คมนาคมเตรียมชง ครม.สัญจร ดัน 46 บิ๊กโปรเจกต์

กรุงเทพฯ 17 ม.ค.-คมนาคมเตรียมเสนอ ครม. สัญจร จังหวัดนราธิวาส ของบปี 64 ดัน 46 บิ๊กโปรเจกต์ มูลค่าเกินพันล้าน วงเงิน 1.79 แสนล้าน 



นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า กระทรวงคมนาคมเตรียมเสนอแผนโครงการลงทุนของหน่วยงานราชการและรัฐวิสาหกิจในปีงบประมาณ 2564 ที่มีมูลค่าเกิน 1,000 ล้านบาท จำนวน 46 โครงการ คิดเป็นมูลค่าลงทุนวงเงินรวม 179,000 ล้านบาท ให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นอกสถานที่จังหวัดนราธิวาสพิจารณาวันที่ 21 มกราคมนี้ หลังจากนำแผนดังกล่าวหารือกับนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี รวมทั้งกระทรวงการคลังไปแล้ว


ทั้งนี้ นายสมคิด ได้ให้ข้อเสนอแนะว่าให้เร่งผลักดันหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม เช่น การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เร่งขยายโครงข่ายรถไฟฟ้าในจังหวัดสำคัญภูมิภาคอื่น ๆ ทั่วประเทศมากขึ้น อาทิ จังหวัดภูเก็ต ซึ่งทั้งหมดกระทรวงคมนาคมมีแผนเร่งรัดการดำเนินการอยู่แล้ว

นายศักดิ์สยาม กล่าวต่ออีกว่า ในส่วนของกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย (TFF) ที่มีการระดมทุนวงเงินกว่า 40,000 ล้านบาทนั้น จะนำเงินมาใช้กับ 2 โครงการใหญ่ของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ประกอบด้วย 1.โครงการก่อสร้างทางด่วนพระราม 3-ดาวคะนอง และ 2.โครงการก่อสร้างทางด่วนสายเหนือขั้นที่ 3 ช่วง N2 

สำหรับโครงการทางด่วน N2 ที่ยังไม่ได้เริ่มกระบวนการประมูลนั้น กระทรวงคมนาคมเห็นว่าการใช้เงิน TFF จะมีภาระดอกเบี้ย จึงควรพิจารณานำเงินที่จะใช้ในโครงการอื่นที่มีผลตอบแทนในการลงทุน เช่น โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) หมายเลข 7 ช่วงศรีนครินทร์-สุวรรณภูมิ กับมอเตอร์เวย์ สายนครปฐม-ชะอำของกรมทางหลวง (ทล.) รวมทั้งเป็นโครงการที่ใช้ระยะเวลาก่อสร้างไม่นาน เพื่อไม่ให้เกิดภาระดอกเบี้ยระยะยาว โดยภาพรวมจะต้องพิจารณาให้รอบคอบว่าจะใช้การลงทุนรูปแบบใด ระหว่างการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการภาครัฐ (PPP) กับ TFF 


“ส่วนตัวมองว่าการใช้เงินกองทุน TFF ลงทุนโครงสร้างพื้นฐานนั้น ควรเป็นโครงการที่ดำเนินงานเสร็จภายในไม่เกิน 1 ปีครึ่ง เนื่องจากการระดมทุนจะต้องเสียดอกเบี้ย ขณะที่การประมูลควรแบ่งออกเป็นหลายสัญญาคล้ายกับโครงการมอเตอร์เวย์ สายบางปะอิน-นครราชสีมา และสายบางใหญ่-กาญจนบุรี เพื่อสามารถดำเนินการก่อสร้างโครงการได้อย่างรวดเร็ว” นายศักดิ์สยาม กล่าว.- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พปชร.เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา

พปชร. เปิดตัวทัพใหญ่ ว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา เผยเลือดไหลเข้าพรรคพร้อมรับใช้ประชาชนอีกมาก

สาวถูกงูเห่ากัดใช้เบตาดีนทา สุดท้ายถูกหามเข้า ICU

อุทาหรณ์ สาวโพสต์โดนงูเห่ากัดตอนตี 5 ล้างแผล ทาเบตาดีนสู้พิษงู ลุกไปเข้าเวรเช้าต่อ ก่อนภาพตัด ถูกหามเข้าไอซียู

ตร.ไซเบอร์บุกค้น 9 จุด รวบรอบ 2 “มินนี่” เจ้าแม่เว็บพนัน

ตำรวจ บช.สอท. นำกำลังพร้อมหมายค้น ปูพรม 9 จุด ทั้งในกรุงเทพฯ จังหวัดเลย และจังหวัดใกล้เคียง จับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายพนันออนไลน์ “มินนี่” กว่า 30 หมายจับ

