ปี 63 กรมโรงงานฯคุมเข้มรง.ปล่อยมลพิษ-เร่งพัฒนาอุตสาหกรรม

กรุงเทพฯ 7 ม.ค.-กรมโรงงานอุตสาหกรรมเผยปี 2562 สั่งปิดโรงงานไปแล้ว 6
โรงงานและสั่งแก้ปัญหากรณีถูกร้องเรียน 35 โรงงาน ส่วนแผนงานปี 2563 เน้นดำเนินงาน
4 แผนงาน มุ่งขับเคลื่อนอุตสาหกรรมสู่ยุค 4.0 และยังเน้นตรวจเข้ม 5,000-6,000
โรงงาน ป้องกันความเสี่ยงน้ำเสีย อากาศเสีย กากอุตสาหกรรมและความปลอดภัย
  


นายประกอบ วิวิธจินดา อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม กล่าวถึงผลการดำเนินในรอบปี
2562 ว่า ได้มีคำสั่งกรณีที่มีการร้องเรียนและตรวจพบว่าโรงงานมีการกระทำความผิด
โดยมีคำสั่งปิดโรงงานปี 2561 จำนวน 4 โรงงาน และในปี 2562 จำนวน 6 โรงงาน
พร้อมทั้งสั่งการให้ดำเนินการแก้ไขปี 2561 จำนวน 36 โรงงาน และปี 2562 จำนวน 35
โรงงาน ส่วนกรณีการทิ้งกากอุตสาหกรรมที่จังหวัดสระแก้ว
ถือเป็นหนึ่งในกรณีที่มีการบูรณาการการทำงานร่วมกันของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ในการจัดการแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งใช้เวลาเพียง 12 วัน
ดำเนินการตั้งแต่การตรวจสอบ การดำเนินคดี และการสั่งปิดโรงงานชั่วคราว

นอกจากนี้กรมโรงงานอุตสาหกรรม
ยังประสานการทำงานแบบบูรณาการโดยตรวจกำกับร่วมกับกระทรวงและหน่วยงานอื่น ๆ
นอกเหนือจากการทำงานตามปกติ เช่น บูรณาการทำงานกับกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
กระทรวงแรงงาน ตรวจกำกับด้านความปลอดภัย
บูรณาการในการตรวจกำกับดูแลกับหน่วยราชการอื่น ตามพ.ร.บ.โรงงาน
และพ.ร.บ.วัตถุอันตราย เช่น
การดำเนินการตามมาตรการบริหารจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้แล้ว
(เศษพลาสติก
E-Waste และ Used –E)   โดยทำงานร่วมกับอุตสาหกรรมจังหวัด,
การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย, กระทรวงพาณิชย์,
กรมศุลกากร, กรมควบคุมมลพิษ
และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ลงพื้นที่ในจังหวัดที่มีปัญหา
รวมถึงการแก้ปัญหาเรื่องการอนุญาตนำเข้า-นำผ่านของสารโซเดียมไซยาไนด์ร่วมกับหน่วยงานต่าง


ส่วนผลงานด้านอื่น ๆ
ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในรอบปี 2562 เช่น
การส่งเสริมภาคอุตสาหกรรมสู่
Factory 4.0, การอนุรักษ์และประหยัดพลังงาน
โดยเฉพาะอุตสาหกรรมทำความเย็นและหม้อน้ำในโรงงาน
, การส่งเสริมเทคโนโลยีและนวัตกรรมให้โรงงานปรับเปลี่ยนเครื่องจักรเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ
โดยได้ดำเนินการปรับเปลี่ยนเครื่องจักรในโรงงาน
กลุ่มผู้ประกอบการเอสเอ็มอีแล้วกว่า 2,131 เครื่อง หรือจำนวนโรงงาน 107 โรงงาน
,
การส่งเสริมสนับสนุนเพื่อยกระดับโรงงานเข้าสู่อุตสาหกรรมสีเขียวจำนวน
2,921 ราย จากเป้าหมายที่ 2,000 ราย ซึ่งนับตั้งแต่ปี 2554
ถึงปัจจุบันมีจำนวนโรงงานที่ได้รับเครื่องหมายอุตสาหกรรมสีเขียวแล้วกว่า 37,412
ราย
, ส่งเสริมโรงงานให้มีความรับผิดชอบต่อสังคม (CSR-
DIW) จำนวน 353 ราย โดยปัจจุบันมีจำนวนรวมแล้วกว่า 4,547 ราย

