เร่งหาเบาะแสไล่ล่าโจรชิงทองกลางห้างฯ ลพบุรี

ลพบุรี 14 ม.ค. – ผบก.ภ.จว.ลพบุรี เผยคดีโจรบุกจี้ชิงทองในห้างฯ กลางเมืองลพบุรี ยิงผู้บริสุทธิ์ดับ 3 ศพ ชุดสืบสวนลงพื้นที่หาเบาะแส มีความคืบหน้าหลายเรื่อง เป็นไปในทิศทางที่ดี ยังคงตั้งประเด็นไว้ที่ชิงทรัพย์ แต่ยังไม่ตัดประเด็นอื่นทิ้ง ด้าน รอง ผบ.ตร. ย้ำไม่ให้มีข้อมูลสำคัญรั่วไหล


เกาะติดความคืบหน้าการไล่ล่าโจรบุกจี้ชิงทองภายในห้างสรรพสินค้ากลางเมืองลพบุรี ทำให้มีผู้ถูกยิงเสียชีวิต 3 คน พล.ต.ต.ณัฐพล ศุกระศร ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดลพบุรี เปิดเผยว่า ชุดสืบสวนลงพื้นที่หาเบาะแสคนร้าย พบมีความคืบหน้าหลายเรื่อง และเป็นไปในทิศทางที่ดี แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ และยังคงตั้งประเด็นไว้ที่ชิงทรัพย์ แต่ยังไม่ตัดประเด็นอื่นทิ้ง ขณะที่การประชุมชุดสืบสวนทั้งหมด พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะหัวหน้าชุดคลี่คลายคดี กำชับการปฏิบัติงานให้เป็นไปทิศทางเดียวกัน และเน้นย้ำไม่ให้มีข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับคดีรั่วไหลออกไปภายนอก 


พล.ต.ต.ณัฐพล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดลพบุรี ปฏิเสธกระแสข่าวลือว่าคนร้ายเป็นญาตินักการเมืองท้องถิ่น และมีบาดแผลที่ขา เนื่องจากประสบอุบัติเหตุบิ๊กไบค์ จึงต้องแต่งกายมิดชิดก่อเหตุ ยืนยันว่าจนถึงขณะนี้ตำรวจยังอยู่ระหว่างพิสูจน์ตัวบุคคล


ทีมข่าวยังลงพื้นที่ติดตามการทำงานของชุดสืบสวนคลี่คลายคดี พบว่าตำรวจสามารถจำกัดวงแคบของผู้ใช้ปืนรุ่นเดียวกันกับที่ใช้คนร้ายใช้ก่อเหตุก่อเหตุ แต่ต้องรอผลตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อเปรียบเทียบเกลียวปืน เข็มแทงชนวน รวมถึงรายละเอียดอื่น ส่วนกระบอกเก็บเสียงพบว่าคนทั่วไปหาซื้อได้ แม้กระทั่งในเว็บไซต์ เชื่อว่าคนร้ายไม่เคยฝึกการจู่โจมทางยุทธวิธีเหมือนตำรวจและทหาร ไม่ว่าจะเป็นการถือปืน การยิง หรือการเข้าปฏิบัติการ แต่ที่ชัดเจนคือ คนร้ายเป็นบุคคลที่มีฐานะพอที่จะซื้อของแบรนด์เนมใส่ปฏิบัติการได้

ทีมข่าวพบประเด็นที่ตำรวจใช้เป็นแนวทางสืบสวนหาตัวคนร้าย คือ กลุ่มคนที่เล่นเกมแล้วออกมาปฏิบัติการในชีวิตจริง หรือกลุ่มที่ติดเกมอย่างหนักและเล่นจนกระทั่งอิ่มตัวก่อนออกมาก่อเหตุ

ขณะที่ช่วงบ่ายวันนี้ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติจะเดินทางไปติดตามคดีที่ จ.ลพบุรี หลังจากมีการระดมชุดสืบสวนเข้ามาจากหลายกองบัญชาการ เพื่อลงพื้นที่ช่วยหาเบาะแสติดตามคนร้าย แต่ยังไม่สามารถระบุตัวคนร้ายได้

