ขอนแก่น 2 ม.ค.-โลกโซเชียลแชร์ภาพยายวัย 87 ปี ถูกสุนัขลาบราดอร์ผสมพิทบูล 8 ตัว รุมกัดหลายจุดอาการสาหัส พลเมืองดีขับรถเก๋งผ่านช่วยเหลือได้ทัน เจ้าของสุนัขปัดชดใช้ค่าเสียหาย อ้างไม่มีเงิน
วันนี้ (2 ม.ค.63) มีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Waiwith Wongtawonsunti โพสต์ข้อความว่า “จากโพสต์ก่อนหน้านี้ เรื่องฝูงหมาที่ไล่จักรยานยนต์จนเกิดอุบัติเหตุ วันนี้ก่อเหตุจากหมากลุ่มเดิม รุมกัดคุณยายจนบาดเจ็บหนัก หมามีเจ้าของ แต่เลี้ยงแบบปล่อยปะละเลย หมาฝูงนี้มี 7-8 ตัว เพ่นพ่านไปทั่วถนน วุฒาราม #เราจะทำอย่างไรได้บ้างครับ #เทศบาลนครขอนแก่น
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่เกิดเหตุซอยวุฒาราม 6 ตำบลในเมือง อำเภอเมืองจังหวัดขอนแก่น พบว่าทางเทศบาลได้นำสุนัขไปทั้งหมด 6 ตัว ลูกสุนัข 5 ตัว เหลือไว้ให้หย่านมอีก 5 ตัว ส่วนสุนัขอีก 2 ตัว ตามตัวไม่เจอ จึงนำไปเพียง 11 ตัว จากการสืบทราบเบื้องต้นก็พบว่า บ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านเช่าปูนผสมไม้ 2 ชั้น เช่าไว้สำหรับเลี้ยงสุนัข แต่เจ้าของสุนัขไม่ได้อาศัยอยู่ด้วย และชอบเบี้ยวจ่ายค่าบ้านเช่า
ผู้สื่อข่าวยังได้พูดคุยกับนายไววิชญ์ วงศ์ถาวรสันติ อายุ 45 ปี ลูกเขยของนางแสง ศรีอำพร อายุ 87 ปี คุณยายที่ถูกสุนัขรุมกัด เล่าว่าทุกวันหลังจากยายกินข้าวเสร็จ จะเดินออกมาหาลูกสาวที่บริเวณหน้าปากซอย แต่เมื่อวานนี้ (1 ม.ค.) หลังจากยายเดินออกมาหน้าปากซอย ก็มีหมาวิ่งออกมากัดโดยไม่ทราบสาเหตุ จนล้มลงบริเวณคอ เลือดออกเต็มไปหมด จนมีพลเมืองดีขับรถเก๋งผ่านมาช่วยได้ทัน จึงได้เรียกรถกู้ภัยให้นำตัวยายส่งโรงพยาบาล ตนเห็นบาดแผลคร่าวๆ บริเวณรอบคอทั้งด้านข้างและด้านหลัง ใบหูฉีกทั้งบนและล่าง หลังหัวเป็นแผลบาดลึกและยาว และมีรอยกอดบริเวณแขนซ้าย ซึ่งบาดแผลที่หนักที่สุดคือ คอด้านหลัง เนื่องจากเนื้อหลุดเป็นก้อน และเป็นแผลลึกประมาณ 2 นิ้ว ตอนนี้รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลก็ยังไม่สามารถเย็บได้เนื่องจากต้องคอยเช็กว่าบาดแผลติดเชื้อหรือไม่
นายไววิชญ์ เล่าอีกว่าเมื่อคืนเจ้าของสุนัขได้เดินทางไปเจรจาค่าเสียหายที่โรงพยาบาล และบอกว่าปกติคนอื่นที่โดนสุนัขของตนกัดจะจ่ายให้แค่คนละ 500 บาทเท่านั้น นายไววิชญ์ จึงขอร้องให้เจ้าของสุนัขนำสุนัขออกไปจากชุมชนนี้ เนื่องจากสุนัขกลุ่มนี้สร้างความเดือดร้อนให้กับคนในชุมชนมานานกว่า 1 ปี แล้ว หลังจากนั้นเจ้าของก็ยังไม่ยอมจ่ายค่าเสียหาย ได้แต่อ้างว่าไม่มีเงิน เป็นคนหาเช้ากินค่ำ จึงได้เดินทางไปลงบันทึกประจำวันไว้ ส่วนคุณยายก็ต้องรอรักษาตัวที่โรงพยาบาลต่อไป.-สำนักข่าวไทย