กรุงเทพฯ 28 ธ.ค. – กสิกรไทยระบุเงินบาทขยับแข็งค่า คาดสัปดาห์หน้าเคลื่อนไหว 30-30.30 บาท จับตาเงินเฟ้อไทย-ดีลการค้าสหรัฐและจีน
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยรายงานว่าสัปดาห์ที่ผ่านมา (23-27 ธ.ค.) เงินบาทแข็งค่าขึ้นทดสอบแนว 30.15 บาทต่อดอลลาร์ฯ ท่ามกลางแรงขายเงินดอลลาร์ฯ หลังข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาอ่อนแอกว่าที่ตลาดคาด อาทิ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนและยอดขายบ้านใหม่ อย่างไรก็ตาม กรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทยังค่อนข้างแคบ ขณะที่บรรยากาศการซื้อขายเริ่มเบาบาง เนื่องจากเข้าใกล้ช่วงวันหยุดของเทศกาลปลายปีโดยวันที่ 27 ธันวาคม เงินบาทอยู่ที่ 30.15 บาทต่อดอลลาร์ฯ เทียบกับระดับ 30.18 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันที่ 20 ธันวาคมที่ผ่านมา
สำหรับสัปดาห์หน้า (30 ธ.ค.62- 3 ม.ค.63) ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 30.00-30.30 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยปัจจัยในประเทศสำคัญ ได้แก่ รายงานเศรษฐกิจการเงินของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เดือนพฤศจิกายน และเงินเฟ้อของไทยเดือนธันวาคม ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศที่ต้องติดตาม ได้แก่ สัญญาณของดีลการค้าสหรัฐ-จีน และบันทึกการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐสำคัญระหว่างสัปดาห์ ประกอบด้วย ดัชนี ISM และ PMI ภาคการผลิต และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนธันวาคม ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขายเดือนพฤศจิกายน ดัชนีราคาบ้านเดือนตุลาคม และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
ทั้งนี้ สรุปภาพรวมเงินบาทปี 2562 เคลื่อนไหวในกรอบ 30.15-32.43 บาทต่อดอลลาร์ฯ (ข้อมูล ณ 27 ธ.ค.62) ปรับตัวแข็งค่าขึ้นในช่วงต้นปีท่ามกลางความไม่แน่นอนในจังหวะการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟด อย่างไรก็ตาม เงินบาทลดช่วงบวกลงบางส่วนในช่วงไตรมาส 2 สอดคล้องกับสถานะขายสุทธิของนักลงทุนต่างชาติทั้งในตลาดพันธบัตรและตลาดหุ้นไทยในระหว่างที่รอสถานการณ์ทางการเมืองและความชัดเจนของการจัดตั้งรัฐบาลใหม่
อย่างไรก็ตาม เงินบาทพลิกกลับมาแข็งค่าขึ้นอีกครั้งตั้งแต่ช่วงปลายไตรมาส 2 และทำสถิติแข็งค่าที่สุดในรอบกว่า 6 ปีที่ 30.15 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยมีแรงหนุนสำคัญมาจากปัจจัยพื้นฐานของเงินบาทที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะฐานะการเกินดุลบัญชีเดินสะพัดและมุมมองของนักลงทุนที่ว่า เงินบาทเป็นสกุลเงินที่ปลอดภัยในช่วงที่การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนมีสัญญาณปะปน ก่อนที่จะมีการเปิดเผยในช่วงกลางเดือนธันวาคมว่าทั้ง 2 ฝ่ายสามารถบรรลุดีลการค้าเฟสแรกร่วมกันแล้ว.-สำนักข่าวไทย