กทม. 19 ธ.ค.-ในช่วงนี้ค่าฝุ่น PM 2.5 เกินค่ามาตรฐานอีกครั้งในบางเขตของกรุงเทพฯ วันนี้กรมควบคุมมลพิษประชุมหารือขอความร่วมมือกับหลายหน่วยงานทั้งรัฐและเอกชน ที่มีการให้บริการรถโดยสารไม่ประจำทาง รับส่งพนักงานหรือในนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ ให้ดูแลเครื่องยนต์ดีเซลไม่ให้ปล่อยไอเสีย ควันดำ ที่ก่อให้เกิด PM 2.5
ปัญหาฝุ่น PM 2.5 กลับมามีค่าเกินมาตรฐานอีกครั้งในหลายเขตของกรุงเทพฯ และปริมณฑล ในช่วง 1-2 วันนี้ เช่น ที่เขตบางคอแหลม กรุงเทพฯ และปากน้ำ สมุทรปราการ สาเหตุหลักยังคงมาจากการปล่อยไอเสียจากยานพาหนะ ประกอบกับในช่วงนี้อากาศปิด ไม่มีลมพัดพาฝุ่นขึ้นไปบนชั้นบรรยากาศ ในวันนี้กรมควบคุมมลพิษประชุมร่วมกับหน่วยงานรัฐ-เอกชนที่มีการให้บริการรถโดยสารไม่ประจำทางรับส่งพนักงานจำนวนมาก ในโครงการรถ ลดฝุ่น คุณทำได้ เพื่อลดฝุ่น PM 2.5
ปัจจุบันมีรถโดยสารไม่ประจำทางที่ใช้น้ำมันดีเซลในกรุงเทพฯ และปริมณฑล เกือบ 20,000 คัน หรือคิดเป็น 32 เปอร์เซ็นต์ของทั้งประเทศ มีการเสนอ 7 แนวทางช่วยลดมลพิษ เช่น สนับสนุนให้ใช้น้ำมันดีเซลมาตรฐานยูโร 5 ดูแลบำรุงรักษาเครื่องยนต์เพื่อลดมลพิษ ใช้รถที่มีมลพิษต่ำ ลดการใช้รถยนต์ส่วนบุคคล นิคมเดียวกันใช้รถโดยสารคันเดียวกัน ทำฐานข้อมูลและตรวจวัดมลพิษรถโดยสารไม่ประจำทาง
ที่ผ่านมามีข้อร้องเรียนเรื่องรถเมล์ ขสมก. ปล่อยควันดำออกมามากที่สุด กรมควบคุมมลพิษ ร่วมกับ ขสมก. ทดลองให้รถเมล์สาธารณะ 2,100 คัน จากเดิมใช้น้ำมันดีเซลทั่วไป เปลี่ยนมาใช้น้ำมัน B20 หรือน้ำมันดีเซลที่ผสมน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ 20% พบว่าลดฝุ่นได้ โดยเมื่อวัดค่าความเข้มข้นของฝุ่น พบว่าลดลงเหลือเพียง 33 เปอร์เซ็นต์
กรมฯ มีแผนบังคับใช้มาตรฐานลดมลพิษทางอากาศจากยานพาหนะ โดยอีก 1 ปี จะยกระดับมาตรฐานเครื่องยนต์และน้ำมันควบคู่กัน โดยรถเครื่องยนต์ดีเซลต้องเปลี่ยนให้ได้มาตรฐานยูโร 5 ความแตกต่างของน้ำมันดีเซล คือปริมาณกำมะถันที่ปนเปื้อนอยู่ในน้ำมัน ยูโร 5 จะถูกจำกัดให้ไม่เกิน 10 ppm ซึ่งลดลงถึง 5 เท่าตัวจากน้ำมันดีเซลมาตรฐานยูโร 4 ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน และน้ำมันที่ได้มาตรฐานยูโร 5 จะช่วยลดค่าฝุ่น PM 2.5 ได้ถึง 24 เปอร์เซ็นต์ และตั้งเป้าว่าในปี 67 จะมีสถานีบริการน้ำมันที่จำหน่ายได้ตามมาตรฐานนี้ให้ได้ทั่วประเทศและให้มีราคาที่เหมาะสม.-สำนักข่าวไทย