ด้านผู้เชี่ยวชาญด้านอาวุธปืนและยุทธวิธี ให้ข้อมูลกับสำนักข่าวไทย โดยวิเคราะห์ว่าอาวุธที่คนร้ายก่อเหตุชิงทองที่ลพบุรี เป็นปืน CZ SP01 ผลิตที่ในสาธารณรัฐเช็ก ใช้กระสุน 9 มม. และรางที่อยู่ด้านล่างตัวปืนใช้สำหรับติดอุปกรณ์เสริมโกร่งไก และนกที่ใช้สำหรับสับชนวน ปืนรุ่นนี้เป็นปืนที่ตำรวจ ทหาร และชุดปฏิบัติการพิเศษต่างประเทศนิยมใช้ เนื่องจากแม่นยำสูง และในไทยก็นิยมเช่นกัน คนทั่วไปสามารถหาซื้อได้ และเป็นปืนที่อยู่ในโครงการสวัสดิการของรัฐเมื่อ 5-6 ปีก่อน แต่ 3-4 ปีหลังไม่มีนำเข้ามาขายแล้ว เนื่องจากโรงงานไม่ผลิตปืนรุ่นนี้ และได้รับความนิยมมากจนไม่มีขาย

ปืนรุ่นนี้ในอดีตมีนักกีฬายิงปืนส่วนใหญ่ใช้ในการแข่งขัน เพราะเป็นปืนทรงคล้าย Colt 1911 เป็นปืนเหล็กที่น้ำหนักและทรงปืนเข้ากับมือ ทำให้เวลายิงมีความแม่นยำ ราคาในตลาด 60,000-95,000 บาท และเป็นรุ่นที่หาซื้อยากในตลาดมืด โดยปกติปืน CZ SP01 ปลายลำกล้องธรรมดาจะไม่มีเกลียว แต่คนร้ายได้เปลี่ยนลำกล้อง และปรับแต่งให้มีเกลียวไว้ใส่กระบอกเก็บเสียง

ส่วนกระบอกเก็บเสียง (Silencer) หาซื้อได้ แต่ไม่ง่าย แม้ไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นของที่ซื้อนำเข้าจากต่างประเทศ หรือไทยประดิษฐ์ แต่เป็นของที่มีคุณภาพ เพราะยิงได้ไม่ติดขัดหรือกระสุน ดังนั้นคนร้ายต้องเคยเป็นคนที่มีฐานะดี ถึงจะซื้อปืนและนำมาปรับแต่งได้ถึงขนาดนี้

ส่วนพฤติกรรมของคนร้ายไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นอดีตเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่ หรือพลเรือน เพราะคนที่เรียนรู้เรื่องอาวุธขั้นต้นก็สามารถปฏิบัติการได้ แต่ที่ชัดเจนคือ คนร้ายเชี่ยวชาญเรื่องปืนและลุ่มหลงในอาวุธ เหตุผลคือ หากคนร้ายเป็นเจ้าหน้าที่ตกอับ จะไม่ลงมือโหดเหี้ยม หรือหากเป็นมือปืนรับจ้าง จะไม่ยิงเหยื่ออื่นนอกจากเป้าหมาย ส่วนโอกาสที่จะเป็นพลเรือน ต้องเป็นคนที่ชำนาญในการใช้ปืน ไม่มีความตื่นกลัว และผ่านการฝึกยุทธวิธีการยิงในระดับปานกลาง เพราะปกติการยิงปืนจะยืนยิงนิ่งๆ ในแท่นยิง โอกาสที่จะเดินยิงมีน้อย แต่คนร้ายสามารถเดินยิงได้ หากเป็นพลเรือนที่ผ่านการฝึกมา จะเป็นโอกาสดีที่ตำรวจสามารถขมวดกลุ่มผู้ต้องสงสัยได้ 

ส่วนในกลุ่มของคนยิงปืนสามารถดูออก ทั้งท่าทางการยิงปืน การจับปืนลักษณะนี้เป็นของใคร เพราะทุกคนจะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เว้นแต่คนร้ายจะฝึกเอง ไม่ได้ผ่านมาฝึกมาอย่างเป็นระบบดูจากการพกและการจับอาวุธปืนที่แตกต่างจากเจ้าหน้าที่ จึงตั้งข้อสังเกตว่าน่าจะเป็นพลเรือนที่มีความมั่นใจในอาวุธของตนเองมากจากการฝึกฝน และหากดูจากลักษณะการก่อเหตุสภาพจิตใจเป็นเรื่องสำคัญ การยิงคนอย่างเหี้ยมโหดอาจไม่ใช่คนจิตใจปกติ และเคยก่อเหตุมาก่อน . – สำนักข่าวไทย 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง 

จำกัดกลุ่มเป้าหมายชิงทองที่ลพบุรีได้แล้ว

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้ใหญ่บ้านมอบตัว คดียิงชายใหม่ของเมียเก่า ดับคากระบะ

นนทบุรี 20 พ.ค. – ผู้ใหญ่บ้านหึงโหด บุกยิงกิ๊กของอดีตภรรยา 6 นัด เสียชีวิตคารถกระบะ มอบตัวแล้ว เบื้องต้นถูกแจ้งหลายข้อหาหนัก ขณะที่เจ้าตัวฝากขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิต นายอานนท์ อายุ 40 ปี ผู้ใหญ่บ้านแห่งหนึ่งใน อ.องครักษ์ จ.นครนายก หึงโหด บุกยิงนายพลาธิป อายุ 34 ปี อาชีพขับรถส่งหมู ซึ่งเป็นกิ๊กของอดีตภรรยา เสียชีวิตภายในรถกระบะที่จอดอยู่ในซอยลาดปลาดุก ถนนบางไผ่-หนองเพรางาย ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี เหตุเกิดเมื่อเวลา 21.30 น.ที่ผ่านมา (19 พ.ค.) จากภาพจะเห็นว่าเมื่อเวลา 21.02 น. เห็นผู้ตายขับรถกระบะมาจอดริมทาง ก่อนมีรถกระบะสีดำอีกคันตามมาจอดปิดท้าย จากนั้นผู้ก่อเหตุอยู่ในชุดสวมเสื้อยืดสีดำ กางเกงขาสั้น เดินลงจากรถ ใช้อาวุธปืนยิงใส่ผู้ตายที่ยังนั่งอยู่ในรถ แล้วหลบหนีไป ช่วงสายที่ผ่านมา (20 พ.ค.) พนักงานสอบสวน สภ.บางบัวทอง เบิกตัวนายอานนท์ ผู้ก่อเหตุ มาสอบปากคำเพิ่มเติมอีกครั้ง หลังเมื่อราวตี […]

ขุดลึกลงไป 5 เมตร ยังไม่พบผู้สูญหาย

กทม. 19 พ.ค.-ทีมค้นหาฝังแผ่นเหล็กชีทไพล์ รอบหลุมเสาเข็ม เพื่อขุดค้นหาผู้ประสบเหตุ ซึ่งขุดลึกลงไป 5 เมตร ยังไม่พบผู้สูญหาย เวลา 17.00 น. เจ้าหน้าที่ทีมค้นหา ทั้ง กรมป้องกัน และบรรเทาสาธารณะภัย (ปภ.) Usar Thailand เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู และบริษัทรับเหมาเจาะเสาเข็ม ได้ใช้แบคโฮ เริ่มฝังแผ่นเหล็กชีทไพล์ ความยาวประมาณ 16 เมตร รอบหลุมเสาเข็ม 4 ด้าน เพื่อป้องกันดินสไลด์ปิดทับปากหลุมที่รถแบ็คโฮจะทำการขุด เพื่อค้นหาผู้ประสบเหตุ โดยการฝั่งแผ่นชีทไพล์ รอบหลุมเสาเข็ม เนื่องจากการประเมินของเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญทางด้านวิศวกรรม พบว่าดินที่สไลด์ลงมาส่งผลกระทบรุนแรงต่อโครงสร้างอาคาร และเสาไฟฟ้า ในบริเวณที่เกิดเหตุ ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันปัญหาอาคารทรุดตัว เอน และ พังถล่ม จึงจำเป็นต้องนำแผ่นชีทไพล์มากั้น ก่อนทำการขุดดิน และเริ่มค้นหาผู้ประสบเหตุ และหลังจากฝังชีทไพล์ เสร็จสิ้นในเวลา 18.30 น. โดยก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ได้นำเครื่องโซน่า ลงไปในหลุม เพื่อค้นหาร่างผู้ประสบเหตุ ซึ่งจากการใช้ โซน่าสแกน ร่างของผู้ประสบเหตุ ฝังอยู่ในหลุมลึก […]

พบศพ “ดีเจเตเต้” ถูกอุ้มมัดมือไพล่หลังทิ้งกลางไร่อ้อย

กาญจนบุรี 18 พ.ค. – พบแล้วศพ “ดีเจเตเต้” ถูกอุ้มมัดมือไพล่หลัง นำศพทิ้งกลางไร่อ้อย เมืองกาญจน์ หลังครอบครัวแจ้งช่วยตามหาตัวตั้งแต่คืนวันที่ 14 พ.ค. ตั้งปมสังหารเรื่องชู้สาว ความคืบหน้ากรณี “ดีเจเตเต้” ถูกขับรถตามประกบ ก่อนอุ้มขึ้นรถหายตัวไป เหตุเกิดเมื่อเวลา 03.53 น. ของวันที่ 14 พ.ค. ภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่งริมถนนแสงชูโต ต.ท่ามะขาม อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ซึ่งหลังเกิดเหตุพ่อของดีเจเตเต้ ได้ออกมาอัดคลิปลงเฟซ บุ๊กเพื่อขอความช่วยเหลือในการตามหาตัวลูกชายที่หายตัวไป ก่อนที่ล่าสุดจะพบว่า กลายเป็นศพอยู่กลางไร่อ้อยเชิงเขาบ้านทุ่งนานางหรอก โดยวันนี้เวลาประมาณ 10.30 น. นายธนพล เสือส่าน กำนันบ้านทุ่งนานางหรอก ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบศพอยู่บริเวณไร่อ้อย หมู่ 3 บ้านทุ่งนานางหรอก ต.ลาดหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี คนที่ไปเจอ เป็นน้าชายของนายกอล์ฟคนในหมู่บ้าน ที่ออกไปหาของป่าแล้วไปเจอศพ ในสภาพนอนตะแคง ถูกมือถูกมัดไขว้หลัง แล้วมาบอกหลานชายคือนายกอล์ฟไปดูด้วยกัน แล้วนายกอล์ฟจึงแจ้งให้กำนันทราบ ทางกำนันก็แจ้งเรื่องต่อไปยังตำรวจ สภ.ลาดหญ้า ซึ่งเบื้องต้นศพสวมเสื้อผ้าตรงกับที่เป็นข่าว […]

หาความจริง “แก๊งแม่ชีพันล้าน” ยันไม่ใช่เรื่องจริง

สมุทรสาคร 18 พ.ค. – วงการสงฆ์ยังไม่แผ่ว กระแสแก๊งแม่ชีพันล้านโผล่อีก สำนักพุทธลงตรวจสอบแล้ว แม่ชีที่ถูกกล่าวหา ตอบได้ทุกคำถาม ยืนยันไม่ใช่เรื่องจริง จากกระแสเมื่อวานนี้ (17 พ.ค.) มีเพจหนึ่งนำภาพกลุ่มแม่ชีหลายภาพพร้อมกองธนบัตร และภาพแม่ชีที่แอดมินระบุอ้างว่าเป็นการใส่วิกผม มาโพสต์ลงโซเชียล พร้อข้อความเขียนแจงอย่างละเอียดว่า กรณีมีเพจดังโพสต์ภาพแม่ชีพร้อมข้อความระบุข้อความเด็ดว่า ทำนองว่า “แก๊งแม่ชีพันล้านคุมวัดเบ็ดเสร็จไร้เงาพระ! 1. แม่ชี 2 พี่น้องบริหารวัดลำพังไม่มีไวยาวัจกร ไม่มีกรรมการ ไม่มีมัคทายก ครอบครองที่ดินนับพันไร่แต่ชื่อเจ้าของไม่ใช่วัด บางแปลงเป็นชื่อแม่ชี อาจเข้าข่าย “ถือครองแทน” หรือใช้วัดบังหน้า? ยอดกฐินปีละเกือบ 100 ล้าน! รายชื่อผู้บริจาคซ้ำๆ เดิมๆ ส่วนใหญ่เป็นแม่ชี-คนในวัด ไม่มีอาชีพ ไม่มีธุรกิจ แต่ “บริจาคเป็นล้านทุกปี” ระบบโบนัสแม่ชีสาวช่วยหาทุนได้มาก พาเที่ยวรีสอร์ตหรูปีละครั้ง ใส่วิกเต็มยศ นั้น วันนี้ผู้สื่อข่าวพร้อม นส.สวาท แซ่ตัน ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนา จ.สมุทรสาคร นายอิทธิธร สีเหลือง นักวิชาการศาสนาปฏิบัติการ เดินทางไปที่วัดที่แม่ชีในภาพบวชอยู่ ต.บางโทรัด […]

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนตะวันออก-ใต้ฝั่งตะวันตก ฝนตกหนักบางแห่ง

กรุงเทพฯ 22 พ.ค. – กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักบางแห่งในภาคตะวันออก ภาคใต้ฝั่งตะวันตก รวมทั้ง กทม.-ปริมณฑล ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนัก กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนอง และมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักไว้ด้วย ทั้งนี้ เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังอ่อน โดยทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ส่วนอ่าวไทยมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง ในช่วงวันที่ 23-27 พ.ค. 68 ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับร่องมรสุมพาดผ่านประเทศไทยตอนบนและภาคใต้ตอนบน ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางผ่านบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง และเส้นทางที่มีปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำ ซึ่งอาจเกิดน้ำท่วมขังในระยะสั้นได้ สำหรับเกษตรกรควรเสริมความแข็งแรงให้ไม้ผล และเตรียมการป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับผลผลิตทางการเกษตรและสัตว์เลี้ยง กรุงเทพฯ […]

ระทึกไล่ยิงเหมือนในหนัง รัว 17 นัด กลางถนน

ชลบุรี 21 พ.ค. – จยย.ไล่รัวกระสุนสกัดเก๋งอย่างกับหนังบู๊ ทำชาวบ้านแตกตื่น แท้จริง เป็นตำรวจเมืองชลบุรี ล่อซื้อยาบ้า พ่อค้าไหวตัว ก่อนจนมุม ภาพจากกล้องวงจรปิดเผยนาทีกลุ่มชายฉกรรจ์บุกไปที่รถยนต์สีขาว พยายามเคาะกระจกรถให้คนขับลงมา แต่เมื่อไม่เป็นผล จึงชักปืนขึ้นมารัวยิงหลายครั้ง กระทั่งรถยนต์ถอยรถขับออกจากที่เกิดเหตุ โดยมีรถจักรยานยนต์ไล่ตามไปติดๆ พร้อมกับยิงปืนใส่ รวมทั้งหมด 17 นัด เมื่อช่วง 03.30 น. ที่ผ่านมา ภายในซอยเส้นทางหนองซ้ำซาก-สำนักบก ตำบลหนองซ้ำซาก อำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี ตำรวจลงพื้นที่เกิดเหตุ พบกันชนหน้ารถยนต์คันสีขาวตกอยู่พร้อมป้ายทะเบียน โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง และปลอกกระสุนไม่ทราบขนาด 17 ปลอก พร้อมหัวกระสุนอีก 1 หัว สอบถาม นายปรานอม ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ตอนแรกตนเห็นรถยนต์สีดำ ขับมาปาดหน้ารถยนต์สีขาว จากนั้นก็มีรถจักรยานยนต์ใส่ชุดคล้ายไรเดอร์ ขี่ตามหลังรถคันสีขาว ครั้งแรกเห็นยิงใส่รถยนต์สีขาว 5 นัด แต่เป็นการยิงผ่านกระบอกเก็บเสียง จากนั้นรถคันที่ถูกยิงพยายามหลบหนี แต่รถคันสีดำขับมาบล็อกข้างหน้าไม่ให้หนี แล้วก็มีเสียงปืนดังขึ้นอีกหลายนัด […]

ปิดเกาะล่า ฆ่าเปลือย-รัดคอพยาบาลหมกศพในหอพัก

สุราษฏร์ธานี 21 พ.ค. – พบศพพยาบาลสาว ถูกคนร้ายฆ่ารัดคอทิ้งศพเปลือยบนเตียงนอน แถมขโมยรถยนต์ผู้ตายไปด้วย ตำรวจปิดเกาะสมุยไล่ล่า ที่เกิดเหตุเป็นหอพักสองชั้น ของโรงบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ หมู่ 1 ต.บ่อผุด อ.เกาะสมุยจ.สุราษฎร์ธานี โดยในห้องพักชั้นสอง พบศพ นางสาวอัญชุลี อายุ 36 ปี ชาวกรุงเทพ เสียชีวิตสภาพนอนหงายบนที่นอน ไม่สวมเสื้อผ้า ใส่แต่กางเกงในสีดำ ที่ลำคอมีเสื้อยืดสีขาวรัดไว้แน่น สิ่งของบนพื้นข้างเตียงกระจัดกระจาย ยังพบกล่องถุงยางอนามัยหนึ่งกล่อง ไม่พบร่องรอยบาดแผล มีเพียงรอยเขียวคล้ำที่ลำคอ จากการสอบสวนทราบว่าผู้ตายทำงานเป็นซูเปอร์ไวเซอร์พยาบาลวิชาชีพ โรงบาลเอกชนแห่งหนึ่งในตำบลบ่อผุด คืนเกิดเหตุ ช่วงเวลาประมาณเที่ยงคืนเห็นผู้ตายที่เพิ่งเลิกงานกลับมาที่ห้องพัก ซึ่งอยู่ไม่ไกลกับที่ทำงาน จากนั้นเปลี่ยนเสื้อผ้าและขับรถยนต์นิสสันสีเทา ทะเบียน กทม. ออกไป และขับกลับเข้ามาเวลาประมาณตี 2 เศษ จากนั้นได้ยินเสียงคนทะเลาะกันแล้วเงียบหายไป จนตอนเช้า เพื่อนไปหา พบว่าห้องถูกปิดและติดต่อผู้ตายไม่ได้ กระทั่งมารู้ว่าเสียชีวิตภายหลัง เบื้องต้นบริเวณที่เกิดเหตุไม่มีกล้องวงจรปิด และพบว่ารถยนต์ของผู้ตายหายไป คาดว่าคนร้ายน่าจะใช้เป็นยานพาหนะในการหลบหนี ตำรวจระดมกำลังมกำลังปิดเส้นทางการหลบหนี บริเวณท่าเรือทั้งสองท่า พร้อมนำพยานกลุ่มเพื่อน ผู้ตายไปสอบปากคำ โดยให้การว่า […]

ผู้เชี่ยวชาญคาดบ่ายพรุ่งนี้ นำร่างคนงานขึ้นจากหลุมสำเร็จ

กทม. 21 พ.ค. – ผู้ว่าฯ กทม. เผยผู้เชี่ยวชาญ คาดพรุ่งนี้ช่วงบ่าย นำร่างคนงานผู้สูญหายขึ้นจากหลุมลึก 19 เมตรได้ ย้ำการทำงานทุกขั้นตอนคำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่เป็นหลัก ภารกิจค้นหาคนงานผู้สูญหายที่ตกหลุมลึก 19 เมตรในโครงการขุดเจาะก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย บริเวณถนนหลานหลวง ใกล้ปากซอยหลานหลวง 8 หลังเหตุการณ์ผ่านพ้นมา 48 ชั่วโมงแล้ว วันนี้ทางเจ้าหน้าที่ยังคงใช้เครนขุดเจาะเพื่อขุดหลุมค้นหาร่างผู้ประสบภัยอย่างต่อเนื่อง นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เดินทางมาร่วมประชุมกับทีมเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมและทีมกู้ภัย ระบุว่า อุปสรรคในการปฏิบัติงานในขณะนี้คือความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ เนื่องจากอุปกรณ์ชีทไพล์หรือแผ่นเหล็กกั้นดินสไลด์ ที่ติดตั้งลึกถึงสามชั้น ประมาณรวม 16 เมตร ซึ่งด้านล่างมีแรงดันของดินและน้ำมหาศาล ทำให้ระหว่างการขุดดินจะต้องทำโครงสร้างค้ำยัน ชีทไพล์เป็นระยะๆ ในแต่ละชั้น ซึ่งตอนนี้สามารถทำโครงสร้างค้ำยันในชั้นที่สามแล้วถือเป็นชั้นลึกสุด นายชัชชาติ เผยว่าเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญ คาดการณ์ว่าหากไม่มีอุปสรรคอย่างอื่นเพิ่มเติม ภายในวันพรุ่งนี้ (22 พ.ค.) ช่วงบ่ายจะสามารถนำร่างผู้สูญหายขึ้นมาได้ ประเมินว่าร่างของผู้สูญหายน่าจะอยู่ในระดับความลึกจากพื้นผิวถนนประมาณ 12 เมตร ไม่ใช่ 16 เมตร อย่างที่เคยคาดการณ์ก่อนหน้านี้ ส่วนประเด็นญาติของผู้สูญหายซึ่งเป็นพี่ชายและน้องชาย ทำงานด้วยกันขณะเกิดเหตุด้วย […]