รวบแล้ว “เสี่ยไฮ้-ลูกน้อง” คดีฆ่าเซลส์สาวหมกเก๋งทิ้งคลอง

สระบุรี 24 ธ.ค.- รวบแล้ว “เสี่ยไฮ้” กับลูกน้องอีก 1 คน ผู้ต้องหาคดีฆ่าอำพรางเซลส์สาว หลังพบโครงกระดูกในรถที่จมน้ำนาน 3 ปี โดยมีรายงานว่า อาจมีการนำตัว “เสี่ยไฮ้” ไปยังกองบังคับการตำรวจภูธรภาค 1 เพื่อแถลงข่าวการจับกุมในวันพรุ่งนี้ 


พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 เปิดเผยความคืบหน้าคดีฆ่าอำพราง น.ส.กลิ่นเกษร วงษ์สิงห์ เซลส์สาวในพื้นที่ จ.สระบุรี ว่าศาลจังหวัดสระบุรีอนุมัติหมายจับ 2 ผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องในคดีนี้แล้ว คือ นายสันติ จึงทองดี หรือ เสี่ยไฮ้ เจ้าของโรงงานปุ๋ย ซึ่งเป็นคนสนิทของผู้เสียชีวิต และนายนิวัฒน์ เฉลิมวัฒน์ หรือแจ็ค ลูกน้อง “เสี่ยไฮ้” ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน โดยขณะนี้ตำรวจอยู่ระหว่างติดตามตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดี เบื้องต้นเชื่อยังคงกบดานอยู่ในพื้นที่ และตำรวจมั่นใจสามารถจับตัวได้เร็วๆ นี้ อย่างไรก็ตาม การสืบสวนตำรวจยังเชื่อว่าคดีนี้มีผู้เกี่ยวข้องมากกว่า 2 คน และอยู่ระหว่างเร่งสืบสวนขยายผล


หลังศาลอนุมัติหมายจับ นี่เป็นภาพล่าสุดที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวนตำรวจถูธรภาค 1 ร่วมกับตำรวจสืบสวนภูธรจังหวัดสระบุรี นำหมายศาลบุกไปที่บริษัทของนายสันติ หรือ เสี่ยไฮ้ ก่อนคุมตัวเสี่ยไฮ้ และนายแจ็ค ลูกน้องคนสนิท เข้ามาที่กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดสระบุรี เพื่อสอบปากคำ โดยจากภาพเสี่ยไฮ้ เจ้าหน้าที่ได้คุมตัวมากับรถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีขาว แต่เมื่อมาถึงยังกองบังคับการสืบสวนสอบสวนภูธรจังหวัดสระบุรี พบเพียงลูกน้องเสี่ยไฮ้เดินลงจากรถ ไม่พบตัวเสียไฮ้ ทำให้คาดว่าเจ้าหน้าที่จะนำตัวเสี่ยไฮ้ไปทางอื่น อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า อาจมีการนำตัวเสี่ยไฮ้ ไปยังกองบังคับการตำรวจภูธรภาค 1 เพื่อแถลงข่าวการจับกุมในวันพรุ่งนี้ 


สำหรับคดีนี้กลายเป็นข่าวโด่งดังขึ้นเมื่อตำรวจ สภ.หนองโดน จ.สระบุรี ได้รับแจ้งจากชาวบ้านพบรถยนต์จมอยู่กลางคลองชัยนาท-ป่าสัก และคาดว่าในรถอาจมีผู้เสียชีวิต เจ้าหน้าที่จึงประสานตำรวจพิสูจน์หลักฐานเพื่อเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ ซึ่งเบื้องต้นพบรถจมน้ำในสภาพจมโคลน มีเพียงล้อหลังรถโผล่พ้นน้ำ และเมื่อเจ้าหน้าที่ยกรถขึ้นมาได้ กระจกหน้าแตก กระจกหลังซ้ายแตก ส่วนภายในรถพบโครงกระดูกมนุษย์ห่อหุ้มด้วยผ้าปูที่นอนมัดร่างไว้

ขณะที่การตรวจสอบทะเบียนรถพบชื่อผู้ครอบครองคือนางสาวกลิ่นเกษร วงษ์สิงห์ อายุ 36 ปี ซึ่งญาติแจ้งหายตัวไปพร้อมรถยนต์ในพื้นที่ สภ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปี 59

