กรุงเทพฯ 24 ม.ค.- ตร.ร่วม ขนส่ง เพิ่มความเข้มสูงสุด ตั้งจุดตรวจจับควันดำ 33 จุดทั่วกรุง ควบคุมปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 เผยสถิติตรวจจับ จับควันดำเกินมาตรฐานช่วงครึ่งเดือน ม.ค. จับแล้ว 8,284 ราย ส่วนใหญ่เป็นรถบรรทุกและรถประจำทาง
ชุดปฏิบัติการร่วมแก้ปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง ร่วมออกตรวจ บริเวณจุดตรวจควันดำ ถนนรัชดาภิเษก ด้านหน้าศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ หนึ่งใน 33 จุดตรวจร่วมระหว่าง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมการขนส่งทางบก กรมควบคุมมลพิษ และกองทัพภาคที่ 1 โดยเน้นไปที่รถขนาดใหญ่ ทั้งรถบรรทุก รถโดยสารสาธารณะ รถตู้ และรถกระบะ ขณะเดียวกัน จิตอาสายังร่วมแจกจ่ายหน้ากากอนามัยให้กับผู้ใช้รถอีกด้วย
พลตำรวจตรีจิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า ขณะนี้ ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีการเพิ่มความเข้มสูงสุด เพื่อบังคับใช้กฎหมาย ในการลดฝุ่นละออง ซึ่งจะมีการคุมเข้มต่อเนื่องไปจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ หรือจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย และจากนั้น จะกำหนดแผนปฏิบัติร่วมกันทุกเดือน เพื่อควบคุมสถานการณ์ฝุ่นละออง PM 2.5 ตามนโยบายของรัฐบาล โดยการตั้งจุดตรวจ จะเน้นเส้นทางเข้า-ออก กรุงเทพมหานคร และจุดที่มีค่าฝุ่นละออง PM 2.5 เกินค่ามาตรฐาน ซึ่งจากการปฏิบัติตั้งแต่วันที่ 1 – 23 มกราคมที่ผ่านมา สามารถตรวจจับรถที่มีค่าควันดำเกินมาตรฐานแล้ว 8,284 ราย ส่วนใหญ่เป็นรถใหญ่ ประเภทรถบรรทุกและรถประจำทาง คิดเป็นร้อยละ 60 อีกประมาณร้อยละ 40 พบ เป็นรถเล็ก ขนาด 4 – 6 ล้อ ซึ่งถือว่า มีผลการจับกุมเพิ่มสูงขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนธันวาคม 2562 ที่ประมาณ 7,000 ราย
นางจันทิรา บุรุษพัฒน์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนของกรมการขนส่งทางบก จะมีการตรวจสภาพรถโดยสารสาธารณะ ก่อนจดทะเบียนรถ รวมทั้ง ตรวจสภาพทุกปี ปีละ 2 ครั้ง นอกจากนี้ จะมีการปรับเปลี่ยนระยะเวลาการใช้รถ จากเดิม 7 ปี ให้เหลือ 5 ปี โดยอยู่ระหว่างดำเนินการร่างประกาศ ก่อนบังคับใช้ในอนาคต.-สำนักข่าวไทย