สธ.23 ม.ค.-จิตแพทย์เชื่อคนร้ายชิงทองไม่ได้มีอาการป่วยทางจิต แต่มูลเหตุของการกระทำน่าจะมาจากทั้งปัจจัยภายในและภายนอก ส่วนการสำนึกผิด แต่ไม่มามอบตัวแต่แรกเกิดขึ้นได้
นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต อธิบดีกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข (สธ.)กล่าวถึงกรณีคนร้ายชิงทองในห้างดังที่จังหวัดลพบุรี ที่ให้การมูลเหตุจูงใจในการก่อเหตุมาจากปัญหาส่วนตัว และหนี้สิน ว่า เรื่องนี้เป็นแบบอย่างว่า คนที่ดูเหมือนมั่งมี พรั่งพร้อม ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีปัญหา หรือไม่ต้องการสิ่งใด ในทุกๆ การกระทำของคนเรา มีการกระทำ หรือแรงจูงใจ จากทั้งปัจจัยภายในและปัจจัยภายนอกเสมอ บางครั้งคนเราอาจคิดประหลาด แตกต่างไปจากปกติ เหมือนที่เคยมีข่าว ไม่ว่านักบุญ ครู พระ ก็สามารถกระทำความผิดได้ขึ้นอยู่ กับปัจจัยในขณะนั้น บางคนก็ก่อเหตุในขณะจิตตก หรือบางคน ก่อเหตุเพราะต้องการปลดปล่อยก็สามารถทำได้
อย่างผู้ต้องหารายนี้ที่กระแสสังคม สงสัยมีอาการป่วยหรือไม่ เท่าที่ดูเบื้องต้น จากการตอบคำถาม ไม่น่าจะมีอาการทางจิตรุนแรง แต่ปกติของคนกระทำ หรือก่อเหตุ มักมีปัญหาทางใจแน่นอน แต่หากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ศาล สงสัยก็สามารถใช้อำนาจและส่งตัวมาให้ตรวจสอบได้โดยโรคที่ได้รับการยกเว้นโทษ ได้แก่ โรคจิต จิตบกพร่อง จิตฟั่นเฟือนเท่านั้น ส่วน วิกลจริต ซึมเศร้า วิตกกังวล ไม่ได้รับการยกเว้น ตามกฎหมาย
ส่วนกรณีที่ผู้ต้องหาให้การว่ามีความสำนึกในการกระทำผิด แต่ไม่ได้มามอบตัวทันที จะรอวันที่ 24 ม.ค. นั้น อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า ความสำนึกในความผิด คือการรู้ตัวว่าได้กระทำสิ่งใดลงไป และรู้สึกผิด ส่วนเรื่องมอบตัวหรือไม่มอบตัวเป็นอีกเรื่องหนึ่ง .-สำนักข่าวไทย