สำหรับ ข้อมูลโรงงานที่เปิดใหม่และขยายกิจการในปี 2562 มี จำนวน 4,379
โรงงานลดลงจากปีก่อนร้อยละ 15.80 เกิดการจ้างงาน 207,602 คน เพิ่มขึ้นร้อยละ
1.52  มีเงินลงทุน 483,672.29 ล้านบาท
เพิ่มขึ้นร้อยละ 31.86  
ส่วนโรงงานที่ขอเลิกกิจการมี 1,743 โรงงาน ลดลงร้อยละ 12.89  จำนวนคนงาน 43,987 คน เพิ่มขึ้นร้อยละ
5.68  และจำนวนเงินทุน 56,562.52 ล้านบาท
เพิ่มขึ้นร้อยละ 57.10   

ด้านการเติบโตของภาคอุตสาหกรรมในปี 2563 น่ามีการตั้งและขยายโรงงานที่ดีกว่าปีที่ผ่านมา 
เห็นได้จากสถิติย้อนหลังประกอบกับนโยบายการส่งเสริมการลงทุนของรัฐบาลด้านต่าง
ๆ ที่ทำให้โรงงานเข้ามาลงทุนมากขึ้น อย่างไรก็ตามประเมินว่าในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา
ภาคอุตสาหกรรมของไทยมีการปรับตัวตามแนวทางการพัฒนาของประเทศ
หรือการปรับตัวสู่อุตสาหกรรม 4.0 สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดี
เพราะภาคอุตสาหกรรมของไทยจะมีความพร้อมที่จะไปแข่งขันในตลาดโลกได้อย่างมีศักยภาพ
และเป็นมิตรกับชุมชน
ซึ่งถือเป็นหัวใจของการส่งเสริมทิศทางภาคอุตสาหกรรมในยุคปัจจุบัน


นายประกอบ กล่าวถึง แผนดำเนินงานในปี 2563 ว่า ปีนี้ กรมฯ เน้น 4
แผนงานหลัก ประกอบด้วย การดำเนินนโยบายการปกป้องสิ่งแวดล้อม และปราบปรามผู้ประกอบการที่กระทำผิด
จนเกิดปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมแบบเข้มงวดมากขึ้น
  การพัฒนากฎหมาย และระบบดิจิทัล
เพื่อผลักดันอุตสาหกรรมไทยเข้าสู่อุตสาหกรรม 4.0
, การส่งเสริมภาคอุตสาหกรรมให้มีการพัฒนาศักยภาพการแข่งขันให้ธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน
และการพัฒนาบุคลากร

ด้านสิ่งแวดล้อมมีแผนในการตรวจกำกับโรงงาน 5,000 – 6,000 โรงงาน
เพื่อเฝ้าระวังเรื่องของความเสี่ยงด้านต่าง ๆ อาทิ น้ำเสีย อากาศ กากอุตสาหกรรม
ความปลอดภัย เกี่ยวกับสารเคมี อัคคีภัย ระบบไฟฟ้า หม้อน้ำ หลังจากพบว่าในปี 62
มีชาวบ้านหรือชุมชนร้องเรียนโรงงานที่สร้างความเดือดร้อนมายัง กรอ. จำนวน 594
เรื่อง เพิ่มขึ้นจากปี 61 เล็กน้อย ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของกลิ่นเหม็นมากที่สุด
389 เรื่อง รองลงมาเป็นเสียงดังจำนวน 200 เรื่อง
, เรื่องฝุ่นละอองจำนวน 136 เรื่อง,
ทำงานกลางคืนจำนวน 89 เรื่อง และเรื่องเขม่าควันจำนวน 79 เรื่อง

