fbpx

สทท.มั่นใจท่องเที่ยวปี63 ขยายตัวเพิ่ม

กรุงเทพฯ 14 ม.ค.-สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว คาดการณ์ปีนี้การท่องเที่ยวของไทยมีแนวโน้มขยายตัวได้ต่อเนื่อง ไม่น้อยกว่าร้อยละ 3-5  แม้ต้องเผชิญปัจจัยท้าทายทั้งค่าเงินบาท โรคระบาด และสงครามระหว่างสหรัฐฯและอิหร่าน 


นายชัยรัตน์ ไตรรัตนจรัสพร ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) แถลงสถานการณ์ท่องเที่ยวไทยและดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการท่องเที่ยวไตรมาส 4/2562 ซึ่งเป็นผลการสำรวจในช่วงเดือนตุลาคม-ธันวาคม และคาดการณ์ดัชนีความเชื่อมั่นในไตรมาสที่ 1/2563 ซึ่งเป็นโครงการความร่วมมือระหว่างการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.)    สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย 


โดยพบว่า  ดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวในไตรมาสที่4/ 2562 เท่ากับ 88 ซึ่งต่ำกว่าระดับปกติค่อนข้างมาก เนื่องจากเศรษฐกิจทั่วโลกได้รับผลกระทบจากการค้าระหว่างประเทศที่ชะลอตัว จากนโยบายกีดกันทางการค้าที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นผลพวงของปัญหาสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีนที่ยังคงยืดเยื้อ ส่งผลกระทบต่อการผลิต การส่งออก และการลงทุน นอกจากนี้การที่ประเทศสหรัฐอเมริกามีมาตรการระงับสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร (GSP)กับประเทศไทย ส่งผลให้เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มชะลอตัวเพิ่มขึ้น  ประกอบกับอัตราแลกเปลี่ยนยังแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลต่อการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะชาวต่างชาติแถบภูมิภาคยุโรปและอเมริกา 

ส่วนไตรมาสที่ 1/2563 คาดว่า ดัชนีความเชื่อมั่นเท่ากับ 94 เป็นการคาด การณ์ดีขึ้นจากไตรมาสที่ 4/2563 แต่ยังคงต่ำกว่าระดับปกติ

ส่วนจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยในปี2562 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวน 39.62 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.78 จากปี 2561 สร้างรายได้จำนวน 1.93 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.87 จากปี 2561


ทั้งนี้ ผู้ประกอบการคาดว่า สถานการณ์ท่องเที่ยวในไตรมาส1/2563 จะดีขึ้นจากปัจจุบัน เนื่องจากการขยายเวลามาตรการยกเว้นค่าธรรมเนียมวีซ่า ณ ด่านตรวจคนเข้าเมือง (Visa on Arrival:VoA) ยังเป็นปัจจัยบวกที่ทำให้นักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น  นอกจากนี้ในไตรมาส 1/2563 เป็นช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวและมีวันหยุดเทศกาลที่สำคัญหลายเทศกาล 

ส่วนจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในไตรมาส1/2563 คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติรวม 11.02 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ2.08 จากไตรมาสเดียวกันของปีที่ผ่านมา คาดว่าเมื่อสิ้นปี 2563 ประเทศไทยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งปี ประมาณ 41.2 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปี2562 ร้อยละ3.3 และคาดว่ารายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติทั่งปี ประมาณ 2.05 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี2562 ร้อยละ2.9

ประธาน สทท.กล่าวว่า ในปีนี้ยังเชื่อมั่นว่าการท่องเที่ยวของไทยจะขยาย ตัวได้อีก โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวต่างชาติมาเที่ยวไทยร้อยละ90 ยังคงติดใจ ความสวยงามของประเทศไทยและพร้อมเดินทางกลับมาเที่ยวซ้ำอีก ดังนั้นในเบื้องต้น เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวเหล่านี้ สื่อและคนในสังคมไทย ต้องช่วยกันนำเสนอสิ่งดีๆแง่มุมดีๆของคนไทยและประเทศไทย หลีกเลี่ยงการนำเสนอข่าว หรือข้อมูลปลอม หรือเป็นลบกับภาพลักษณ์ของประเทศ  

ขณะเดียวกัน สทท.ก็ได้เสนอภาครัฐในการช่วยแก้ปัญหาสำคัญที่เป็นอุปสรรคของการท่องเที่ยว เช่น เสนอให้จัดระเบียบธุรกิจโรงแรมและที่พักให้ทันสมัยเข้ากับภาวะปัจจุบัน ,ส่งเสริมการพัฒนาขีดความสามารถของผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวในการแข่งขัน , กระตุ้นและส่งเสริมให้มีการเดินทางท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวชาวไทยในประเทศ ,สร้างความร่วมมือระหว่างภาครัฐและผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว ส่งเสริมการท่องเที่ยวแบบ Responsible Tourism อย่างเป็นรูปธรรม ,สร้างความร่วมมือระหว่างภาครัฐและผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวในการส่งเสริมการตลาดเพื่อเจาะตลาดนักท่องเที่ยวเฉพาะกลุ่ม สร้างความร่วมมือระหว่างภาครัฐและผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวในการนำกลยุทธ์การส่งเสริมด้านราคามาปรับใช้เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและสร้างแรงจูงใจนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศให้เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย และสร้างความเชื่อมั่นในด้านภาพลักษณ์ความปลอดภัยในการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ 

