนพักผ่อนอย่างเต็มที่ เพราะเขาอยู่ที่โน่นเกือบเดือน


เมื่อถามว่านายกรัฐมนตรีกำชับเรื่องใดเป็นพิเศษ นายอนุทิน กล่าวว่า ให้ทุกคนทำงานอย่างเต็มที่และทีมที่ไปรับ นายกรัฐมนตรีไม่มีความกังวล เพราะมั่นใจในมาตรฐานทางทีมแพทย์ของไทย และก่อนเดินทางมีการฝึกซ้อม และสาธิตขั้นตอนต่างๆ

นายอนุทิน ยังชี้แจงรายละเอียดว่า การเดินทางไปรับคนไทยจะใช้เวลา 3 ชั่วโมงจากไทยไปอู่ฮั่น และกระบวนการขึ้นเครื่องของคนไทยจากอู่ฮั่นจะใช้เวลา 5 ชั่วโมง คาดว่าถึงไทยในช่วงดึกของวันพรุ่งนี้ 


เมื่อถามว่าจะมีการรายงานสถานการณ์บรรยากาศจากที่อู่ฮั่นหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ขอให้รอฟังข่าวดีที่เดียวเลย ส่วนคนที่ไม่ได้เดินทางกลับในรอบนี้อาจมีการเก็บตกในภายหลัง หากจำเป็นสามารถบินกลับไปรับได้อีก และตอนนี้มีตัวเลขของคนไทยที่ลงทะเบียนเดินทางกลับ 144 คน 

อย่างไรก็ตามก่อนที่ นายอนุทิน จะขึ้นรถ นายแพทย์ อภิชาต วชิรพันธุ์ ผู้อำนวยการสถาบันบำราศนราดูร ในฐานะหัวหน้าทีมแพทย์ที่จะเดินทางไปด้วยนั้น ได้นำหน้ากาก N95 ให้นายอนุทิน ลองสวมใส่เพื่อปรับขนาดให้เข้ากับรูปหน้าตามมาตรฐานความปลอดภัย 

ด้านนายแพทย์ สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวชี้แจงว่า การเดินทางไปรับคนไทยในวันพรุ่งนี้ได้เตรียมพร้อมตามข้อสั่งการ ทั้งบุคคลากรทางการแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญหลายสาขา รวมถึงพยาบาลและบุคคลากรที่เกี่ยวข้อง 

ขณะที่นายแพทย์ อภิชาต วชิรพันธุ์ ผู้อำนวยการสถาบันบำราศนราดูร กล่าวเพิ่มเติมว่า ได้แนะนำเรื่องอุปกรณ์ให้กับคณะที่ร่วมเดินทางไปรับคนไทย โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้ทดลองใส่ชุดป้องกันและวัดขนาดหน้ากากอนามัย N95 ที่ปรับขนาดเข้ากับรูปหน้า เพราะหน้ากากต้องแน่น ไม่ให้อากาศผ่านโดยรอบได้ หากรั่วจะเกิดความเสี่ยง ส่วนชุดอุปกรณ์อื่นๆได้จัดเตรียมไว้อย่างเต็มที่ เป็นชุดที่ได้มาตรฐานโอกาสที่จะรับเชื้อมาจากต่างประเทศน้อยมาก ทุกท่านที่ไปด้วยกันได้ทดสอบใส่ชุดกันตั้งแต่เช้า และมั่นใจทุกคนที่จะเดินทางไปไม่มีความเสี่ยงและทุกคนที่เดินทางกลับมาก็ไม่มีความเสี่ยงด้วยเช่นกัน พร้อมย้ำว่าไม่เพียงแค่ นายอนุทิน ที่ไม่ต้องถูกกักตัว แต่เจ้าหน้าที่ที่สวมชุดป้องกันเต็มรูปแบบ ประกอบด้วย ชุดหน้ากาก N95 รองเท้าบูท ถุงมือ2 ชั้น จะไม่ถูกกักตัวทั้งหมด เพราะถือเป็นคนปกติ แต่ต้องทำตามข้อกำหนดและข้อตกลงต่างๆ ถ้าทำตามเงื่อนไขทุกคนจะถือเป็นคนปกติและกลับไปดูแลอาการตัวเองที่บ้าน 

