เร่งหาเบาะแสไล่ล่าโจรชิงทองกลางห้างฯ ลพบุรี

ลพบุรี 14 ม.ค. – ผบก.ภ.จว.ลพบุรี เผยคดีโจรบุกจี้ชิงทองในห้างฯ กลางเมืองลพบุรี ยิงผู้บริสุทธิ์ดับ 3 ศพ ชุดสืบสวนลงพื้นที่หาเบาะแส มีความคืบหน้าหลายเรื่อง เป็นไปในทิศทางที่ดี ยังคงตั้งประเด็นไว้ที่ชิงทรัพย์ แต่ยังไม่ตัดประเด็นอื่นทิ้ง ด้าน รอง ผบ.ตร. ย้ำไม่ให้มีข้อมูลสำคัญรั่วไหล


เกาะติดความคืบหน้าการไล่ล่าโจรบุกจี้ชิงทองภายในห้างสรรพสินค้ากลางเมืองลพบุรี ทำให้มีผู้ถูกยิงเสียชีวิต 3 คน พล.ต.ต.ณัฐพล ศุกระศร ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดลพบุรี เปิดเผยว่า ชุดสืบสวนลงพื้นที่หาเบาะแสคนร้าย พบมีความคืบหน้าหลายเรื่อง และเป็นไปในทิศทางที่ดี แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ และยังคงตั้งประเด็นไว้ที่ชิงทรัพย์ แต่ยังไม่ตัดประเด็นอื่นทิ้ง ขณะที่การประชุมชุดสืบสวนทั้งหมด พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะหัวหน้าชุดคลี่คลายคดี กำชับการปฏิบัติงานให้เป็นไปทิศทางเดียวกัน และเน้นย้ำไม่ให้มีข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับคดีรั่วไหลออกไปภายนอก 


พล.ต.ต.ณัฐพล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดลพบุรี ปฏิเสธกระแสข่าวลือว่าคนร้ายเป็นญาตินักการเมืองท้องถิ่น และมีบาดแผลที่ขา เนื่องจากประสบอุบัติเหตุบิ๊กไบค์ จึงต้องแต่งกายมิดชิดก่อเหตุ ยืนยันว่าจนถึงขณะนี้ตำรวจยังอยู่ระหว่างพิสูจน์ตัวบุคคล


ทีมข่าวยังลงพื้นที่ติดตามการทำงานของชุดสืบสวนคลี่คลายคดี พบว่าตำรวจสามารถจำกัดวงแคบของผู้ใช้ปืนรุ่นเดียวกันกับที่ใช้คนร้ายใช้ก่อเหตุก่อเหตุ แต่ต้องรอผลตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อเปรียบเทียบเกลียวปืน เข็มแทงชนวน รวมถึงรายละเอียดอื่น ส่วนกระบอกเก็บเสียงพบว่าคนทั่วไปหาซื้อได้ แม้กระทั่งในเว็บไซต์ เชื่อว่าคนร้ายไม่เคยฝึกการจู่โจมทางยุทธวิธีเหมือนตำรวจและทหาร ไม่ว่าจะเป็นการถือปืน การยิง หรือการเข้าปฏิบัติการ แต่ที่ชัดเจนคือ คนร้ายเป็นบุคคลที่มีฐานะพอที่จะซื้อของแบรนด์เนมใส่ปฏิบัติการได้

ทีมข่าวพบประเด็นที่ตำรวจใช้เป็นแนวทางสืบสวนหาตัวคนร้าย คือ กลุ่มคนที่เล่นเกมแล้วออกมาปฏิบัติการในชีวิตจริง หรือกลุ่มที่ติดเกมอย่างหนักและเล่นจนกระทั่งอิ่มตัวก่อนออกมาก่อเหตุ

ขณะที่ช่วงบ่ายวันนี้ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติจะเดินทางไปติดตามคดีที่ จ.ลพบุรี หลังจากมีการระดมชุดสืบสวนเข้ามาจากหลายกองบัญชาการ เพื่อลงพื้นที่ช่วยหาเบาะแสติดตามคนร้าย แต่ยังไม่สามารถระบุตัวคนร้ายได้

ด้านผู้เชี่ยวชาญด้านอาวุธปืนและยุทธวิธี ให้ข้อมูลกับสำนักข่าวไทย โดยวิเคราะห์ว่าอาวุธที่คนร้ายก่อเหตุชิงทองที่ลพบุรี เป็นปืน CZ SP01 ผลิตที่ในสาธารณรัฐเช็ก ใช้กระสุน 9 มม. และรางที่อยู่ด้านล่างตัวปืนใช้สำหรับติดอุปกรณ์เสริมโกร่งไก และนกที่ใช้สำหรับสับชนวน ปืนรุ่นนี้เป็นปืนที่ตำรวจ ทหาร และชุดปฏิบัติการพิเศษต่างประเทศนิยมใช้ เนื่องจากแม่นยำสูง และในไทยก็นิยมเช่นกัน คนทั่วไปสามารถหาซื้อได้ และเป็นปืนที่อยู่ในโครงการสวัสดิการของรัฐเมื่อ 5-6 ปีก่อน แต่ 3-4 ปีหลังไม่มีนำเข้ามาขายแล้ว เนื่องจากโรงงานไม่ผลิตปืนรุ่นนี้ และได้รับความนิยมมากจนไม่มีขาย

ปืนรุ่นนี้ในอดีตมีนักกีฬายิงปืนส่วนใหญ่ใช้ในการแข่งขัน เพราะเป็นปืนทรงคล้าย Colt 1911 เป็นปืนเหล็กที่น้ำหนักและทรงปืนเข้ากับมือ ทำให้เวลายิงมีความแม่นยำ ราคาในตลาด 60,000-95,000 บาท และเป็นรุ่นที่หาซื้อยากในตลาดมืด โดยปกติปืน CZ SP01 ปลายลำกล้องธรรมดาจะไม่มีเกลียว แต่คนร้ายได้เปลี่ยนลำกล้อง และปรับแต่งให้มีเกลียวไว้ใส่กระบอกเก็บเสียง

ส่วนกระบอกเก็บเสียง (Silencer) หาซื้อได้ แต่ไม่ง่าย แม้ไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นของที่ซื้อนำเข้าจากต่างประเทศ หรือไทยประดิษฐ์ แต่เป็นของที่มีคุณภาพ เพราะยิงได้ไม่ติดขัดหรือกระสุน ดังนั้นคนร้ายต้องเคยเป็นคนที่มีฐานะดี ถึงจะซื้อปืนและนำมาปรับแต่งได้ถึงขนาดนี้

ส่วนพฤติกรรมของคนร้ายไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นอดีตเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่ หรือพลเรือน เพราะคนที่เรียนรู้เรื่องอาวุธขั้นต้นก็สามารถปฏิบัติการได้ แต่ที่ชัดเจนคือ คนร้ายเชี่ยวชาญเรื่องปืนและลุ่มหลงในอาวุธ เหตุผลคือ หากคนร้ายเป็นเจ้าหน้าที่ตกอับ จะไม่ลงมือโหดเหี้ยม หรือหากเป็นมือปืนรับจ้าง จะไม่ยิงเหยื่ออื่นนอกจากเป้าหมาย ส่วนโอกาสที่จะเป็นพลเรือน ต้องเป็นคนที่ชำนาญในการใช้ปืน ไม่มีความตื่นกลัว และผ่านการฝึกยุทธวิธีการยิงในระดับปานกลาง เพราะปกติการยิงปืนจะยืนยิงนิ่งๆ ในแท่นยิง โอกาสที่จะเดินยิงมีน้อย แต่คนร้ายสามารถเดินยิงได้ หากเป็นพลเรือนที่ผ่านการฝึกมา จะเป็นโอกาสดีที่ตำรวจสามารถขมวดกลุ่มผู้ต้องสงสัยได้ 

ส่วนในกลุ่มของคนยิงปืนสามารถดูออก ทั้งท่าทางการยิงปืน การจับปืนลักษณะนี้เป็นของใคร เพราะทุกคนจะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เว้นแต่คนร้ายจะฝึกเอง ไม่ได้ผ่านมาฝึกมาอย่างเป็นระบบดูจากการพกและการจับอาวุธปืนที่แตกต่างจากเจ้าหน้าที่ จึงตั้งข้อสังเกตว่าน่าจะเป็นพลเรือนที่มีความมั่นใจในอาวุธของตนเองมากจากการฝึกฝน และหากดูจากลักษณะการก่อเหตุสภาพจิตใจเป็นเรื่องสำคัญ การยิงคนอย่างเหี้ยมโหดอาจไม่ใช่คนจิตใจปกติ และเคยก่อเหตุมาก่อน . – สำนักข่าวไทย 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง 

จำกัดกลุ่มเป้าหมายชิงทองที่ลพบุรีได้แล้ว

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่ม 31 ซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับคาที่ หลังมีปากเสียงเรื่องขับเฉี่ยวชน

หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย ลูกเจ้าของร้านขายผ้าซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับ ริมถนนสุขุมวิท หลังมีปากเสียงเรื่องขับรถเฉี่ยวไม่ลงมาเจรจา

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ขับรถชนไรเดอร์ดับ

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ที่หัวร้อนขับรถชนไรเดอร์ดับคาที่กลางสุขุมวิท เมื่อวานนี้ พร้อมไหว้ขอสื่อ อย่ามายุ่งกับครอบครัว

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ศาลให้ประกันหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนไรเดอร์ดับ

ครอบครัวไรเดอร์ที่ถูกหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนเสียชีวิต กอดกันร้องไห้รับร่างและรดน้ำศพ ด้านศาลให้ประกันตัวผู้ต้องหา วงเงิน 600,000 บาท ติดกำไล EM-ห้ามออกนอกประเทศ

ข่าวแนะนำ

สมรสเท่าเทียม

นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้

“แพทองธาร” นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมแสดงความยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้ ขอบคุณทุกภาคส่วนผ่านการต่อสู้กับอคติกว่า 2 ทศวรรษ ทำให้ ทุกตารางนิ้วของประเทศไทยโอบรับความหลากหลาย และเท่าเทียม

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 20 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ฝุ่น กทม.

คนกรุงจมฝุ่นต่อเนื่อง เช้านี้อยู่ระดับสีแดง 21 พื้นที่

กทม. อ่วมหนัก ฝุ่น PM 2.5 พุ่งต่อเนื่อง อยู่ระดับสีแดง ผลกระทบต่อสุขภาพ 21 พื้นที่ ย้ำสวมหน้ากากอนามัยขณะอยู่นอกอาคาร และงดกิจกรรมกลางแจ้ง