กรุงเทพฯ 3 ม.ค.- สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เผยปัญหาเมาแล้วขับ ยังไม่สามารถแก้ไขได้ หลับพบ สถิติ ในช่วงเทศกาลปีใหม่ ที่ผ่านมา ยังมีตัวเลขสูงอยู่ เพราะพฤติกรรมดื่มแล้วขับ พร้อมเตรียมนำอุปสรรค์ และ ปัญหาไปวิเคราะห์ เพื่อปรับใช้ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ต่อไป
เวลา 14.30 น. พลตำรวจเอกสุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ประชุมเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องทั่วประเทศ ผ่านวีดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ เพื่อรับฟังบรรยายสรุปภาพรวมการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2563 โดยยอมรับว่าปีนี้ สถิติเมาแล้วขับยังมีตัวเลขที่สูงอยู่ แม้จะมีการรณรงค์และกวดขันจับกุมอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้อย่างจริงจัง เนื่องจากเป็นเรื่องของจิตสำนึก ที่ประชาชน บางส่วนยังมีพฤติกรรมดื่มสุราแล้วขับรถ ทำให้เกิดอุบัติเหตุ ซึ่งมาตรการต่างๆรวมถึงบทลงโทษ ที่ออกมาควบคุมเพิ่มขึ้น ส่วนตัวจึงไม่อยากมองว่าเป็นการเพิ่มบทลงโทษ แต่เป็นส่วนหนึ่งของการแก้ไขปัญหา ซึ่งทุกอย่างต้องดำเนินการควบคู่กันไป ร่วมกับการปลูกจิตสำนึกและบังคับใช้กฎหมาย
ขณะที่ภาพรวมทั่วประเทศ ยอดอุบัติเหตุยอดผู้เสียชีวิต ยอดผู้บาดเจ็บ ลดลงเป็นที่น่าพอใจ โดยมี 7 จังหวัดไม่มียอดผู้เสียชีวิต ส่วนกรุงเทพฯ กลับมีอุบัติเหตุและผู้เสียชีวิตถึง 14 คน ซึ่งเพิ่มขึ้นกว่า 3 ปีที่ผ่านมา มีค่าเฉลี่ยผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 11 คน ตรวจสอบข้อมูลพบว่าผู้เสียชีวิตส่วนหนึ่งเป็น เยาวชนอายุต่ำกว่า18 ปี ขี่รถจักรยานยนต์ ขณะเมาสุรา และขับรถเร็ว โดยไม่สวมหมวกกันน็อค จึงถือว่าเป็นปัญหาที่เกิดจากพฤติกรรมของผู้ขับขี่ไม่เกี่ยวกับการจราจรคับคั่งในช่วงเทศกาล โดยจากนี้จะนำอุปสรรคและปัญหาไปวิเคราะห์ เพื่อเป็นแนวทางปรับใช้ในระยะสั้นช่วงเทศกาลสงกรานต์ ส่วนระยะยาวจะมีการบังคับใช้กฎหมายและการร่วมมือกับภาคีเครือข่ายรณรงค์ สร้างวินัยจราจรอย่างเข้มงวดตลอดทั้งปี ไม่ใช่เฉพาะช่วงเทศกาลเท่านั้น นอกจากนี้ตำรวจแต่ละท้องที่ จะได้รายงานปัญหาด้านวิศวกรรมจราจร ให้หน่วนงานรับผิดชอบแก้ไขปัญหา พร้อมขอบคุณตำรวจทั่วประเทศที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยจริงใจและความเสียสละ
สำหรับสรุปอุบัติเหตุช่วงวันที่ 27 ธันวาคม 2562 – 2 มกราคม 2563 เกิดอุบัติเหตุ 3,421 ครั้ง ถือว่าลดลง 370 ครั้ง จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา มีผู้บาดเจ็บลดลง 393 คน ผู้เสียชีวิต 373 คน ลดลง 90 คน จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาโดยสาเหตุยังคงเป็นขับรถในขณะเมาสุรา และใช้ความเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด เมาแล้วขับคิดเป็นร้อยละ 32.68 พร้อมกันนี้ ยังมีการดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด10ข้อหาหลัก ที่มีพฤติกรรมเสี่ยงอุบัติเหตุกว่า 1.5 ล้านคน -สำนักข่าวไทย