โพลพบลางร้ายรัฐบาล พลังเงียบลดลง-โซเชียลสนใจวิ่งไล่ลุง

กรุงเทพฯ 4 ม.ค.-สำนักวิจัยซูเปอร์โพล นำเสนอเรื่องลางร้ายรัฐบาล พลังเงียบลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ขณะที่ประชาชนสนับสนุนรัฐบาล ร้อยละ 34.0 ไม่สนับสนุนรัฐบาล 36.6 พบการสื่อสารของกลุ่มเคลื่อนไหว วิ่งไล่ลุง เข้าถึงคนในโลกโซเชียล 7,278,575 คน ส่วนการสื่อสารของนายกฯ เกี่ยวกับกิจกรรม วิ่งเพื่อแผ่นดิน เข้าถึงคนในโลกโซเชียล 589,224 คน


นายนพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) นำเสนอผลการศึกษา เรื่อง ลางร้ายรัฐบาล กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ โดยดำเนินโครงการทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) ผ่าน “เสียงประชาชนในโลกโซเชียล” (Social Media Voice) ด้วยระบบ Net Super Poll จำนวน 2,827 ตัวอย่าง และ “เสียงประชาชนในสังคมดั้งเดิม” (Traditional Voice) จำนวน 1,131 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 1-3 มกราคม 2563 ที่ผ่านมา พบว่า แนวโน้มของกลุ่มพลังเงียบลดลงอย่างมีนัยสำคัญจากช่วงหลังเลือกตั้งที่เคยอยู่สูงถึงร้อยละ 56.1 ในเดือนเมษายน 2562 ร้อยละ 55.5 ในเดือนกรกฎาคม ร้อยละ 46.0 ในเดือนกันยายน ร้อยละ 43.7 ในเดือนตุลาคม ขยับตัวสูงขึ้นเล็กน้อยอยู่ที่ร้อยละ 49.0 ในเดือนพฤศจิกายน และตกฮวบลงมาอยู่ที่ร้อยละ 29.4 ในการสำรวจล่าสุดต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมานี้

นายนพดล กล่าวว่า นี่คือลางร้ายของเสถียรภาพทางการเมืองและของรัฐบาล เพราะกลุ่มพลังเงียบที่เสมือนเป็นกลุ่มสร้างความสมดุลในการแบ่งฝักแบ่งฝ่ายทางการเมืองของประชาชน กำลังกระจายตัวไปอยู่ในกลุ่มไม่สนับสนุนรัฐบาล ร้อยละ 36.6 และกลุ่มสนับสนุนรัฐบาล ร้อยละ 34.0 ซึ่งมีสัดส่วนไม่แตกต่างกันมากนักอย่างน่าเป็นห่วงในเรื่องของการเผชิญหน้าห่ำหั่นกัน


นายนพด กล่าวด้วยว่า ที่น่าพิจารณา คือ เหตุผลที่ประชาชนสนับสนุนรัฐบาลส่วนใหญ่เป็นเพราะไม่เอาฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลโดยเด็ดขาด และได้รับประโยชน์จากมาตรการของรัฐบาล เช่น ชิมช้อปใช้ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ การช่วยให้ราคาพืชผลการเกษตร เช่น ราคาปาล์มเพิ่มสูงขึ้นด้วยนโยบายด้านพลังงาน น้ำมัน B10 และโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจรากหญ้า เป็นต้น  แต่เหตุผลที่ประชาชนไม่สนับสนุนรัฐบาล คือ เบื่อรัฐบาล ไม่รู้ว่ารัฐบาลทำอะไร ไม่เห็นทำอะไรเลย รู้แต่ข่าวว่ารัฐบาลแย่ แก้เศรษฐกิจล้มเหลว เห็นแก่พวกพ้อง กลั่นแกล้งฝ่ายตรงข้าม แย่งตำแหน่ง แย่งอำนาจ สืบทอดอำนาจ และประชาชนจำนวนมากมองด้วยว่ามาตรการรัฐบาลไม่ได้รับผลประโยชน์อะไรมาก ไม่ยั่งยืน แก้ปัญหาเศรษฐกิจไม่ได้ วิตกกังวลต่อการเลิกกิจการ รัฐเข้มงวดมาตรการภาษีต่อธุรกิจขนาดกลางและย่อม และการไม่สนับสนุน ธุรกิจ SME จริงจัง กฎระเบียบของรัฐทำให้ประชาชนทำมาหากินขัดสน

นายนพดล กล่าวด้วยว่า ผลการสำรวจ “เสียงประชาชนในโลกโซเชียล” (Social Media Voice) ผ่านระบบ Net Super Poll พบว่า การสื่อสารของฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล เช่น นาย ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ , นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และกิจกรรมอื่น ๆ เช่น วิ่งไล่ลุง เป็นต้น เข้าถึงคนในโลกโซเชียลมากถึง 7,278,575 คน และมีการพูดถึงกลุ่มเคลื่อนไหว วิ่งไล่ลุง 146,962 คน ในขณะที่การสื่อสารของนายกรัฐมนตรีเกี่ยวกับกิจกรรม วิ่งเพื่อแผ่นดิน เข้าถึงคนในโลกโซเชียลเพียง 589,224 คน และล่าสุดมีคนพูดถึงเพียง 1,410 คน 

นายนพดล กล่าวอีกว่า ผลสำรวจครั้งนี้ชี้ให้เห็นว่าฝ่ายการบริหารจัดการข้อมูลและการสื่อสารของรัฐบาลแพ้มาตลอดจนอยู่ในสถานะที่เรียกได้ว่า “ไม่ไหวแล้ว” เพราะพลังของรัฐบาลที่ทำงานด้านข้อมูลและการสื่อสารอยู่ในสภาพเส้นหวายแตกกันเป็นเส้น ๆ กระจายตัวต่างคนต่างทำ คล้าย ๆ กับแต่ละคนพยายามโชว์ผลงานของใครของมัน ส่งผลให้ข้อมูลในโลกโซเชียลเกี่ยวกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีแต่คำว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา โดด ๆ มีคำว่า นายกรัฐมนตรี มีคำว่า รมว.กลาโหม ตัวโต ๆ มีแต่เรื่องตำแหน่งและอำนาจ ขาดการเชื่อมโยงกับใจของประชาชน ตรงกันข้ามเมื่อมาดูข้อมูลในโลโซเชียลของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กิจกรรมวิ่งไล่ลุง พบว่า มีพลังเป็นกลุ่มก้อนไม่โดดเดี่ยว พบคำ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ คู่กับ ปิยบุตร แสงกนกกุล และพรรณิการ์ วานิช และยังพบคำสำคัญของธนาธร คือ กลัวที่ไหน ไม่ถอยไม่ทน และเมื่อสืบค้นการสื่อสารของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พบคำ รักพ่อที่สุดในโลก คิดถึงแล้ว นอกจากนี้ เมื่อสืบค้นการสื่อสารกิจกรรมวิ่งไล่ลุง พบที่น่าสนใจขึ้นไปอีกคือวลีเด่น ๆ ว่า ปรบมือสิ รออะไร เบื่อกันทั้งประเทศแล้ว เบื่อนายก เอาเลยฮะ ไม่ถอยไม่ทน และกลัวที่ไหน