ขณะที่การสอบสวนญาติของผู้เสียชีวิตทราบว่า ผู้เสียชีวิตเป็นเซลส์บริษัทขายปุ๋ย และก่อนหายตัวไป ได้บอกครอบครัวว่าจะไปนอนที่บริษัท และด้วยสภาพศพที่พบว่ามีที่นอนถูกมัดร่างไว้ ทำให้ญาติเชื่อว่าคดีนี้เป็นการฆาตกรรมอำพราง รวมถึงเป็นการปูทางให้ตำรวจเร่งสืบหาเบาะแสเพิ่ม กระทั่งพบหลักฐานเป็นภาพจากกล้องวงจรปิดหน้าบริษัทใน จ.สระบุรี ว่ารถยนต์ของผู้ตายขับเข้าไปในบริษัทช่วงเวลา 23.00 น.ของวันที่หายตัวไป และขับออกมาในเวลา 03.00 น. แต่ในภาพไม่สามารถระบุตัวผู้ขับขี่ได้ ตำรวจจึงพยายามแกะรอยเพิ่มจนได้เบาะแส นำไปสู่การออกหมายจับในวันนี้.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ไม่เอาไว้! ต่างด้าวสร้างปัญหาให้บุคลากรการแพทย์เมืองปาย

ผบช.สตม. ลั่น ไม่เอาไว้! ต่างด้าวสร้างปัญหาให้บุคลากรการแพทย์เมืองปาย เพิกถอนใบอนุญาต ผลักดันออกนอกประเทศทันที

ตรวจสอบ The Park เขาหลัก งบก่อสร้าง 140 ล้าน คุ้มค่าหรือไม่?

สำนักข่าวไทย ได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านให้ช่วยเข้าไปตรวจสอบการก่อสร้างโครงการศูนย์กลางการท่องเที่ยวและนันทนาการชายฝั่งแห่งเมืองพังงา หรือ The Park เขาหลัก ริมหาดบางเนียง หลังมีข้อมูลว่าเป็นโครงการที่ก่อสร้างด้วยงบกว่าร้อยล้านบาท แต่ปัจจุบันกลับไม่ได้ใช้ประโยชน์ และถูกปล่อยให้อยู่ในสภาพรกร้าง

ลูกสาวสารภาพจุดไฟเผาพ่อวัย 73 ดับคากระท่อม

ลูกสาวเปิดปากสารภาพจุดไฟเผาพ่อวัย 73 ปี เสียชีวิตในกระท่อม ข้างลานรับซื้อข้าวเปลือก ต.โนนศิลาเลิง อ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์

พิรงรองคุก2ปี

คุก 2 ปี “พิรงรอง” กสทช. คดี “ทรู” ฟ้องกลั่นแกล้ง

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี “พิรงรอง” กรรมการ กสทช. ไม่รอลงอาญา ผิดมาตรา 157 ชี้มีเจตนากลั่นแกล้ง “ทรูไอดี” ให้ได้รับความเสียหาย กรณีออกหนังสือเตือนโฆษณาแทรกในทีวีดิจิทัล

ข่าวแนะนำ

ตัดไฟเมียนมา

ตัดแขนขาเมียนมา ราคาน้ำมันพุ่ง-จำกัดการซื้อ

เข้าสู่วันที่ 3 สำหรับการตัดไฟฟ้า สัญญาณอินเทอร์เน็ต และระงับการส่งน้ำมัน จากฝั่งแม่สอดของไทยไปเมืองเมียวดีของเมียนมา ซึ่งส่งผลกระทบชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะการขาดแคลนน้ำมันในฝั่งเมียวดี

หมายจับ สส.ปูอัด

“สส.ปูอัด” เงียบหาย หลังถูกออกหมายจับข่มขืนสาวไต้หวัน

“สส.ปูอัด” เงียบหาย ไม่รับสายสื่อ หลังถูกออกหมายจับข่มขืนสาวไต้หวัน ด้าน “เลขาสภาฯ” เผยเรื่องยังไม่ถึงสภา หากมาแล้วต้องบรรจุวาระขอสมาชิกให้อนุญาตดำเนินคดี

มือถือแตงโม

ดีเอสไอรับมอบมือถือแตงโม ส่งสถาบันนิติวิทย์ฯ ตรวจดีเอ็นเอ เช้านี้

โทรศัพท์มือถือ “แตงโม ภัทรธิดา” ถึงมือดีเอสไอ เก็บเข้าห้องมั่นคงลับสูงสุดตลอดคืน เช้านี้นำส่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เข้าห้องแล็บตรวจหาหลักฐาน