ขุดบ่อบาดาลแก้ปัญหาภัยแล้ง

นครปฐม7 ม.ค. – ขณะที่น้ำในเขื่อนมีปริมาณน้อย หลายพื้นที่เผชิญปัญหาภัยแล้ง การขุดเจาะบาดาล นำน้ำใต้ดินมาใช้ประโยชน์ถูกหยิบขึ้นมาใช้แก้ปัญหา มีข้อมูลว่าน้ำบาดาลของไทยมีปริมาณมากพอที่นำมาใช้ได้อีกมาก 


ในขณะที่หลายพื้นที่พบปัญหาภัยแล้ง หลายคูคลองแห้งขอด ขาดแคลนน้ำใช้และน้ำเพื่อการเกษตร รวมทั้งปัญหาน้ำเค็มรุกน้ำจืด การขุดเจาะบ่อบาดาลเป็นทางออกหนึ่งที่จะช่วยให้พอมีน้ำใช้ในช่วงแล้งนี้ 


ปีนี้ที่นครปฐม เกษตรและชาวบ้านหันมาขุดเจาะบ่อบาดาลในพื้นที่ตัวเองกันมากขึ้น เพื่อหนีปัญหาน้ำเค็ม และให้มีน้ำสำรองไว้ใช้ในช่วงฤดูแล้ง ทุกครั้งที่จะขุดเจาะบ่อบาดาลต้องขออนุญาตจากกรมทรัพยากรน้ำบาดาลก่อน เพื่อบริหารจัดการน้ำบาดาลให้มีประสิทธิภาพและมีน้ำใช้ยั่งยืน

    


วัดบางช้างเหนือ สามพราน จ.นครปฐม จ้างเอกชนขุดเจาะบ่อน้ำบาดาลเพื่ออุปโภค เพราะที่มีไม่พอกับความต้องการ เอกชนผู้รับจ้างเล่าว่า ปีสองปีมานี้มีผู้มาติดต่อเจาะบ่อบาดาลกันมากขึ้น โดยเฉพาะเกษตรกรในพื้นที่ ส่วนใหญ่พบปัญหาน้ำเค็มรุก และก่อนขุดเจาะต้องขออนุญาตรัฐก่อนทุกครั้ง และนำน้ำใต้ดินที่ได้ส่งตรวจสอบความปลอดภัยกับเจ้าหน้าที่ด้วย 

อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล กล่าวว่า ปัจจุบันพื้นที่กรุงเทพฯ นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร และนครปฐม มีปริมาณการใช้น้ำบาดาลต่ำกว่าศักยภาพที่จะนำน้ำใต้ดินมาใช้ได้ คือ นำออกมาใช้ได้สูงสุดวันละ 1.2 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน แต่มีการใช้จริงเพียง 300,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน ปีนี้ กปน.อนุญาตเจาะบ่อบาดาลเพื่อผลิตน้ำประปาใน 3 เขตของกรุงเทพฯ 3 บ่อ คือที่บางเขน มีนบุรี ลาดกระบัง และสมุทรปราการ อีก 1 บ่อ ตรวจสอบแล้วว่าเป็นจุดที่มีปริมาณน้ำสะอาดปลอดภัย จะสามารถผลิตน้ำประปาได้ 5,300 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน

การอนุญาตครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 10 ปี ที่มีการขอขุดเจาะบ่อบาดาลเพื่อผลิตน้ำประปาในพื้นที่ ที่เคยมีความเสี่ยงดินทรุด จากในอดีตมีการสูบน้ำบาดาลขึ้นมาใช้มากกินไป แต่หลังมีกฎหมายควบคุม มีการใช้น้อยลงไปมาก ระดับน้ำบาดาลคืนตัวและมีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้น ส่วนอัตราการทรุดตัวของแผ่นดินลดลง อยู่ที่ไม่เกิน 0-1เซนติเมตรต่อปี การขุดเจาะบ่อบาดาลที่ได้รับอนุญาตใหม่จะไม่มีผลกระทบต่อปัญหาดินทรุด 

ข้อมูลจากกรมทรัพยากรน้ำบาดาลพบว่า ไทยยังมีปริมาณน้ำใต้ดินกักเก็บรวม 1.1 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี ปริมาณน้ำบาดาลที่นำมาใช้ได้ 45,000 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี แต่มีการใช้ในปัจจุบันเพียง 14,000 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี ปริมาณน้ำบาดาลคงเหลือใช้ได้อีก 36,000 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี ในปีนี้กรมฯยังเตรียมแผนขุดเจาะน้ำบาดาลทั่วประเทศ ทั้งเพื่อชุมชน เพื่อผลิตน้ำประปาหมู่บ้าน และเพื่อการเกษตร   ซึ่งการขุดเจาะบ่อบาดาลจะมีการติดตั้งเครื่องวัดระดับการทรุดตัวของดินไว้ด้วย ถือเป็นการเตรียมการแก้ปัญหาวิกฤติภัยแล้งที่สำคัญในปีนี้ . – สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย