กทม.ระดมสมองทำแผนเผชิญเหตุรับมือ PM2.5

ศาลาว่าการกทม. 27 ม.ค.- กทม.ระดมสมองหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำแผนเผชิญเหตุรับมือฝุ่น PM2.5


ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง   โฆษกกรุงเทพมหานคร แถลงผลการประชุมร่วมระหว่างกรุงเทพมหานคร กรมอุตุนิยมวิทยา  กองบัญชาการตำรวจจราจร กรมควบคุมมลพิษและอีกหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการร่วมขับเคลื่อนทำแผนเผชิญเหตุ  รองรับ สถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ที่อาจจะเข้าสู่สภาวะวิกฤตได้ทุกเมื่อ  


โดยโฆษกกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า มี2ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้ฝุ่น PM2.5รุนแรงคือ ปัจจัยจากลมฟ้าอากาศที่ควบคุมไม่ได้ และปัจจัยจากควันพิษ ทุกชนิดทั้งโรงงานอุตสาหกรรมและจากรถยนต์ที่สามารถควบคุมได้ ซึ่งในการประชุมวันนี้เป็นการนำข้อมูลที่หน่วยงานต่างๆได้จัดการแก้ปัญหาไปก่อนหน้านี้ เช่นการตั้งจุดตรวจจับรถควันดำในเขตกรุงเทพและปริมณฑล   การตรวจจับการเผากลางแจ้ง การฉีดพ่นละอองฝอยน้ำเพื่อดักจับฝุ่น    มาหารือร่วมกันเพื่อบูรณาการหามาตรการเผชิญวิกฤตเมื่อค่าของฝุ่นเกินมาตรฐานโดยแบ่งเป็นสี่ระดับของการปฎิบัติยึดเกณฑ์ค่าของฝุ่นดังนี้ เมื่อค่าฝุ่นน้อยกว่า50   มคก./ลบ.ม ,ค่าฝุ่น 51-75 มคก./ลบ.ม , ค่าฝุ่น 76-100 มคก./ลบ.ม ,ค่าฝุ่น อยู่ในระดับเกิน 100มคก./ลบ.ม


โดยให้ทุกหน่วยงานทำแผนอย่างชัดเจนที่จะนำมาประชุมร่วมกันอีกครั้งในวันศุกร์ที่31 มกราคมนี้  ซึ่งแผนเผชิญเหตุ จะประกอบไปด้วยหลักการใหญ่ใหญ่ คือ ควบคุม รถที่ก่อให้เกิดควันดำ โรงงานอุตสากรรม    การเผาฝุ่นที่เกิดจากการก่อสร้าง และยังรวมถึงการปิดโรงเรียนหากมีความจำเป็น ซึ่งต้องหารือกับกระทรวงศึกษาธิการรวมทั้งการแจกหน้ากากอนามัย ให้ประชาชนอย่างทั่วถึงด้วย      

     

โฆษก กรุงเทพมหานคร ยังขอให้สื่อมวลชน พิจารณาการนำเสนอตัวเลขค่าของฝุ่นละอองขนาดเล็ก ให้ถูกต้องซึ่งมีอยู่ด้วยกันสองระบบ คือ ในระบบที่มีหน่วยวัดค่ามาตรฐาน เป็น 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร    ซึ่งจะมีค่าเทียบเท่ากับ 100aqi  ซึ่งหน่วยaqiนั้นถูกจัดทำขึ้น เพื่อให้ประชาชนสามารถ เข้าใจปริมาณของฝุ่นละอองในอากาศด้วยการดูจากสีซึ่งมีด้วยกัน 6 สี 6 ระดับตั้งแต่น้อยไปหามากคือเขียว เหลือง ส้ม แดงม่วงและแดงเข้ม    

ด้าน นาวาอากาศเอก สมศักดิ์ ขาวสุวรรณ์   อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา กล่าวว่าสภาพอากาศในช่วงนี้  มีมวลอากาศเย็นแผ่ลงมา ปกคลุมในส่วนของกรุงเทพมหานคร และภาคกลาง เป็นผลดีทำให้ ช่วยยกมวลอากาศร้อนซึ่งมีฝุ่นละอองขนาดเล็กลอยตัวขึ้น ทำให้กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ปราศจากฝุ่นในรอบสัปดาห์นี้ไปจนต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 3  กุมภาพันธ์  แต่มวลอากาศเย็นจะส่งผลทำให้ฝุ่นไปสะสมอยู่ในส่วนของภาคเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือแทน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คลอดลูกแฝดตกตึก

หญิงวัย 31 เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น รพ.ดัง เสียชีวิต

สลด! หญิงวัย 31 ปี เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น โรงพยาบาลดัง เสียชีวิต ด้านโรงพยาบาลแถลงแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต พร้อมทบทวนมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุแบบนี้ขึ้นอีก

ทหารควง M16 ยิงเพื่อนตำรวจดับคาบ้านพัก

ทหารพรานควง M16 บุกยิงเพื่อนตำรวจเสียชีวิตภายในบ้านพัก ก่อนขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านผู้ตาย เข้ามอบตัวกับตำรวจ สภ.เมืองปัตตานี เบื้องต้นคนก่อเหตุให้การวกวน เนื่องจากอยู่ในอาการหลอน

ลูกน้องปืนโหดรัวยิงหัวหน้างานดับคา สนง.ปฏิรูปที่ดินฯ

ลูกน้องชักปืนกระหน่ำยิงหัวหน้างานดับกลางห้องทำงาน สำนักงานปฏิรูปที่ดิน จ.น่าน ก่อนลั่นไกยิงตัวเอง ปมเหตุขัดแย้งเรื่องงาน

จนท.ปะทะเดือด! เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ

ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง นำกำลังปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่ อ.กรงปินัง จ.ยะลา เกิดการปะทะ เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ ยึดอาวุธสงคราม 3 กระบอก

ข่าวแนะนำ

นักวิชาการชี้เลือกตั้งนายก อบจ.ไม่ใช่ภาพสะท้อนเลือกตั้งใหญ่

การเลือกตั้งนายกและสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด ผ่านพ้นไปแล้วทั้ง 47 จังหวัด ขณะนี้รอประกาศผลอย่างเป็นทางการจาก กกต. แต่ผลที่ออกมาชี้ให้เห็นว่าผู้สมัครที่มีเครือข่ายพรรคการเมืองใหญ่สนับสนุนได้ชัยชนะหลายจังหวัด แต่นักวิชาการชี้ว่ายังไม่สามารถสะท้อนให้เห็นภาพชัดถึงผลสนามเลือกตั้งใหญ่ในอนาคตได้

เปิดใจ 5 ตัวประกันคนไทย บอกเหมือนตายแล้วเกิดใหม่

เปิดใจ 5 ตัวประกันคนไทย บอกเหมือนตายแล้วเกิดใหม่ ได้ชีวิตใหม่ ไม่สิ้นเคยหวัง เชื่อว่าต้องได้กลับบ้านในสักวัน เผยอยากกินลาบ-ซอยจุ๊

ดาวเทียมพบฝุ่นหนักในอาเซียน หลายประเทศทะลุ 190 AQI

ดาวเทียมพบฝุ่นหนักในอาเซียน “เมียนมา ลาว กัมพูชา มาเลเซีย” หลายประเทศทะลุ 190 AQI ส่วนไทย อีก 2 วัน มีลมแรงช่วยพัดฝุ่นกระจายตัวดีขึ้น ด้าน ปภ.ช. สั่งพรุ่งนี้ (3 ก.พ.) ดีเดย์ ทุกหน่วยทั่วประเทศเคาะประตูบ้าน “ห้ามเผา” ฝ่าฝืนจับสถานเดียว