ตลาดรังสิต 23 ม.ค. – รัฐมนตรีพาณิชย์ ออกรณรงค์กระตุ้นประชาชนรู้จักฉลาดซื้อประหยัดใช้สินค้าช่วงตรุษจีน ย้ำสินค้าตรุษจีนปีนี้ไม่แพงเกินไปซื้อเท่าที่จำเป็น แต่ได้สั่งการให้ดูแลอย่างใกล้ชิดห้ามขายเกินราคาเด็ดขาด
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานเปิดกิจกรรมรณรงค์ฉลาดซื้อประหยัดใช้ “พาณิชย์ตุ้งแช่รับปีหนูทอง” ในช่วงเทศกาลตรุษจีน ศูนย์การค้าตลาดรังสิต จังหวัดปทุมธานี ว่า ในช่วงตรุษจีนปีนี้ถือเป็นเทศกาลประเพณีสำคัญของชาวจีนและพี่น้องชาวไทยเชื้อสายจีน เนื่องจากเป็นวันขึ้นปีใหม่ตามจันทรคติ ซึ่งกระทรวงพาณิชย์มีความห่วงใยพี่น้องประชาชน และต้องการที่จะช่วยลดภาระค่าครองชีพ จึงได้จัดกิจกรรมดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม กรมการค้าภายในยังร่วมกับตลาดกลางสินค้าเกษตรและตลาดสด 10 แห่ง ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล จำหน่ายผัก ผลไม้ เครื่องเซ่นไหว้ ส่งตรงจากเกษตรกรและผู้ผลิตในราคาที่เป็นธรรมและยังมีกิจกรรมพิเศษ โดยจัดทำคูปองเป็นส่วนลดให้แก่ประชาชนที่มาร่วมงานซื้อสินค้าที่จำเป็นในการเซ่นไหว้บรรพบุรุษและเทพเจ้า เพื่อส่งเสริมการขายและกระตุ้นให้เกิดการบริโภคเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ จึงขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนที่กำลังจะออกไปจับจ่ายหาซื้อสินค้าให้มาเลือกซื้อสินค้าในสถานที่จัดกิจกรรมแห่งนี้และตลาดอื่น ๆ อีก 10 แห่ง ในพื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ นครปฐม นนทบุรี และปทุมธานี ซึ่งไม่เพียงได้สินค้าราคาเป็นธรรมแล้วยังได้ช่วยเหลือเกษตรกรและผู้ค้าในตลาดให้มีรายได้เพิ่มขึ้นเป็นการกระตุ้นให้เกิดการใช้จ่าย สร้างรายได้แก่เกษตรกร และผู้ประกอบการรายย่อย ส่งผลให้นโยบายของรัฐบาลและแนวทางของกระทรวงพาณิชย์ที่จะดำเนินการให้ระบบเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศมีความมั่นคงได้อีกทางหนึ่งด้วย
นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า จากการติดตามรายงานสถานการณ์ราคาสินค้าในช่วงเทศกาลตรุษจีนปีนี้ โดยส่วนใหญ่ราคาไม่เปลี่ยนแปลงจากปีที่แล้วมากนัก เพราะประชาชนมีทางเลือกมากขึ้น โดยเฉพาะห้างค้าปลีกที่จัดโปรโมชั่นราคาล่วงหน้าและน่าจะไม่มีการปรับขึ้นอีกในช่วงของวันจ่ายอีกเล็กน้อย ดังนั้น สินค้าที่ราคาทรงตัว ได้แก่ ไก่เนื้อ ราคาไก่ต้มตัวใหญ่เกิน 3 กิโลกรัม อยู่ที่ตัวละ 370 บาท ขนาดเล็กตัวประมาณ 2 กิโลกรัมกว่า ๆ ตัวละ 270 บาท เป็ดย่าง-เป็ดพะโล้ เฉลี่ยตัวละ 480 บาท และขนมเข่ง-ขนมเทียน ราคาทรงตัว นอกจากนี้ ยังมีสินค้าที่ปรับลดจากปีก่อน เช่น กล้วยหอม ผักกาดขาด กะหล่ำ รวมถึงหน่อไม้จีน แปะก๊วย หมี่ฮ่องกง และของแห้ง ที่นำเข้าจากจีน ซึ่งเงินบาทแข็งค่าทำให้ราคาถูกลงปีนี้ นายวิชัยกล่าว
ส่วนสินค้าที่ปรับสูงขึ้น โดยเฉพาะเนื้อหมูขณะนี้ราคาหน้าฟาร์มเฉลี่ย 73-75 บาทต่อกิโลกรัม หรือพื้นที่ห่างไกลกิโลกรัมละ 80 บาท ทำให้ราคาขายปลีกปรับขึ้นกิโลกรัมละ 5-10 บาท แต่ถือว่าสอดคล้องกับสถานการณ์ความต้องการในตลาดที่ยังมีสูงทั้งการส่งออกและใช้ไหว้ในช่วงตรุษจีนนี้ รวมทั้งราคาไข่ไก่ปรับขึ้นฟองละ 10 สตางค์ โดยไข่ไก่เบอร์ 2 ขยับขึ้นเป็นฟองละ 3.20 บาท และส้มเขียวหวานปรับสูงขึ้นกิโลกรัมละ 5-10 บาท
ทั้งนี้ จากการสำรวจสถานการณ์ราคาสินค้าภายในตลาดรังสิต พบว่าสินค้าส่วนใหญ่ราคาทรงตัวใกล้เคียงกับปีก่อน โดยเป็ดพะโลจำหน่ายตัวละ 350 บาท เป็ดย่างตัวละ 360 บาท ไก่บ้านตัวละ 380-450 บาท ไก่เนื้อตัวละ 200-220 บาท เนื้อหมูสามชั้นต้มสุกชิ้นละ 180 บาท เพิ่มขึ้นเล็กน้อยสอดคล้องกับราคาหมูเป็นที่เพิ่มขึ้น ส้มเขียวหวานกิโลกรัมละ 80-100 บาท ขณะที่ขนมไหว้เจ้า เช่น ขนมเทียนชิ้นละ 7 บาท และขนมเข่ง คู่ละ 20-30 บาท และยังได้ตรวจเครื่องชั่งสินค้าในตลาด 182 เครื่อง ปรากฎว่าเครื่องชั่งไม่ได้มาตรฐาน 2 เครื่อง จึงได้ยึดเครื่องชั่งเพื่อเอาไปทำลายและยังได้กำชับให้กรมการค้าภายในทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาคออกตรวจสอบราคาสินค้าโดยรวมอย่างใกล้ชิด และหากพื้นที่ใดมีราคาแพงมากจนเกินไปสามารถร้องเรียนมาที่สายด่วน 1569 ได้ทันที และรายใดโก่งราคาขายเกินควรให้ดำเนินคดีทางกฎหมายอย่างจริงจัง.-สำนักข่าวไทย