กรุงเทพฯ 2 ม.ค.- รมช.เกษตรฯ ย้ำดำเนินการกรณีบุกรุกที่ดิน ส.ป.ก.ของ “ปารีณา” เป็นมาตรฐานเดียวกับทุกราย ระบุที่ดินอยู่ในความดูแลของ ส.ป.ก. แต่รอกฤษฎีกาตีความเรื่องการดำเนินคดี ด้านอธิบดีกรมป่าไม้ชี้ต้องดำเนินการด้วยความรอบคอบตามความเห็นกฤษฎีกา ขอประชาชนอย่าเร่งรัดเพียงเพื่อความสะใจ
ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ที่ดินฟาร์มไก่ “เขาสนฟาร์ม” ซึ่งครอบครองโดย น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส. ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ อยู่ในความดูแลของสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) แล้ว โดย น.ส.ปารีณา ทำหนังสือมอบคืนที่ดิน 682 ไร่ เลขที่ 109 หมู่ 6 ตำบลรางบัว อำเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรี ซึ่งอยู่ในเขตปฏิรูปที่ดินมาใหม่อย่างไม่มีเงื่อนไขใด ๆ
ร.อ.ธรรมนัส กล่าวต่อว่า การดำเนินการต่อไปต้องรอสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาให้ความเห็นมาว่า เป็นหน้าที่ของ ส.ป.ก. หรือกรมป่าไม้ที่ต้องดำเนินคดี น.ส.ปารีณา ฐานบุกรุก ยึดถือ ครอบครองที่ดินรัฐ หากเร่งรีบดำเนินการแล้วเกิดข้อผิดพลาดทางกฎหมายจะมีปัญหาภายหลัง ยืนยันว่าจะนำที่ดินแปลงดังกล่าวเข้าสู่กระบวนการจัดสรรที่ดินทำกินแก่เกษตรกรและผู้ยากไร้ ซึ่งลงชื่อรออยู่จำนวนมาก โดย ส.ป.ก.จะมอบหนังสือทำประโยชน์ ส.ป.ก.4-01 แก่ผู้มีคุณสมบัติ ซึ่งกฎหมายกำหนดให้รายละไม่เกิน 50 ไร่ รวมทั้งเข้าไปส่งเสริมการประกอบอาชีพเกษตรกรรมตามนโยบายของรัฐบาลในโครงการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชน (คทช.) ทั้งนี้ จะเร่งดำเนินการทันทีเมื่อได้รับคำตอบที่ชัดเจนจากคณะกรรมการกฤษฎีกาและดำเนินการทุกขั้นตอนของกฎหมายแล้ว ส่วนที่มีข้อกังวลว่า น.ส. ปารีณา จะขอเข้ามาใช้ประโยชน์ในที่ดินแปลงดังกล่าวอีกนั้นเป็นไปไม่ได้ เนื่องจาก น.ส.ปารีณา ขาดคุณสมบัติการเป็น “เกษตรกร” ตามที่กำหนดไว้ใน พ.ร.บ.ปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมและโครงการ คทช.
นอกจากนี้ ยังสั่งการนายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการ ส.ป.ก. ให้ประสานกับกรมป่าไม้ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช รวมทั้งหน่วยงานอื่น ๆ ซึ่งดูแลที่ดินรัฐเพื่อแก้ปัญหาแนวเขตทับซ้อนตามโครงการแผนที่แนวเขตที่รัฐแบบบูรณาการ 1 : 4,000 ซึ่งได้มอบเป็นนโยบายสำคัญให้เร่งดำเนินการปี 2563 เพื่อให้การจัดสรรที่ดินทำกินให้แก่เกษตรกรและผู้ยากไร้ของแต่ละหน่วยงานเป็นไปในทิศทางเดียวกันตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี
นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวว่า นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ย้ำให้ดำเนินการกรณีการครอบครองที่ดินของ น.ส.ปารีณา อย่างรอบคอบและถูกต้องตามกฎหมาย ขณะนี้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกายังไม่ได้สรุปความเห็นว่าการครอบครองที่ดินรัฐของ น.ส.ปารีณา ในส่วนที่เป็นเขตปฏิรูปที่ดินนั้นเป็นอำนาจหน้าที่ของ ส.ป.ก. หรือกรมป่าไม้ที่ต้องดำเนินการเพิ่ม แต่ทางคณะกรรมการกฤษฎีกาแจ้งว่าจะเชิญกรมป่าไม้ไปให้ข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติม ก่อนจะพิจารณาให้ความเห็นซึ่งไม่ทราบว่าจะได้ข้อสรุปเมื่อใด
นายอรรถพล ย้ำว่า กรมป่าไม้ได้ดำเนินคดี น.ส.ปารีณา ที่มีมูลความผิดชัดเจนว่าบุกรุกที่ป่าสงวนและป่าไม้รวม 46 ไร่เศษ ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในความดูแลของกรมป่าไม้ ส่วนการดำเนินคดีในที่ดินซึ่งอยู่ในความดูแลของ ส.ป.ก.ต้องเป็นไปตามกฎหมายว่า เป็นอำนาจหน้าที่ของหน่วยงานใด จะให้เร่งรีบเพื่อความสะใจของกระแสสังคมไม่ได้ ส่วนเอาผิดครอบคลุมไปถึงนายทวี ไกรคุปต์ บิดาของ น.ส.ปารีณา ด้วยหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับการสืบสวนสอบสวนของเจ้าพนักงานกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก. ปทส.)
ทั้งนี้ มีรายงานจาก ส.ป.ก.และกรมป่าไม้ว่า ประเด็นที่คณะกรรมการกฤษฎีกากำลังพิจารณาอย่างละเอียดและรอบคอบที่สุด นอกเหนือจากว่าเป็นอำนาจหน้าที่ของหน่วยงานใดในการดำเนินคดีแล้ว ที่สำคัญคือ การสรุปความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกาจะส่งผลกระทบถึงการดำเนินการในที่ดินของรัฐอื่น ๆ หรือไม่เนื่องจากเขตปฏิรูปที่ดินซึ่ง น.ส.ปารีณา ครอบครองนั้น มีเกษตรกรรายย่อยอื่น ๆ ซึ่งครอบครองมาก่อนประกาศเป็นเขตปฏิรูปที่ดินด้วย หากมีความเห็นอย่างหนึ่งอย่างใดอาจต้องใช้เป็นบรรทัดฐานในการดำเนินการต่อการครอบครองของเกษตรกรรายอื่น ๆ ซึ่งมีลักษณะเดียวกันทั่วประเทศ.-สำนักข่าวไทย