นายแพทย์อภิชาต ย้ำว่า เจ้าหน้าที่ทุกคนไม่มีความกังวล เพราะทุกคนอาสาที่จะไปช่วยคนไทย โดยเฉพาะทีมแพทย์และพยาบาลอาสาไปเอง และตรวจสอบถามความมั่นใจซ้ำว่ามีความประสงค์ที่จะเดินทางไป ส่วนเจ้าหน้าที่สายการบินก็มีจิตอาสา โดยได้ซักซ้อมทำความเข้าใจเตรียมตัว ได้สรุปรายละเอียดข้อปฏิบัติ ตลอดจนข้อตกลงที่ห้ามผิดพลาดให้ทราบแล้ว ทุกคนมีหน้าที่ประจำของตนได้ และได้แบ่งงานกันแล้ว ซึ่งระหว่างอยู่บนเครื่องก่อนลงที่อู่ฮั่นจะซักซ้อมกันอีกครั้ง เพื่อความแม่นยำ ไม่ให้เกิดความผิดพลาด เมื่อไปถึงสนามบินจะไม่มีใครลงจากเครื่อง เพราะจะมีขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองต่างๆ และข้อกำหนดอื่นๆระหว่างจุดงวงช้างก่อนจะดำเนินการส่งผู้โดยสารขึ้นเครื่อง เพราะจะผ่านการคัดกรองอย่างเข้มงวดจากทางการจีนอยู่แล้ว ย้ำว่าคนที่มีไข้สูงจะไม่ได้ขึ้นเครื่องกลับประเทศ อุณหภูมิต้องไม่เกิน 37.3 องศาเซลเซียส ตามมาตรฐานของจีน

นายแพทย์อภิชาต เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีได้ให้กำลังใจและได้มอบพระเครื่องให้กับทีมแพทย์ที่เดินทางไป ส่วนเป็นพระเครื่องอะไรยังไม่ได้เปิดดูเพราะเก็บอยู่ในกระเป๋า.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบแล้ว! มือปืนโหดสวมชุดไรเดอร์ ตามยิงซ้ำที่ รพ. ดับ 2

ปทุมธานี 5 มิ.ย.- จับแล้ว! มือปืนโหดสวมชุดไรเดอร์ รัวกระสุนใส่หน้าบ้าน ก่อนตามไปยิงซ้ำที่ รพ. เสียชีวิต 2 ราย สารภาพอ้างแค้นถูกตีท้ายครัว ความคืบหน้าเหตุมือปืนชายแต่งกายไรเดอร์ ใช้รถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะ ยิงใส่กลุ่มวัยรุ่นชายหญิง ที่นั่งจับกลุ่มกันอยู่หน้าบ้าน ในพื้นที่ ต.ระแหง อ.ลาดหลุมแก้ว ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย หลังเกิดเหตุกลุ่มเพื่อนได้นำคนเจ็บไปส่งโรงพยาบาล แต่คนร้าย ได้ขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบ ใช้อาวุธปืนตามยิงซ้ำถึงในโรงพยาบาล ส่งผลให้ผู้ได้รับบาดเจ็บที่อยู่ท้ายกระบะเสียชีวิต 2 ราย ล่าสุดเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวมือปืน ทราบชื่อนายสมยศ อายุ 32 ปี พร้อมของกลางอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่ใช้ในการก่อเหตุ โดยให้การรับสารภาพว่าตนเองจะมายิงนายมานะ หรือไอซ์ อายุ 33 ปี เพียงคนเดียว ซึ่งก่อนเกิดเหตุตนได้นั่งกินเบียร์มาก่อน และที่ทำไปนั้น เพราะจับได้ว่าผู้ตายเป็นชู้กับภรรยาตน หลังก่อเหตุขับรถหนีไปจังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม .-สำนักข่าวไทย

