ผลศึกษาพบภาคเหนือ-ตะวันตก เสี่ยงผลกระทบแผ่นดินไหว

รร.เซ็นจูรี่ 2 ธ.ค.-นักวิชาการ ชี้ภาคเหนือ ตะวันตก เสี่ยงได้รับผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหวมากที่สุด โดยเชียงรายมีโอกาสเกิดแผ่นดินจากรอยเลื่อนได้มากถึง 6.5 ริกเตอร์ เตรียมวางแผนศึกษาร่วมโยธา และผังเมือง วางกฎหมายสิ่งปลูกสร้างใหม่ พร้อมแก้ปัญหาสะพาน หวั่นได้รับผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหว


ในการสัมมนาของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.)ร่วมกับวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูถัมภ์(วสท.) เรื่อง “สัมมนาวิชาการต้านแผ่นดินไหว สู่มาตรการป้องกันและบรรเทาอย่างเข้มแข็ง”

นายเป็นหนึ่ง วานิชชัย สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเซีย กล่าวว่า ทีมนักวิจัยซึ่งเป็นคณาจารย์จากหลายสถาบัน ได้ร่วมกันแบ่งศึกษาพื้นที่ที่อาจเสี่ยงเกิดแผ่นดินไหว รวมถึงรอยเลื่อนต่าง ๆในไทย พบว่าในพื้นที่ของประเทศที่มีโอกาสได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว ระดับปานกลาง ใน 2 ภาค ได้แก่ ภาคตะวันตกและภาคเหนือ โดยภาคเหนือ จ.เชียงราย มีโอกาสเสี่ยงเกิดแผ่นดินจากรอยเลื่อนได้ถึง 6.5 ริกเตอร์ เนื่องจากมีรอยเลื่อนกระจายอยู่มากและมีรอยเลื่อนเชื่อมต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน  เช่น เมียนมาร์และลาว ซึ่งต้องเตรียมความพร้อมทั้งแผนแม่บทและมาตรการรับมือ โดยได้ศึกษาร่วมกับโยธาธิการและผังเมือง รวมถึงกรมทางหลวงชนบท ออกมาตรการควบคุมสิ่งปลูกสร้างในพื้นที่ให้สามารถรองรับแผ่นดินไหวได้


นายเป็นหนึ่ง กล่าวต่อว่า ที่น่าห่วงคือสิ่งปลูกสร้างในพื้นที่ภาคเหนือที่เริ่มมีความคล้ายคลึงใน กทม. เช่นการนิยมอาคารคอนกรีตสำเร็จ ซึ่งความจริงแล้วถือว่ามีความเสี่ยงได้รับผลกระทบจากแผ่นดินมาก ด้วยโครงสร้างและเสาฐานรากไม่ได้รองรับแผ่นดิน อีกทั้งสะพานในอดีตก็ไม่ได้มีการรองรับแผ่นดิน ซึ่งจะต้องค่อยๆ หารือและศึกษา เบื้องต้นมีแนวคิดเปลี่ยนฐานเชื่อมต่อตอม่อของสะพาน เสริมแผ่นเหล็กเชื่อมต่อ เพื่อให้เมื่อเกิดแผ่นดินไหวสามารถลดแรงสั่นสะเทือนได้ โดยใน จ.เชียงราย ยังมีรอยเลื่อนแม่จันที่ยังต้องจับตาดูและศึกษา เนื่องจากที่ผ่านมายังไม่มีการระเบิดในใต้ดิน

สำหรับ กทม.มีสภาพเป็นดินอ่อน แอ่งกระทะ อาคารสูงเสี่ยงได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวได้ ต้องร่วมกับกรมโยธิการและผังเมืองสำรวจอาคารเสี่ยง ออกมาตรการแก้ไข ซึ่งจากการสำรวจเมื่อปี 2557 พบว่าในพื้นที่ กทม.มีอาคารสูง 12-88 ชั้น มากถึง 1,434 หลัง มีผู้อยู่อาศัยเฉลี่ย 600-1,900 คน/หลัง หากเกิดแผ่นดินไหวใหญ่ในรอบ 2,500 ปี อาจทำให้มีอาคารสูง 4-17 ชั้น ถล่มได้รับความเสียหายได้  .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ใบประกอบวิชาชีพครู

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู”

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู” แนะรีบต่ออายุใบอนุญาต หลังคุรุสภาออกมาตรการ 5 ต. คุมเข้มทุกโรงเรียนทั่วไทย

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล หรือ TDAC ล่วงหน้า อย่างน้อย 3 วันก่อนเดินทาง ตามกฎใหม่ ตม.

พีชเรียกอาต่าย

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” โอ้อวดเรียก “อาต่าย” ลั่นไม่ใช่ญาติ

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” คู่กรณีรถกระบะ โอ้อวดเรียก “อาต่าย” รู้จักคนในรัฐบาล หวังผลคดี ลั่นไม่ใช่ญาติ สอนลูกเสมออย่าทำตัวเป็นขยะสังคม บอกประชาชนใช้วิจารณญาณเลือกตั้ง

“นายกเบี้ยว” ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้-ดูแลลุงคู่กรณี

“นายกเบี้ยว” รับจบแทนลูก ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้ ดูแลลุงคู่กรณี ระบุสอนลูกไม่ดี ไม่มีเวลาให้ลูก ปฏิเสธไม่สนิทกับ ผบ.ตร. อย่าเอาท่านมาแปดเปื้อน ส่วนที่ลูกชายยังไม่ไปเยี่ยมลุงคู่กรณี เนื่องจากกลัวโดนถูกโวยวาย

ข่าวแนะนำ

ปล่องลิฟต์ตึกถล่ม

กทม.เดินหน้าเจาะปล่องลิฟต์ ค้นหาผู้สูญหายตึก สตง.

ผู้ว่าฯ กทม. เผยปฏิการค้นหาร่างผู้สูญหายจากเหตุตึก สตง.ถล่ม วันนี้เน้นเจาะปล่องลิฟต์-บันไดหนีไฟ หลังวานนี้ (18 เม.ย.) พบผู้เสียชีวิตในจุดดังกล่าวเพิ่มอีก 6 ราย ยืนยัน กทม. ให้ความร่วมมือกับทุกหน่วยงานในการเข้า เก็บพยานหลักฐาน เพื่อหาตัวผู้รับผิดชอบกับเหตุการณ์ดังกล่าว

กะเหรี่ยงโจมตีฐานทหาร

ชาวเมียนมาหนีตายข้ามมาฝั่งไทย หลังทหารกะเหรี่ยงโจมตีฐานทหารเมียนมา

สถานการณ์แนวชายแดนไทย-เมียนมา กลับมาตึงเครียดอีกครั้ง หลังทหารกะเหรี่ยงจำนวนมากบุกโจมตีฐานทหารเมียนมา ฝั่งตรงข้าม อ.แม่ระมาด จ.ตาก ล่าสุดยังปะทะกันอย่างดุเดือด ทำให้ชาวเมียนมา 233 คน ต้องอพยพหนีตายข้ามแม่น้ำเมยมาฝั่งไทย