ในส่วนผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว ควรวางแผนการบริการเพื่อรองรับการท่องเที่ยวประเภท FIT ที่มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นทุกปี ,ใช้สื่อสังคมออนไลน์ หรือการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเป็นเครื่องมือในการอำนวยความสะดวกแก่กลุ่มลูกค้า , การปรับปรุงระบบการจ่ายเงินแบบออนไลน์ และ  ที่สำคัญสถานประกอบการควรติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจและสังคมของโลกอย่างสม่ำเสมอเพื่อปรับตัวให้ทันต่อสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ระทึก! สารแอมโมเนียจากโรงน้ำแข็งรั่ว บาดเจ็บนับร้อย

ระทึกกลางดึก สารแอมโมเนียรั่วในโรงน้ำแข็ง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ชาวบ้านสูดดม ได้รับผลกระทบกว่า 100 คน ต้องกระจายส่งตาม รพ. ต่างๆ

จับแล้ว! ชายอินเดียฆ่าปาดคอหญิงวัย 51 ปี

เกิดเหตุฆ่าปาดคอหญิงอายุ 51 ปี ในโรงแรมท้องที่ สน.ตลาดพลู ผู้ต้องสงสัยเป็นชายชาวอินเดียที่อยู่ด้วยกันในโรงแรม กว่า 1 สัปดาห์ ก่อนหายตัวไปหลังเกิดเหตุ ล่าสุดตามจับได้แล้ว สารภาพอ้างแค้นผู้ตายไม่คืนเงิน

วัยรุ่นเชียงใหม่ ตะลุมบอนงานไม้ค้ำ จ.เชียงใหม่

กลุ่มวัยรุ่นตะลุมบอนชกต่อยกันในงานแห่ไม้ค้ำโพธิ์ จ.เชียงใหม่ ขณะที่ผู้จัดงานติดป้ายเตือนทะเลาะวิวาทในงาน จับได้ปรับ 75,000 มอบให้คนถ่ายคลิป 5,000

ล่า “จัก เขาบายศรี” ถ้าต่อสู้อาจจำเป็นต้องวิสามัญ

ตำรวจปิดล้อมตรวจค้นหลายจุดทั่วเมืองชลบุรี ล่าตัว “จัก เขาบายศรี” มือกราดยิงวันไหล ย่านบ่อนไก่ จนมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต หากเจอตัวแล้วยิงต่อสู้ อาจจำเป็นต้องวิสามัญ วอนญาติรีบประสานพามามอบตัว

ข่าวแนะนำ

จับตา ครม.เศรษฐา 2 โผเริ่มนิ่ง คาดไม่เกินสัปดาห์

จับตา “ครม.เศรษฐา 2” โผเพื่อไทยเริ่มนิ่ง คาดไม่เกินสัปดาห์ รอตรวจสอบประวัติว่าที่รัฐมนตรี “สุทิน-หมอชลน่าน-ไชยา-เกรียง” ส่อหลุดเก้าอี้ ด้าน “ธรรมนัส” ยันโควตา พปชร. อีก 1 ตำแหน่ง เป็นของ “ไผ่ ลิกค์”

“ดาว บ้านดอน” ลูกทุ่งดัง ล้มในห้องน้ำ

“ดาว บ้านดอน” วัย 76 ปี เจ้าของผลงานเพลงดัง ประสบอุบัติเหตุล้มในห้องน้ำ ล่าสุดลุกนั่งได้ ลืมตาได้ และรู้สึกตัวดี แต่ยังไม่สามารถพูดได้

“บิ๊กต่าย” เซ็นให้ “บิ๊กโจ๊ก-4 ลูกน้อง” ออกจากราชการไว้ก่อน

รักษาราชการแทน ผบ.ตร. เซ็นคำสั่งให้ “พล.ต.อ.สุรเชษฐ์” พร้อมลูกน้องอีก 4 นาย ออกจากราชการไว้ก่อน หลังถูกดำเนินคดีอาญา

แพทย์ห่วง ด.ต.ปิยนันท์ มีเลือดคั่งในสมอง

ผู้ช่วย ผบ.ตร.ขอบคุณประชาชน เปิดทางเคลื่อนย้าย ด.ต.ปิยนันท์ รักษา รพ.ตำรวจ ขณะที่แพทย์รับห่วง พบยังมีเลือดคั่งในสมอง เตรียมผ่าตัดสมองซ้ำนำเลือดที่คั่งออก