“ภูมิธรรม” รับกัมพูชาล้ำ 200 ม. จริง แต่เป็นจุด No Man’s Land

ทำเนียบ 5 มิ.ย.- “ภูมิธรรม” รับกัมพูชาล้ำ 200 เมตร จริง แต่เป็นจุด No Man’s Land ย้ำใช้เวที JBC เจรจา บอกไม่ใช่เรายอมศิโรราบ แต่ไทยมีข้อมูลหลักฐาน รอชัดเจน 14 มิ.ย. ขณะที่กองทัพเตรียมพร้อมตรึงกำลังแนวชายแดน ลั่นไม่ยอมใคร ยืนยันไทยเริ่มต้นจากสันติ ชี้หากประกาศกฏอัยการศึก แม่ทัพภาค 2 มีอำนาจสั่งได้ทันที นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการลงพื้นที่ชายแดน ไทย-กัมพูชา บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานีเมื่อวานนี้ ว่า ตนได้รับรายงานจากกองทัพภาคที่สอง ถึงข้อมูลที่ออกไปในปัจจุบัน ผิดไปจากสิ่งที่เป็นอยู่ ในปัจจุบันมากพอสมควร จึงอยากให้ระมัดระวังเรื่องข้อมูลข่าวสาร ยืนยันว่า ในพื้นที่ไม่ได้มีการวางทุ่นระเบิด จะเป็นภาพเก่าในอดีต ซึ่งตนมองว่าเป็นการสร้างความสับสน และทำลายศรัทธาความร่วมมือของประชาชน นายภูมิธรรม กล่าวถึงการรุกล้ำ 200 เมตร ว่า ทั้งหมดนี้อยู่ที่คณะกรรมการ JBC ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่ชายแดนกำหนดแต่ละฝ่ายมีจุดที่ค่อมกัน ดังนั้นจึงกำหนดให้เป็น […]

ดรามานิติไล่ไรเดอร์รับลูกค้าหน้าคอนโดฯ

5 มิ.ย. – สาวเรียกรถผ่านแอปฯ มารับหน้าคอนโดฯ หัวหน้าวินมอเตอร์ไซค์ถือวิทยุสื่อสารพร้อมไล่ให้ลงรถ ขู่ไม่อนุญาตให้เรียกรถผ่านแอปฯ ด้านไรเดอร์รู้ข่าวบุกรวมตัว ลั่นถ้าคู่กรณีไม่ออกมาก็อย่าหวังว่าแยกย้าย คลิปจากผู้โดยสารคนหนึ่งถ่ายไว้ขณะเรียกรถมารับบริเวณด้านหน้าคอนโดฯ ย่านสาทร แต่กลับถูกชายรายหนึ่งถือวิทยุสื่อสาร ไล่ให้ลงจากรถ พร้อมพูดขู่ว่าไม่ใช่วินห้ามเข้า แฟนเพจเฟซบุ๊กอยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 6 ได้รับเรื่องร้องเรียนจากลูกบ้านคอนโดฯ แห่งหนึ่ง โพสต์ไว้หลังจากเรียกรถผ่านแอปพลิเคชัน แต่กลับถูกขัดขวาง ระบุว่า “เราได้เรียกรถจักรยานยนต์ผ่านแอปพลิเคชันเพื่อไปทำงานตามปกติ แต่มีชายคนหนึ่ง (คาดว่าเป็นวินในหมู่บ้าน มีวิทยุสื่อสารด้วย) เข้ามาไล่ให้ลงจากรถ พร้อมพูดในลักษณะข่มขู่ว่า “ไม่ให้เรียกผ่านแอปฯ เพราะที่นี่มีวินอยู่แล้ว” และยังไล่คนขับกลับไปทันที เหตุการณ์นี้ทำให้รู้สึกไม่ปลอดภัยและเสียเวลาในการเดินทาง รบกวนช่วยตรวจสอบ ขอความชัดเจนว่าในหมู่บ้านมีข้อกำหนดห้ามเรียกรถผ่านแอปฯ หรือไม่ หากมีรบกวนขอเอกสารหรือประกาศที่เป็นทางการด้วย หากไม่มีรบกวนช่วยดำเนินการกับบุคคลดังกล่าว เพราะพฤติกรรมที่เกิดขึ้นเข้าข่ายคุกคามและไม่เหมาะสม” หลังจากโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ ปรารกฏว่าวานนี้ (4 มิ.ย.) มีไรเดอร์จำนวนมานัดรวมตัวกันและเดินทางไปยังคอนโดฯ ดังกล่าว โดยมีตำรวจเข้ามาพูดคุย ขณะที่ทางตัวแทนไรเดอร์ระบุว่า ถ้าคู่กรณีไม่ออกมาก็อย่าหวังว่าแยกย้าย และนิติคอนโดฯ ต้องออกมาพูดให้ชัดเจนว่าไรเดอร์เข้าไปรับผู้โดยสารได้ไหม” ต่อมาที่ สน.บางขุนเทียน เจ้าหน้าที่เรียกตัวนายพงษ์ อายุ 52 […]