ขณะเดียวกัน หากพบว่าโรงงานมีการปล่อยมลพิษทางกรมฯจะมีหน่วยเคลื่อนที่เร็วเข้าระงับ
และจัดการ เพื่อความรวดเร็ว แม่นยำ
เนื่องจากกรมมีระบบรายงานมลพิษแบบอัตโนมัติต่อเนื่อง 24 ชั่วโมง ทั้งน้ำ อากาศ
และกากอุตสาหกรรม  รวมทั้งยังเดินหน้าพัฒนาระบบดิจิทัลเพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบการและพัฒนาระบบอนุญาตและการกำกับดูแล
ทั้งข้อมูลเพื่อการบริหารจัดการวัตถุอันตราย 
เชื่อมโยงเอกสารและข้อมูลประชาชนและบริการภาครัฐ  การนำระบบบริหารจัดการกากอุตสาหกรรมและทำเนียบสารเคมีและวัตถุอันตราย
รวมถึงการผลักดันโครงการต่าง ๆ ที่จะช่วยลดมลพิษ

การดำเนินการตาม พ.ร.บ. โรงงานฉบับใหม่ นับเป็นงานใหม่ในปี 2563
ซึ่งนอกจากจะสร้างระบบ มาตรฐานในการบริหารจัดการ
และกำกับดูแลโรงงานให้มีความคล่องตัวและสร้างบรรยากาศการลงทุนที่มีความน่าสนใจ
สามารถดึงดูดนักลงทุนได้แล้วนั้น ยังมีเรื่องสำคัญอื่น ๆ ที่ต้องเร่งดำเนินการ
เช่น เรื่องการรับรองตนเองของผู้ประกอบการ และการกำกับดูแล
Third Party แล้วยังต้องอบรมให้ความรู้แก่บุคลากรให้
สามารถปฏิบัติงานรองรับได้อย่างถูกต้อง โดยเฉพาะประเด็น
การถ่ายโอนภารกิจให้แก่หน่วยงานท้องถิ่นในการกำกับดูแลโรงงาน

นอกจากนี้ ในปี 2563 จะผลักดันโครงการต่าง ๆ เช่น
โครงการอุตสาหกรรมสีเขียว
ที่ส่งเสริมให้โรงงานอุตสาหกรรมทั่วประเทศเข้าสู่อุตสาหกรรมสีเขียวเบื้องต้นมอบหมายให้
กองส่งเสริมเทคโนโลยีสิ่งแวดล้อมโรงงาน (กทส.)
ประสานการดำเนินการกับอุตสาหกรรมจังหวัดอย่างใกล้ชิด

โครงการอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ
ที่ให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมของประชาชนและชุมชนในพื้นที่ จะประสานการทำงานอย่างใกล้ชิดกับอุตสาหกรรมจังหวัด
โดยแบ่งกลุ่มออกเป็นกลุ่มที่มีโรงงานอุตสาหกรรมหนาแน่น
กลุ่มโรงงานอุตสาหกรรมในพื้นที่ที่มีศักยภาพในการเติบโตของภาคอุตสาหกรรม
และกลุ่มพื้นที่ในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) และ
โครงการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำสายหลัก เริ่มจากลุ่มน้ำเจ้าพระยา
และคลองอู่ตะเภา ซึ่งจะขยายผลไปอีก 25 ลุ่มน้ำสายหลัก และโครงการอื่น ๆ
ที่จะช่วยส่งเสริมให้เกิดบรรยากาศการน่าลงทุน เพื่อจูงใจให้เกิดการลงทุนและต้องเป็นการลงทุนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
เพื่อให้ภาคอุตสาหกรรมอยู่เคียงข้างชุมชนได้อย่างมีความสุข.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

“วัดพระบาทน้ำพุ” แจงเงินวัด เข้าแล้วออกไปไหน

ลพบุรี 8 ส.ค. – หลังจากมีกระแสข่าวเกี่ยวกับวัดพระบาทน้ำพุ ก็มีเสียงสะท้อนออกมาหลายแง่มุม ขณะที่บางส่วนตั้งคำถามเกี่ยวกับเงินวัดที่มีการเปิดรับบริจาค และการดูแลผู้ป่วยเอชไอวี ว่ายังมีความจำเป็นหรือไม่.-สำนักข่าวไทย

บุกจับเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.-กำนัน ทุจริตที่ดินเอื้อนายทุน

สระบุรี 8 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” นำกำลังบุกจับเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.สระบุรี-กำนัน ร่วมกันทุจริตออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก. 600-700 ไร่ เอื้อประโยชน์นายทุนสร้างบ้านพักหรู พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พร้อมด้วย นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ที่ปรึกษาด้านกฎหมายฯ รมว.เกษตรและสหกรณ์ นำกำลังเข้าจับกุมนายวิชยุตม์ อายุ 42 ปี นายช่างสำรวจชำนาญงาน ขณะกำลังนั่งปฏิบัติหน้าที่อยู่ในห้องทำงาน ที่สำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดสระบุรี และนายสิปปกร อายุ 57 ปี กำนัน ต.หนองย่างเสือ อ.หมวกเหล็ก ตามหมายจับศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 ข้อหาเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เป็นเจ้าหน้าที่รัฐร่วมกันปฏิบัติหรือเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เป็นเจ้าพนักงานแต่กลับร่วมกันกระทำการรับรองเอกสารอันเป็นเท็จ หลังพบใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบเอื้อประโยชน์ให้กับนายทุนเข้าบุกรุกหรือครอบครองที่ป่าไม้ในพื้นที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้มีการตรวจสอบพบคาเฟ่ รีสอร์ตหรูแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ก่อสร้างบุกรุกผืนป่า จึงเร่งขยายตรวจสอบที่ไปที่มาของการเข้าครอบครองที่ดินดังกล่าว กระทั่งพบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐบางส่วนใช้อำนาจหน้าที่เอื้อประโยชน์ให้กับนายทุน ด้วยการออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก.4-01 เพื่อใช้อ้างสิทธิเข้าครอบครอง […]

ยิงกำนันเล้น

ออกหมายจับ “ไอ้ ด.” มือปืนขาเป๋ ยิงถล่มกำนันเล้น ตร.ไล่ล่ากระชั้นชิด

ตรัง 8 ส.ค. – ออกหมายจับ ไอ้ ด. มือปืนขาเป๋ ยิง M16 ถล่มดับกำนันเล้น จ.ตรัง เผยปมสังหารจากคนเคยช่วยเหลือกลับขัดแย้ง-ขู่ฆ่า ผู้การตรังเผยแกะรอยเบาะแสไล่ล่าเป็นประโยชน์ ติดตามตัวแบบหายใจรดต้นคอ ลั่นต้องจับให้ได้ ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดตรังเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2568 ว่า จากกรณีคนร้ายชายในชุดดำสวมหมวกกันน็อกปิดบังใบหน้า ใช้อาวุธสงคราม M16 ยิงถล่มนายบัณฑิต รองพล หรือ กำนันเล้น อายุ 57 ปี กำนันตำบลนาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง และประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอห้วยยอด จนเสียชีวิต กระสุนเจาะประตูรถฝั่งคนขับพรุน 15 นัด ปลอกกระสุนขนาด 5.56 ตกกระจายเกลื่อน เหตุเกิดช่วงเวลาประมาณ 01.00 น. วันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา บริเวณหน้าบ้านของนายบัณฑิต พื้นที่หมู่ 9 ต.นาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ซึ่งเป็นช่วงระหว่างที่นายบัณฑิตเดินทางกลับจากงานเลี้ยงงานแต่งงาน […]

“บุ๋ม ปนัดดา” พร้อมชน “มาลี”

กรุงเทพฯ 8 ส.ค. – ฮือฮาและเป็นที่พูดถึงอย่างมาก สำหรับการแต่งตั้ง “ดร.บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี” นั่งโฆษก ศบ.ทก.จิตอาสา ด้าน “บุ๋ม” เปิดใจ เป็นคนชัดเจน ตรงไปตรงมา พร้อมชน “มาลี” ลั่นไม่กลัวเฟคนิวส์.-สำนักข่าวไทย