ทำเนียบฯ 8 ม.ค. – รัฐบาลสร้างภูมิคุ้มกันกองทุนหมู่บ้าน ผ่านการพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก รองรับความผันผวนเศรษฐกิจโลก แนะเสนอโครงการลงทุน 2 แสนบาทต่อหมู่บ้าน ลั่นระฆังพักหนี้สมาชิกกองทุน เตรียมจับมือโอท็อปญี่ปุ่น นิวซีแลนด์ ดันสินค้าชุมชนไทยไปตลาดโลก
นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี (ฝ่ายการเมือง) กล่าวว่า หลังจาก ครม.เห็นชอบผลักดันโครงการเสริมสร้างเศรษฐกิจฐานรากอย่างยั่งยืนตามแนวทางประชารัฐ วงเงิน 14,000 ล้านบาท ด้วยการให้กองทุนหมู่บ้านเสนอโครงการลงทุนภายในชุมชน 200,000 บาทต่อกองทุน เพื่อเพิ่มความเข้มแข็ง อาทิ การจัดทำร้านค้าชุมชน แหล่งท่องเที่ยวชุมชน โรงเพาะกล้า อ่างเก็บน้ำ ระบบสูบน้ำ ให้สอดคล้องกับความต้องการของพื้นที่ ขณะนี้ขอให้กองทุนหมู่บ้านที่ผ่านการประเมินเร่งรัดทำประชาคม เสนอโครงการ เพื่อเสนออนุกรรมการกลั่นกรอง หากชุมชนใดมีความพร้อมจะได้อนุมัติเงินออกสู่ระบบในเดือนมกราคมนี้ก้อนแรก เพื่ออัดฉีดเงินออกสู่กองทุนหมู่บ้านภายในปี 2563 หลังจากช่วง 3 ปีที่ผ่านมา กองทุนหมู่บ้านสร้างผลตอบแทนเพิ่มมากกว่า 200,000 โครงการ วงเงิน 8,000 ล้านบาท สร้างเงินหมุนเวียนในชุมชน 40,000 ล้านบาท จ้างงานเพิ่ม 1.6 ล้านคน
นายกอบศักดิ์ กล่าวว่า จากนี้ไปต้องผลักดันสินค้าโอทอปกระจายออกไปนอกชุมชน เพื่อส่งออกไปต่างประเทศ เพราะได้มุ่งเน้น “สร้างคนกล้าคืนถิ่น” เพื่อให้เยาชนชน ลูกหลานที่มีความรู้ความสามารถกลับไปพัฒนาชุมชน นอกจากนี้ ยังได้เจรจากับญี่ปุ่นและนิวซีแลนด์ เพื่อนำสินค้าโอทอปของทั้ง 2 ประเทศมาจับมือสร้างพันธมิตรทางธุรกิจกับสินค้าโอทอปไทย เนื่องจากญี่ปุ่นออกแบบแพ็กเกจ พัฒนาสร้างมูลค่าเพิ่ม นิวซีแลนด์ มีความโดดเด่นสินค้าชุมชนด้วยเช่นกัน เพื่อผลักดันสินค้าโอทอปของไทยขายตลาดต่างประเทศ
นายนที ขลิบทอง ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ กล่าวว่า ครม.ยังเห็นชอบโครงการพักชำระหนี้และส่งเสริมสวัสดิการของกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองเป็นหนึ่งในชุดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล เพื่อช่วยเหลือประชาชนแก้ไขปัญหาสภาพคล่องให้กองทุนฯ และเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของสมาชิกกองทุนที่ได้รับผลกระทบจากความเสี่ยงทางเศรษฐกิจ เพื่อให้สมาชิกกองทุนหมู่บ้าน แจ้งพักหนี้โดยความสมัครใจ เป็นการพักหนี้เงินต้น เป็นเวลา 1 ปี โดยต้องชำระดอกเบี้ย เพื่อนำเงินไปจัดสรรสวัสดิการให้กับสมาชิกในชุมชน เนื่องจากที่ผ่านมาธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และธนาคารออมสินได้พักหนี้ให้กับกองทุนหมู่บ้านไปแล้ว จากนี้จึงต้องช่วยเหลือสมาชิกเพื่อแบ่งเบาภาระ
ปัจจุบันเงินหมุนเวียนของสำนักงานกองทุนหมู่บ้านประมาณ 150,000 ล้านบาท คาดว่าคงมีผู้ใช้สิทธิ์พักหนี้ประมาณร้อยละ 50 หรือกระทบต่อเงินหมุนเวียนประมาณ 80,000-90,000 ล้านบาท สมาชิกกองทุนหมู่บ้านกู้เงินจากกองทุนไม่เกิน 30,000 รายต่อปี ผ่อนชำระไม่เกิน 2 ปี หากมีเหตุฉุกเฉินมีความจำเป็นขอกู้ได้ไม่เกิน 75,000 บาท แนวทางการพักหนี้ให้ยื่นดำเนินการตามความสมัครใจตามอำนาจของคณะกรรมการกองทุนหมู่บ้าน และคณะกรรมการชุมชนเมือง กองทุนฯ จะได้รับการพักหรือไม่ ต้องเป็นกลุ่มที่มีประวัติการชำระดี มีเหตุผลความจำเป็น
เมื่อได้เข้าร่วมโครงการพักหนี้ สมาชิกฯ ต้องจัดทำแผนการออมเงินและแผนในการฟื้นฟูศักยภาพการประกอบอาชีพเดิมหรืออาชีพเสริม เช่น การเข้าร่วมโครงการกองทุนต้นไม้ร่วมพัฒนา การปรับเปลี่ยนรูปแบบการผลิต การพัฒนาศักยภาพการประกอบอาชีพ ขณะเดียวกันสมาชิกที่มีประวัติชำระดีไม่ต้องน้อยใจ เพราะการตัดสินใจไม่เข้าร่วมโครงการพักชำระ รัฐบาลกำลังมองหามาตรการส่งเสริมสนับสนุนเป็นแรงจูงใจในการทำความดีมีวินัยในการชำระหนี้ตรงเวลา ซึ่งกำลังออกแบบว่าควรจะมีมาตรการส่งเสริมได้อย่างไรบ้าง.-สำนักข่าวไทย
