fbpx

“ไออาร์พีซี” จับมือลูกค้าสู่สังคม “ปลอดขยะพลาสติก”

กรุงเทพฯ 16 ธ.ค. – ไออาร์พีซี ผนึก วช – ม.เกษตร ประกาศความร่วมมือเป็นต้นแบบสร้างระบบรับรอง Zero Plastic Waste จับมือลูกค้า 15 ราย นำขยะพลาสติกจากโรงงานมารีไซเคิลใหม่ทั้ง Supply Chain นำประเทศสู่สังคมปลอดขยะพลาสติก 


ในวันนี้ บมจ.ไออาร์พีซี ร่วมกับลูกค้าโรงงาน 15 แห่ง สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์  ร่วมกันประกาศเจตนารมณ์แก้ไขปัญหาขยะพลาสติกลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้อย่างยั่งยืน และพร้อมนำประเทศสู่สังคม Zero Plastic Waste  โดยร่วมมือในการบริหารจัดการขยะพลาสติกจากแหล่งกำเนิด ไม่ปล่อยให้มี Waste Polymer หรือของเสียออกจากกระบวนการผลิตเม็ดพลาสติก ตามโมเดล ECO Solution ด้วยการบริหารจัดการทั้งห่วงโซ่การผลิตในอุตสาหกรรมพลาสติก (Closed Loop) โดยจะมีกระบวนการรีไซเคิลอย่างถูกวิธีมีประสิทธิภาพ ไม่ทำให้ขยะพลาสติกที่เกิดจากกระบวนการผลิตออกนอกระบบไปเป็นภาระแก่ชุมชนและสังคม 


ศาสตราจารย์ นายแพทย์สิริฤกษ์  ทรงศิวิไล ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กล่าวว่า วช. มีความเห็นว่าการใช้หลักการ Sharing as Beneficial Principle จะเป็นมาตรการสำคัญในการแก้ปัญหาขยะพลาสติก โดยสนับสนุนให้ ม.เกษตรศาสตร์ พัฒนาระบบการรับรอง Zero Plastic Waste สำหรับอุตสาหกรรมพลาสติกขึ้น เพื่อให้การรับรองอุตสาหกรรมที่ลดการเกิดขยะพลาสติกได้อย่างเบ็ดเสร็จ หรือขยะพลาสติกเป็นศูนย์  โดยไออาร์พีซี เป็นบริษัทแรกของประเทศไทยที่ได้รับการรับรองดังกล่าวในกระบวนการผลิต หรือ Zero Plastic Waste in Production Process  โดยระบบการรับรอง Zero Plastic Waste ที่สร้างขึ้นนี้จะเป็นการยกระดับอุตสาหกรรมพลาสติกของประเทศ และเป็นแม่แบบให้แก่ 10 ประเทศในกลุ่ม ASEAN ในอนาคต

นายนพดล ปิ่นสุภา กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) หรือไออาร์พีซี กล่าวว่า โครงการนี้ไออาร์พีซียังได้นำ Big Data สร้างเป็นฐานข้อมูล Plastic Waste Platform  เพื่อรวบรวมขยะพลาสติกจากแหล่งผลิตแต่ละโรงงานทั้งของไออาร์พีซี และลูกค้า ทำให้ทุกฝ่ายสามารถเข้าถึงแหล่งข้อมูลได้ง่ายขึ้น และการบริหารจัดการขยะพลาสติกมีประสิทธิภาพสูง ประหยัดงบประมาณ และยังใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าอีกด้วย โดยไออาร์พีซีพร้อมจะใช้ไลน์ผลิตที่มีอยู่ในการผลิตเม็ดพลาสติกรีไซเคิล ซึ่งขณะนี้กำลังเป็นที่ต้องการของตลาดเป็นอย่างสูงโดยเฉพาะสหภาพยุโรป

 นายนพดล กล่าวว่า ปี 2563 คาดว่ามาร์จิ้นของธุรกิจปิโตรเคมีจะดีขึ้นจากปีนี้ หลังสถานการณ์สงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ที่ทำให้ราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีลดลงไปประมาณร้อยละ 40 นั้น จะมีทิศทางที่ดีขึ้น จากที่ล่าสุดสหรัฐและจีนได้บรรลุข้อตกลงการค้าระยะแรกแล้ว ก็เชื่อว่าสถานการณ์ต่าง ๆ น่าจะปรับตัวดีขึ้น ประกอบกับราคาปิโตรเคมีที่ลดลงมากในปัจจุบันทำให้โรงงานหลายแห่งทั่วโลกอาจต้องลดกำลังการผลิต หรือปิดตัวลง ซึ่งจะทำให้ปริมาณการผลิตบางส่วนหายไป และน่าจะผลักดันให้ราคาปิโตรเคมีน่าจะมีเสถียรภาพและดีขึ้นเล็กน้อย 


