กรุงเทพฯ 14 ม.ค.- อัยการสูงสุดจับมือ ปปช.ทำเอ็มโอยู เชื่อมโยงข้อมูลคดีทุจริตทางอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อความรวดเร็ว มีประสิทธิภาพและตรวจสอบได้
นายสาวิตร บุญประสิทธิ์ รองอัยการสูงสุด และนายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติหรือ ปปช. ร่วมกันลงนามในบันทึกความร่วมมือหรือเอ็มโอยู การเชื่อมโยงข้อมูลคดีทุจริตโดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งจัดขึ้นที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนแจ้งวัฒนะ
โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อสนองนโยบายรัฐบาล การนำโมเดลไทยแลนด์ 4.0 มาใช้เชื่อมโยงยุทธศาสตร์ชาติในการพัฒนาประเทศ ภายใต้บทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยพุทธศักราช 2560 โดยเฉพาะยุทธศาสตร์ด้านการปรับสมดุลย์และพัฒนาระบบการบริหารจัดการภาครัฐเพื่อให้ระบบการบริหารราชการมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล รวมถึงสามารถกำหนดแนวทางการปฏิรูปประเทศ ด้านกระบวนการยุติธรรมให้เป็นไปอย่างรวดเร็ว โปร่งใสและสามารถตรวจสอบได้
อย่างไรก็ตามการลงบันทึกความร่วมมือครั้งนี้ จะช่วยให้สำนักงานอัยการสูงสุดลดเวลาการบันทึกสำนวนคดีทุจริตที่ ปปช.รับเรื่องไว้ ด้วยการสามารถดึงข้อมูลทางคดีทั้งหมดจากข้อมูลของ ปปช. อีกทั้งยังเป็นการประหยัดเวลาและประหยัดค่าใช้จ่ายการส่งสำนวนแบบวิธีเดิมที่ต้องใช้เจ้าหน้าที่นำส่ง ปรับเปลี่ยนเป็นการส่งสำนวนผ่านระบบ อีเล็คทรอนิกส์
ทั้งนี้ทั้ง 2 หน่วยงานได้ลงบันทึกความร่วมมือหรือเอ็มโอยู กับหน่วยงานราชการอื่นๆมาแล้วไม่ต่ำกว่า 4 หน่วยงาน อาทิ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมประมง กรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอ รวมถึงสถาบันการเงิน 18 แห่ง ส่งผลให้ข้อมูลที่ได้รับและตรงกันระหว่างแต่ละหน่วยงานเป็นข้อมูลเดียวกันและเป็นข้อมูลที่เที่ยงตรงส่งผลดีต่อคดีนั้นนั้น.-สำนักข่าวไทย