คนขับหลับใน รถทัวร์เสียหลักตกร่องถนน ดับ 2 สาหัส 5

ประจวบคีรีขันธ์ 4 มิ.ย. – รถทัวร์ตกร่องกลางถนนชนเสาไฟ บนถนนเพชรเกษม อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ผู้โดยสารเสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บสาหัส 5 คน คนขับยอมรับหลับใน วงจรปิดจับภาพขณะเกิดเหตุรถทัวร์ขับมาดีๆ จู่ๆ ไถลลงร่องกลางถนน โดยไม่มีคู่กรณี เหตุเกิดประมาณตี 04.30 น.ที่ผ่านมา (4 มิ.ย.) บนถนนเพชรเกษม บริเวณหน้าค่ายพระมงกุฎเกล้า อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ รถที่เกิดเหตุเป็นรถบัสโดยสารปรับอากาศ สายระยอง-มุกดาหาร พลิกตะแคงอยู่ในร่องกลาง มีร่องรอยชนกับเสาไฟและการ์ดเลนถนน สภาพรถด้านหน้าพังยับเยิน กระจกหน้าและด้านข้างแตกร้าว หลังคาฉีกขาด ที่เกิดเหตุมีผู้เสียชีวิต 2 คน เป็นชาย และอาการสาหัส 5 คน นอกจากนี้ยังมีผู้บาดเจ็บอีกจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ปฐมพยาบาลเบื้องต้นและเร่งนำตัวนำส่งโรงพยาบาล ขณะที่ผู้โดยสารต่างอยู่ในอาการตกใจ บอกว่าก่อนเกิดเหตุรู้สึกว่ารถส่ายไปมา คนขับรถคือ นายทศพร อายุ 51 ปี ให้การว่า ในรถมีผู้โดยสารรวมคนขับแล้ว 28 คน รับผู้โดยสารจาก จ.ระยอง […]

ข่าวแนะนำ

ผบ.ทสส.นัดถก ผบ.เหล่าทัพเฉพาะกิจ ปมชายแดนไทย-กัมพูชา

กรุงเทพฯ 5 มิ.ย. – ถก ผบ.เหล่าทัพเฉพาะกิจ พรุ่งนี้ แก้ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา คาด “ผบ.ทบ.” รับผิดชอบโดยตรง เตรียมแผนรับมือครอบคลุมทุกมิติแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันพรุ่งนี้ (6 มิ.ย.68) พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) จะเป็นประธานการประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพ ครั้งที่ 4/2568 วาระเฉพาะกิจ ที่กองบัญชาการกองทัพอากาศ (บก.ทอ.) ในเวลา 14.00 น. คาดว่าจะมีการหารือถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งเป็นความรับผิดชอบของกองทัพบกโดยตรง ทั้งการเตรียมกำลัง และดำเนินการเกี่ยวกับการใช้กำลังตามอำนาจหน้าที่ของกระทรวงกลาโหม โดยมี พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก เป็นผู้บังคับบัญชาโดยตรง และเตรียมแผนพร้อมรับมือสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ครอบคลุมทุกมิติแล้ว สำหรับการประชุม ผบ.เหล่าทัพ ในครั้งนี้ กองทัพอากาศเป็นเจ้าภาพ และได้แจ้งสื่อมวลชน ขอยกเลิกการมาทำข่าวนี้ เนื่องจากเป็นการประชุมเฉพาะกิจ นอกจากนี้ สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) จะมีการประชุม และคาดว่าจะมีการตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจขึ้นมาดูแลแก้ปัญหาโดยเฉพาะ.-313-สำนักข่าวไทย

รวมพลังหยุดเหมืองพิษ คืนชีวิตคนลุ่มน้ำชายแดน

5 มิ.ย. – วันนี้เป็นวันสิ่งแวดล้อมโลก ซึ่งขณะนี้ผู้คนตามลุ่มน้ำชายแดนไทย-เมียนมา ทางภาคเหนือของไทย กำลังเผชิญกับวิกฤติสิ่งแวดล้อม หลัง 2 เดือนมานี้พบสารหนูปนเปื้อนเกินมาตรฐานในลำน้ำกกและน้ำสาย รวมถึงแม่น้ำรวกและแม่น้ำโขง เชื่อว่าเป็นผลมาจากการทำเหมืองแร่หลายแห่งบริเวณต้นน้ำในเมียนมา วันนี้ชาวเชียงใหม่และเชียงราย ร่วมกันออกมาแสดงพลังเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ โดยเฉพาะการเจรจาให้หยุดเหมืองพิษและคืนชีวิตให้กับลุ่มน้ำต่างๆ .-สำนักข่าวไทย

แฉชนวนเหตุ ไรเดอร์บุกยิงดับ 2 ศพคา รพ.

ปทุมธานี 5 มิ.ย. – จากเหตุระทึกขวัญที่ลาดหลุมแก้ว ปทุมธานี เมื่อคืนที่ผ่านมา ไรเดอร์บุกยิงคนถึงในบ้าน แล้วยังขับรถตามไปยิงซ้ำที่โรงพยาบาลจนเสียชีวิต วันนี้ตำรวจจับกุมตัวได้แล้ว ชนวนเหตุมาจากอะไร ติดตามจากรายงาน.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ โพสต์หารือประเมินปมชายแดนไทย-กัมพูชา

ทำเนียบ 5 มิ.ย.-นายกฯ โพสต์หารือประเมินปมชายแดนไทย-กัมพูชา ยึดหลักการสันติวิธี ยันไทยไม่ยอมรับอำนาจศาลโลก ชี้ต้องคุยเฉพาะพื้นที่เป็นปัญหา ไม่ขยายประเด็น นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ถึงการหารือสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า “จากกรณีที่ทางรัฐบาลกัมพูชาออกแถลงการณ์เกี่ยวกับสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ดิฉันได้หารือร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ และท่านรองนายกรัฐมนตรี นายภูมิธรรม เวชยชัย ซึ่งได้โทรศัพท์เข้ามารายงานเรื่องการลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ ณ จังหวัดอุบลราชธานี อย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินภาพรวมอย่างรอบด้าน รัฐบาลไทยขอยืนยันในหลักการแก้ไขปัญหาด้วยแนวทางสันติวิธี ภายใต้ความเคารพในอธิปไตยและดินแดนของกันและกัน ในกรณีที่กัมพูชาประสงค์จะเสนอให้ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) เข้ามามีบทบาท รัฐบาลไทยขอเรียนว่า ประเทศไทยไม่ได้ให้การยอมรับเขตอำนาจศาล ICJ ในกรณีพิพาทต่างๆ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2503 จนถึงปัจจุบัน และขอย้ำว่า ประเด็นที่เกิดขึ้นควรได้รับการแก้ไขปัญหาในบริเวณที่มีการกระทบกระทั่งกันเท่านั้น ไม่ขยายประเด็นปัญหาออกไป ประเทศไทยยังยึดมั่นในกลไกการหารือทวิภาคีที่ทั้งสองฝ่ายตกลงกันไว้มาโดยตลอด เพื่อรักษาความสัมพันธ์อันดีระหว่างประชาชนทั้งสองประเทศค่ะ.-315.-สำนักข่าวไทย