นอกจากนี้ ในส่วนเกณฑ์ใหม่ขององค์การทางทะเลระหว่างประเทศ (IMO) ที่กำหนดให้เรือเดินสมุทรใช้น้ำมันเตากำมะถันต่ำ ร้อยละ 0.5 จากเดิมร้อยละ 3.5 ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 นั้น น่าจะเริ่มส่งผลบวกต่อผู้ประกอบการที่ผลิตน้ำมันเตากำมะถันต่ำได้ ส่วนการดำเนินการในอนาคตจะเน้นการใช้ประโยชน์จากสินทรัพย์ที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์มากที่สุด รวมถึงการขยายกำลังการผลิตในลักษณะการขยายแบบคอขวด (debottleneck) เน้นผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าสูงชนิดพิเศษ (Specialties) มากขึ้น  เละจะเน้นการขายตลาดในประเทศให้มากขึ้นโดยวางเป้าหมายจะเพิ่มการผลิตเม็ดพลาสติกเกรดพิเศษปี 2563 เป็นระดับ ร้อยละ 60 จากร้อยละ 55 ในปีนี้ และเพิ่มเป็นร้อยละ 70 ในอนาคต

นอกจากนี้ บริษัทยังมองโอกาสขยายความร่วมมือกับพันธมิตร เพื่อเข้าสู่ตลาดเม็ดพลาสติกสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ ซึ่งมีมูลค่าสูงมากขึ้น โดยต้นปีหน้าจะลงนามกับพันธมิตรเพื่อตั้งบริษัทร่วมทุนฝ่ายละร้อยละ 50 จำหน่ายเม็ดพลาสติกพีพี คอมปาวด์เกรดพิเศษ (PP Comound) เพื่อป้อนให้กับค่ายรถยนต์ญี่ปุ่น จากปัจจุบันที่มีกำลังการผลิต PP Compound ประมาณ 140,000 ตัน/ปี แต่ยังไม่สามารถผลิตได้เต็มที่ หากได้จำหน่ายให้กับค่ายรถยนต์ญี่ปุ่นมากขึ้น ก็จะช่วยหนุนปริมาณการผลิตได้เพิ่มขึ้น โดยผลิตภัณฑ์ดังกล่าวนับว่ามีมาร์จิ้นดีกว่าผลิตภัณฑ์ทั่วไปประมาณร้อยละ10-15 และบริษัทยังส่งออกเม็ดพลาสติกเพื่อยานยนต์ไปตลาดอินโดนีเซียและเวียดนามอีกด้วย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

“สารวัตรแจ๊ะ” ยื่นฟ้องหมิ่น “ทนายรัชพล” กล่าวหาจับแพะติดคุกฟรีปีกว่า

“สารวัตรแจ๊ะ” พร้อมทนายความ ยื่นฟ้องหมิ่นประมาททนายดัง และฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย 5 ล้านบาท ยันไม่ได้นําตัวไปเซฟเฮาส์ ด้านทนายเผยพบหลักฐานทนายคู่กรณีบีบผู้เสียหายกลับคําให้การ แบ่งเงินคนละครึ่ง

ข่าวแนะนำ

สถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา เริ่มมีสัญญาณที่ดี-การสู้รบเงียบสงบ

สถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา ด้าน อ.แม่สอด จ.ตาก เริ่มมีสัญญาณที่ดีขึ้น หลังการสู้รบเงียบสงบเกินกว่า 24 ชั่วโมง คาดมีการเจรจากันของกลุ่มต่อต้านและทางการเมียนมา หยุดยิงชั่วคราวเพื่อลดผลกระทบ

“บิ๊กโจ๊ก” ยื่น ป.ป.ช.อีกรอบ สอบตำรวจทำคดีเว็บพนันออนไลน์

“บิ๊กโจ๊ก” บุกสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) อีกครั้ง เพื่อยื่นหนังสือร้องทุกข์กล่าวโทษหัวหน้าและคณะพนักงานสอบสวนทั้งหมดในคดีเว็บพนันออนไลน์ที่มีการทำคดีโดยมิชอบ

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน-ใต้ พายุฝนฟ้าคะนองบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง ส่วนภาคใต้ มีฝนฟ้าคะนอง กรุงเทพฯ-ปริมณฑล อากาศร้อนจัดบางแห่ง โดยมีฝนฟ้าคะนองเล็กน้อย