สภาพัฒน์ 25 ธ.ค.-“สมคิด” รองนายกรัฐมนตรี มอบการบ้านปีใหม่ สศช.ปรับบทบาทเสนอโครงการลงทุนสำคัญ ขับเคลื่อนการลงทุนในเขตอีอีซีเชื่อมโยงท้องถิ่น ยกระดับเศรษฐกิจฐานราก ดูแลสังคมผู้สูงอายุ
ดูแลบัตรสวัสดิการประชารัฐ
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี มอบนโยบายกับผู้บริหารสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
(สศช.) เพื่อต้องการให้เร่งพัฒนาเรื่องความเหลื่อมล้ำ หลังจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.)
ปรับเป้าหมายการทำงาน จึงต้องการให้สศช.ช่วยคิดเป็นแพ็กเกจ
หากเกษตรกรรุ่นใหม่สนใจลงทุน ต้องดูแลครบวงจร ส่งเสริมอย่างจริงจังในการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากอย่างครบวงจร
ผลักดันเป็นแผนพัฒนาในปี 2563 ส่งเสริม ธ.ก.ส.ดูแลเศรษฐกิจชุมชนให้เข้มแข็ง
สองคล้องกับนโยบายรัฐบาล
นายสมคิด กล่าวว่า การพัฒนาเขตอีอีซีไม่มีล้มอย่างแน่นอน
เพราะขั้นตอนทุกอย่างเดินหน้าไปตามกฎหมาย
หลังปีใหม่ต้องการให้ สศช. ผลักดันการพัฒนาเขตอีอีซี การดูแลชุมชน สังคม
เพื่อให้ภาคเกษตรแปรรูปในท้องถิ่นเชื่อมโยงกับภาคอุตสาหกรรม รวมทั้งการผลักดันโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก-ตะวันตก
(EWC) เพื่อเชื่อมโยงโครงการขนาดใหญ่ในแต่ละภูมิภาค จากนั้นนำแผนการพัฒนาเศรษฐกิจรายภาค
แจ้งให้นักลงทุนต่างชาติได้รับทราบ เพื่อรับรู้แนวทางพัฒนาในแต่ละภาคของไทย
นอกจากนี้มีการส่งเสริมดูแลผู้ประกอบการเอสเอ็มอี
ให้สศช.ร่วมหารือ เพื่อหลุดจากภาระหนี้ เข้มแข็ง มีสภาพคล่อง เพราะรัฐบาลกำลังพิจารณาออกมาตรการดูแลเอสเอ็มอี
โดยเตรียมเสนอคณะรัฐมนตรีวันที่ 7 มกราคมนี้
และต้องการผลักดันส่งเสริมการท่องเที่ยว การช่วยเหลือคนตัวเล็กภาคบริการ
เพราะเป็นการท่องเที่ยวบวกกับอุตสาหกรรม จะช่วยรองรับการว่างงานในอนาคต
ขณะเดียวกัน ยังแนะนำให้สศช.เสนอโครงการลงทุนสำคัญด้วยตนเองหากเป็นโครงการสำคัญ ไม่ต้องรอให้หน่วยงานเสนอขึ้นมาฝ่ายเดียว
รวมทั้งการเรียกประชุมกรอ.ภูมิภาค เพื่อผลักดันโครงการสำคัญในภูมิภาค เพื่อรับฟังปัญหาจากภาคเอกชนและท้องถิ่น
และติดตามความคืบหน้าแผนลงทุน เพื่อเป็นกลไกขับเคลื่อนสำคัญ
เมื่อศึกษาแผนลงทุนสำคัญจะได้เสนอในที่ประชุม กรอ. ภูมิภาค
เพื่อขับเคลื่อนแผนงานสำคัญให้ประสบความสำเร็จ
นับเป็นอีกช่องทางในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจภูมิภาค
“สถานการณ์การเมืองในปัจจุบัน
สศช.ต้องเป็นแกนหลักในการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจ รวมทั้งโครงการ”ชิมช้อปใช้” นับเป็นโครงการที่มีความสำคัญ
การให้บริการผ่านโครงการชิมช้อปใช้ นับว่าเป็นประโยชน์อย่างมาก
และต้องการให้ปรับรูปแบบการแถลงตัวเลขจีดีพีของ 3 หน่วยงาน กระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)
สศช.
เพื่อเน้นมาให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการลงทุนภาครัฐในการพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก
เพราะน่าจะได้ประโยชน์มากกว่า
จึงควรปฏิรูปการสื่อสารข้อมูลผ่านสื่อ รับรูปแผนการพัฒนาที่เป็นประโยชน์”รองนายกรัฐมนตรีกล่าว.-
สำนักข่าวไทย