“พล.อ.ประวิตร” เป็นประธาน MOU สร้างสวนป่าเบญจกิติ

กรุงเทพฯ 26 ต.ค.- “พลเอกประวิตร” เป็นประธานในพิธีร่วมลงนาม MOU สร้างสวนป่า “เบญจกิติ” ระยะที่ 2-3 ระหว่างกรมธนารักษ์กับกองทัพบก


วันนี้ (26 ตุลาคม 2563) พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีร่วม ลงนาม MOU สร้างสวนป่า “เบญจกิติ” ระยะที่ 2-3 ระหว่างกรมธนารักษ์กับกองทัพบก พร้อมด้วย นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เข้าร่วมในพิธี

ด้านนายยุทธนา หยิมการุณ อธิบดีกรมธนารักษ์ กล่าวว่า ในปี 2534 คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบในหลักการให้ย้ายโรงงานยาสูบทั้งหมดไปอยู่ส่วนภูมิภาค และให้พัฒนาพื้นที่เดิมของโรงงานยาสูบ เนื้อที่ประมาณ 430 ไร่ เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ โดยให้กระทรวงการคลังเป็นหน่วยงานรับผิดชอบโครงการ ต่อมาในปี 2535 รัฐบาลมีโครงการจัดสร้างสวนสาธารณะบริเวณพื้นที่โรงงานยาสูบดังกล่าว เพื่อร่วมโครงการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 5 รอบ และในปี 2537 สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงพระราชทานชื่อสวนสาธารณะดังกล่าวว่า “เบญจกิติ” มีการออกแบบสวนสาธารณะ เป็น 2 ส่วน คือ สวนน้ำ (เนื้อที่ 130 ไร่) และสวนป่า (เนื้อที่ 300 ไร่). กระทรวงการคลัง โดยกรมธนารักษ์จึงได้ดำเนินการจัดสร้างสวนสาธารณะตามการส่งมอบพื้นที่ของโรงงานยาสูบแห่งประเทศไทย โดยในปี 2547 สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงเสด็จเปิดสวนน้ำ เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2547


สำหรับสวนป่า “เบญจกิติ” แบ่งเป็น 3 ระยะ โรงงานยาสูบแห่งประเทศไทยเป็นผู้สนับสนุนค่าใช้จ่ายในการก่อสร้าง ภายในกรอบวงเงิน 950 ล้านบาท กระทรวงการคลัง โดยกรมธนารักษ์ได้ดำเนินการก่อสร้างสวนป่า “เบญจกิติ” ระยะที่ 1 เนื้อที่ 61 ไร่ แล้วเสร็จเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2559 และเมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2559 รัฐบาลได้จัดกิจกรรมงานเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 12 สิงหาคม 2559 ณ พื้นที่สวนป่า “เบญจกิติ” ระยะที่ 1 โดยมีนายกรัฐมนตรี (พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา) เป็นประธาน และได้ส่งมอบพื้นที่สวนป่า “เบญจกิติ” ระยะที่ 1 เนื้อที่ 61 ไร่ ให้กรุงเทพมหานครเป็นผู้ดูแลบำรุงรักษาแล้ว

นายยุทธนา กล่าวเพิ่มต่อว่า ในปี 2562 คณะรัฐมนตรีได้มีมติรับทราบความคืบหน้าโครงการจัดสร้างสวนป่า “เบญจกิติ” ระยะที่ 2-3 ตามกรอบการดำเนินงาน 4 กระบวนงาน ประกอบด้วย งานรื้อถอน งานออกแบบ งานจ้างที่ปรึกษาบริหารโครงการ (PMC) และงานก่อสร้าง โดยมีแผนการก่อสร้างโครงการจัดสร้างสวนป่า “เบญจกิติ” ระยะที่ 2-3 แล้วเสร็จสมบูรณ์ในเดือนกุมภาพันธ์ 2565 และแบ่งการก่อสร้างออกเป็น 2 พื้นที่ คือ พื้นที่ก่อสร้างที่ 1 ช่วง 8 เดือนแรก จะก่อสร้างให้แล้วเสร็จภายในเดือนมิถุนายน 2564 เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในวันที่ 12 สิงหาคม 2564 และพื้นที่ก่อสร้างที่ 2 ดำเนินการในส่วนงานสวนที่เหลือ งานปรับปรุงอาคารเดิม ให้เป็นอาคารกีฬาและอาคารพิพิธภัณฑ์ให้แล้วเสร็จในเดือนกุมภาพันธ์ 2565 บริษัท สถาปนิกชุมชนและสิ่งแวดล้อม อาศรมศิลป์ จำกัด ผู้ออกแบบโครงการสวนป่า “เบญจกิติ” ระยะที่ 2-3 เนื้อที่ประมาณ 259 ไร่ ภายใต้แนวคิดในการสืบสานพระราชปณิธานในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในการปลูกป่าในใจคน ด้วยการเป็นสวนป่าสำหรับคนเมือง (Urban Forest) ที่เชื่อมโยงและเอื้อต่อการ เข้ามาทำกิจกรรมและใช้ประโยชน์ในวิถีชีวิตของคนเมือง เป็นแห่งเรียนรู้มีชีวิต ที่สร้างความผูกพันและสำนึกรักในคุณค่าของป่า น้ำ ทรัพยากรธรรมชาติ เพื่อนำไปสู่การมีส่วนร่วมและสำนึกหวงแหนดูแลทรัพยากรธรรมชาติและสภาพแวดล้อมอย่างยั่งยืน

ทั้งนี้ ในการออกแบบเน้นให้มีพื้นที่สวนป่ามากที่สุด มีการปลูกต้นไม้ใหญ่ ต้นไม้พุ่ม ไม้คลุมดิน ไม้น้ำ หลากหลายชนิดพันธุ์ มีงานสร้างอัฒจันทน์ ทางเดินลอยฟ้า ทางวิ่ง ทางจักรยาน และทางเดินโดยรอบโครงการ โดยให้มีสิ่งปลูกสร้างที่เหมาะสมและกลมกลืนกับความเป็นสวนสาธารณะในเมือง นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงอาคารเดิม (อาคารโกดังเดิม อาคารพิพิธภัณฑ์ และอาคาร Pavilion) ให้สามารถ ใช้งานได้อย่างสมบูรณ์แบบและตรงตามวัตถุประสงค์ในการจัดสร้างโครงการฯ ทั้งนี้ เพื่อให้การก่อสร้างสวนป่าในพื้นที่ก่อสร้างระยะที่ 1 แล้วเสร็จตามแผนที่กำหนด และสามารถจัดงานเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในวันที่ 12 สิงหาคม 2564 ได้ทันตามกรอบระยะเวลาที่กำหนด กรมธนารักษ์ โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการอำนวยการจัดสร้างสวนป่า “เบญจกิติ” ซึ่งมีราชเลขานุการในพระองค์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นที่ปรึกษา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังที่กำกับดูแลกรมธนารักษ์ เป็นประธานกรรมการ จึงได้ขอความร่วมมือจากกองทัพบก เป็นผู้ดำเนินการก่อสร้างสวนป่า “เบญจกิติ” ระยะที่ 2-3 เนื้อที่ประมาณ 259 ไร่ และในวันนี้ได้กำหนดให้มีการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการดำเนินการก่อสร้างสวนป่า “เบญจกิติ” ระยะที่ 2-3 ระหว่างกรมธนารักษ์กับกองทัพบก อธิบดีกรมธนารักษ์กล่าวในที่สุด.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

ล้มล้างการปกครอง

ศาล รธน.มีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้อง “ทักษิณ-พท.” ล้มล้างการปกครอง

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้องของนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ขอให้ศาลวินิจฉัยว่า “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ล้มล้างการปกครอง

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