เตือนพายุฤดูร้อนไทยตอนบน ฉ.1 มีผล 6-8 มี.ค.นี้

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน ฉบับที่ 1 มีผลกระทบช่วงวันที่ 6-8 มี.ค.68 เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง

ข่าวแนะนำ

ครู-ผู้ปกครอง ห่วงยกเลิก “ทรงผมนักเรียน” กระทบระเบียบวินัย

ครูและผู้ปกครองใน จ.ขอนแก่น แสดงความกังวล หลังศาลปกครองสูงสุด สั่งยกเลิกกฎกระทรวง ข้อกำหนด “ผมทรงนักเรียน” ห่วงการปล่อยเสรีอาจกระทบต่อระเบียบวินัยและความเรียบร้อยของนักเรียน ขณะที่นักเรียนจำนวนมากพอใจคำตัดสินดังกล่าว

อากาศร้อนจัด หนุ่มขับเก๋งย่องขโมยแอร์ครบชุด

อากาศร้อนจัด หนุ่มขับเก๋งย่องขโมยแอร์ครบชุดจากร้านแอร์ กลางเมืองสมุทรสงคราม เชื่อคนร้ายมีความรู้เรื่องแอร์ เพราะเลือกหยิบชุดเดียวกัน

นายกฯ ชูซอฟต์พาวเวอร์ไทย บนเวที “ITB Berlin 2025”

นายกฯ ชู soft power ไทย บนเวทีท่องเที่ยวโลก “ITB Berlin 2025” ผลักดันเมืองน่าเที่ยว 18 จังหวัด มุ่งขับเคลื่อนให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวระดับโลก ตั้งเป้าสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว 3.5 ล้านล้านบาท

Trudeau tells Trump that tariffs are 'very dumb,' says Canada striking back

ประเทศคู่ค้าตอบโต้กำแพงภาษีสหรัฐ

ออตตาวา 5 มี.ค.- ประเทศคู่ค้าขนาดใหญ่ของสหรัฐ ทั้งแคนาดา เม็กซิโก และจีน ออกมาตรการด้านภาษีและมาตรการอื่น ๆ ตอบโต้มาตรการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ ทั้งนี้หลังจากมาตรการของสหรัฐที่เก็บภาษีสินค้านำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโกเป็นร้อยละ 25 มีผลตั้งแต่วันที่ 4 มีนาคม นายจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดาแถลงในอีกไม่กี่ชั่วโมงต่อมาว่า เป็นมาตรการที่โง่เขลาอย่างยิ่ง และแคนาดาได้มีมาตรการโต้กลับด้วยการเก็บภาษีในอัตราร้อยละ 25 ทันทีกับสินค้าของสหรัฐมูลค่า 30,000 ล้านดอลลาร์แคนาดา (ราว 701,115 ล้านบาท) และจะเก็บในอีก 21 วันกับสินค้าสหรัฐมูลค่า 125,000 ล้านดอลลาร์แคนาดา (ราว 2.9 ล้านล้านบาท)   ขณะที่ร้านจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ขนาดใหญ่ในแคนาดาต่างพร้อมใจกันเก็บเหล้าและไวน์ที่นำเข้าจากสหรัฐออกจากชั้นวางและยังเชิญชวนให้ผู้บริโภคหันไปซื้อสินค้าที่ผลิตเองในประเทศแทน  ผู้ผลิตคราฟต์เบียร์รายหนึ่งเปิดเผยว่า จะเพิ่มการใช้วัตถุดิบในประเทศเป็นหลัก แทนวัตถุดิบที่เคยนำเข้าจากสหรัฐ  แต่วัตถุดิบจำเป็นบางอย่างต้องนำเข้าจากเยอรมนี ส่วนกระป๋องอลูมิเนียมสำหรับบรรจุเบียร์ที่เคยนำเข้าจากสหรัฐเพราะแคนาดาไม่ได้ผลิตนั้น จะเปลี่ยนไปซื้อจากจีนแทนซึ่งมีราคาถูกกว่า ด้านเม็กซิโก ประธานาธิบดีคลอเดีย เชนบามแถลงว่า การขึ้นภาษีของสหรัฐไม่มีความชอบธรรม เพราะที่ผ่านมาเม็กซิโกให้ความร่วมมือกับสหรัฐมาโดยตลอดในการแก้ปัญหาต่าง ๆ ทั้งเรื่องผู้อพยพและยาเสพติด ดังนั้นรัฐบาลเม็กซิโกจะมีมาตรการตอบโต้สหรัฐด้วยมาตรการด้านภาษีและมาตรการอื่น ๆ  โดยจะมีการแถลงรายละเอียดเกี่ยวกับมาตรการตอบโต้อีกครั้งในวันที่ 9 […]