สกลนคร 28 เม.ย.-นายกฯ ลงพื้นที่ สกลนคร-นครพนม ก่อนประชุม ครม.สัญจร ติดตามสถานการณ์น้ำบึงหนองหาร แนะหน่วยงานลิสต์ปัญหาให้ชัดเจน หลังพื้นที่สะท้อนระบบนิเวศเสื่อมโทรม บึงตื้นเขิน ขณะ ม.เกษตร ของบฯ 50 ล้านบาท ตั้งศูนย์ Wellness Center ภาคอีสาน ดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติ
นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ตรวจติดตามการบริหารจัดการน้ำ ณ สวนสาธารณะดอนเกิน อ.เมืองสกลนคร จ.สกลนคร โดยใช้รถยนต์อัลพาด สีดำ ทะเบียน กท.888 กรุงเทพมหานคร
โดยนายกรัฐมนตรี ได้รับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์น้ำหนองหาร จากชูศักดิ์ รู้ยิ่ง ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร และนายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ว่า สามารถกักเก็บได้ปริมาณ 266 ล้านลูกบาศก์เมตร ปัจจุบันมีปริมาณน้ำประมาณ 136 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 51.3 ของความจุ ขณะที่ความต้องการใช้น้ำในการอุปโภค 20 ล้านลูกบาศก์เมตรเพื่อการเกษตร 100 ล้านลูกบาศก์เมตร มีพื้นที่ ชลประทานรอบหนองหาน 50,000 ไร่
ปัจจุบันพบว่ามีปัญหาคุณภาพของงานและระบบนิเวศเริ่มเสื่อมโทรม เนื่องจากเป็นแหล่งรับน้ำเสียจากชุมชนและครัวเรือนที่ถูกปล่อยลงโดยไม่ผ่านการบำบัด ปัญหาวัชพืชในหนองหานมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว รวมไปถึงการตื้นเขินของบึงหนองหารจากการทับถมของดินตะกอน ซึ่งปัจจุบันมีหลายหน่วยงานดูแลในพื้นที่แต่ต้องบูรณาการกัน ทำให้เกิดความล่าช้า โดยกรมธนารักษ์ดูแลและบำรุง แต่ตามกฎหมาย หากจะขุดลอกต้องขออนุญาตกรมประมง เนื่องจากมีพันธุ์ปลาอนุรักษ์อยู่และปัญหาแนวเขตของหนองหาร

ขณะเดียวกันสถานีสูบน้ำโดยรองบึงหนองหารจำนวน 32 สถานี สร้างแล้วเสร็จ 3 สถานี และระหว่างดำเนินการ 5 แห่ง โดยจะเป็นการบรรจุของงบประมาณในแผนปีงบประมาณ 2569-2572
ส่วนโครงการก่อสร้างและปรับภูมิทัศน์พุทธอุทยานหลวงปู่มั่น ภูริทัตโตเพื่อเป็นแลนด์มาร์คสำคัญของจังหวัดสกลนคร ดึงดูดพุทธศาสนิกชน ใช้งบประมาณ 279 ล้านบาท เฉพาะงบประมาณก่อสร้างสวนสาธารณะ และโครงการก่อสร้างสะพาน ทางเดิน-วิ่ง และทางจักรยานสำหรับ องค์การปกครองส่วนท้องถิ่นรอบหนองหาร มีแนวถนนแล้ว 21 กิโลเมตร ยังไม่มีถนน 50 กิโลเมตร เพื่อยกระดับการท่องเที่ยว ริมหนองหาร งบประมาณ 795 ล้านบาท
โดย สทนช. สะท้อนเรื่องการจัดสรรงบประมาณไม่เป็นไปตามแผน ต้องทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ ขยายระบบระบายน้ำ และบำบัดน้ำ เพราะใกล้เข้าฤดูฝนแล้วจึงต้องพร่องน้ำไปก่อน
นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ขอให้หน่วยงานลิสต์ปัญหาที่เกิดขึ้นเพื่อให้ทุกคนได้รู้ เพื่อประโยชน์โดยรวม พร้อมสอบถามว่าประชาชนอยากได้อะไร ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนครรายงานว่า อยากให้สร้างหลวงปู่มั่น โครงการก่อสร้างและปรับภูมิทัศน์ พุทธอุทยาน หลวงปู่มั่นภูริทัตโต
นอกจากนี้นายกรัฐมนตรี ยังได้รับฟัง ข้อเสนอจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์วิทยาเขตเฉลิมพระเกียรติ จ.สกลนคร ถึงการดำเนิน อุทยานแห่งชาติ เฉลิมพระเกียรติ สู่การเป็นเวชศาสตร์การเกษตรและชีวนวัตกรรมสร้างสรรค์ หรือ เวลเนตเซ็นเตอร์ ภาคอีสาน โดยจะใช้งบประมาณ 50 ล้านบาท เพื่อทำเป็นลองสเตย์ให้กับผู้สูงอายุ และนักท่องเที่ยวที่เข้ามาในพื้นที่
นายกรัฐมนตรี ระบุว่า อยากให้มีโครงการที่สามารถไปท่องเที่ยวได้หลายๆจังหวัดด้วย แต่อยากทราบถึงตัวเลขนักท่องเที่ยวมีความต้องการว่ามากน้อยแค่ไหน พร้อมแนะนำทำการโปรโมทเพิ่ม เพราะถ้ามีตลาด หรือความต้องการเข้ามาก็จะชัดเจนขึ้น และหากสร้างเสร็จแล้วไม่รู้ว่าต่างชาติรู้หรือเปล่าจึงต้องทำการประชาสัมพันธ์ พร้อมกันนี้นายกฯ ยังได้สอบถามไทม์ไลน์จะเสร็จเมื่อไหร่ตามโครงการดังกล่าว ก่อนจะได้รับรายงานว่าประมาณ 1 ปี จะเสร็จสิ้น ซึ่งโครงการดังกล่าวนี้จะนำเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้ (29 เม.ย.) ด้วย
โดยงบประมาณรวมทั้ง 3 โครงการอยู่ที่ประมาณ 2 พันล้านบาทภายใต้ความร่วมมือมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตเฉลิมพระเกียรติจังหวัดสกลนคร สภาหอการค้าจังหวัดสกลนครและสภาอุตสาหกรรมจังหวัดสกลนคร และร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข
จากนั้นนายกรัฐมนตรี ได้พบปะประชาชน อสม. ผู้นำชุมชนที่มาให้การต้อนรับ โดยประชาชนได้ขอถ่ายรูปกับนายกฯ ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างชื่นมื่น ก่อนจะเยี่ยมชมบูธสินค้า OTOP พื้นที่ อาทิ กลุ่มแปรรูปผลิตภัณฑ์จากผักตบชวา “โคขุนโพนยางคำ” ต้นตำรับโคขุนแห่งแรกของไทย และผลิตภัณฑ์ไวน์หมากเม่า สินค้าเด่นของจังหวัด ก่อนเดินทางต่อไปยังศูนย์หัตถกรรมวัดธาตุประสิทธิ์ ตำบลนาหว้า อำเภอนาหว้า จังหวัดนครพนม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการลงพื้นที่ของนายกรัฐมนตรีที่จังหวัดสกลนคร วันนี้มี สส. มารอต้อนรับประกอบด้วย นายอภิชาติ ตีรสวัสดิชัย สส. เขต 1 เพื่อไทย ,นายจิรัชยา สัพโส เขต3 พรรคเพื่อไทย, นายพัฒนา สัพโส เขต 4 พรรคเพื่อไทย, นางสาวสกุณา สาระนันท์ เขต6 พรรคเพื่อไทย นายเกษม อุประ เขต7 พรรคเพื่อไทย.-316.-สำนักข่าวไทย