“การเมืองเป็นเรื่องของการบริหารอารมณ์ คือ ถ้าคุมอารมณ์คนได้ ก็อยู่ได้ แต่จะเห็นได้ว่าข้อความสื่อสารของฝ่ายหนึ่งใช้กลยุทธ์ปลุกอารมณ์ปั่นความรู้สึกผลักดันให้เกิดพฤติกรรมหมู่ และมีทีมงานรับทอดขยายผลเป็นหนึ่งเดียวกันสอดคล้องกันในโลกโซเชียล ขณะที่ฝ่ายนายกรัฐมนตรีกับทีมงานเน้นที่ความเป็นเหตุผล เพราะคงคิดว่าเอาหลักตรรกคุณงามความดีเป็นตัวนำ เอาความมุ่งมั่นตั้งใจของนายกรัฐมนตรีเป็นพระเอก แต่ตำราเกี่ยวกับการบริหารอารมณ์สาธารณชนชี้ให้เห็นว่าคนส่วนใหญ่ตัดสินใจด้วยอารมณ์ก่อน ส่วนเหตุผลค่อยตามมาสร้างความชอบธรรมทีหลัง ยิ่งไปดูที่พลังของทีมงานสื่อสารฝ่ายรัฐบาลแล้ว จะพบว่าต่างคนต่างเล่นคนละบท ขาดความเป็นหนึ่ง เหมือนเส้นหวายที่แยกออกเป็นเส้น ๆ ไม่ได้รวบเป็นมัด ๆ ทำให้ฟาดฟันอะไรไม่ได้ผล ไม่ปัง เสมือนวันเปิดคือวันปิด ไม่มีทีมงานรองรับขยายผล ไม่มีการปฏิสัมพันธ์กับกลุ่มเป้าหมาย ดังนั้นต้องใช้หลัก วิเคราะห์จิต พิชิตใจ เข้าถึงและปฏิสัมพันธ์ทุกกลุ่มครอบคลุมเป้าหมาย ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี อาจจะรู้จักเจ้าของหลักการนี้ดีและน่าจะใช้เขาเป็นตัวช่วย ไม่เช่นนั้นลางร้ายรัฐบาลที่ค้นพบครั้งนี้อาจกลายเป็นจุดเริ่มต้นนับเวลาถอยหลังของรัฐบาลที่มาเร็วเกินคาด” นายนพดล กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้นบ้านสามารถ

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ” คดีฟอกเงินดิไอคอน

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช” คดีฟอกเงินดิไอคอน หลังพบเงิน “บอสดิไอคอน” โอนเข้าบัญชีแม่ของนายสามารถ

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง

คะแนนไม่เป็นทางการ เลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ

ลุ้นผลคะแนนเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช นับเสร็จแล้วบางหน่วย ล่าสุด ณ เวลา 19.40 น. “วาริน ชิณวงศ์” เบอร์ 2 จากทีมนครเข้มแข็ง ชนะคู่แข่งขาดลอยในหลายหน่วย คะแนนทิ้งห่างแชมป์เก่า “กนกพร เดชเดโช” เบอร์ 1 จากพรรค ปชป.

“ทนายสายหยุด” จ่อถอนตัวคดีตั้ม หวั่นติดร่างแห

“ทนายสายหยุด” เตรียมถอนตัวเป็นทนายให้ “ตั้ม” เผยในมือมีแต่พยานเท็จ ปิดบังข้อเท็จจริง เสี่ยงเป็นผู้ร่วมกระทำผิด

ข่าวแนะนำ

วิเคราะห์การเมืองสนามใหญ่ หลังศึกเลือกตั้งนายก อบจ.

วิเคราะห์ผลการเลือกตั้งนายก อบจ. 4 สนามใหญ่ โดยเฉพาะอุดรธานี ที่สะท้อนถึงความนิยมในตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี

“บิ๊กเต่า” ลั่นเตรียมมอบกุญแจมือเป็นของขวัญปีใหม่ให้คนดัง ส่งนอนห้องขัง

“บิ๊กเต่า” ลั่นเตรียมมอบ “กุญแจมือ” เป็นของขวัญปีใหม่ให้อินฟลูฯ นักร้อง คนดัง ส่งนอนห้องขังวีไอพี เผยปม “ฟิล์ม รัฐภูมิ” คาดมีความชัดเจนภายในสัปดาห์นี้

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง