ทำแผน 3 ผู้ต้องหา ทีมสังหารนักวิชาการป่าไม้

ยะลา 14 ธ.ค.- ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ 3 ผู้ต้องหา ทีมสังหารนักวิชาการป่าไม้ ที่ จ.ยะลา เสียชีวิต มือยิงอายุเพียง 14 ปี เหตุมาจากปมขัดแย้งทุจริตเงินภายในสำนักงาน ลูกน้องฝ่ายบัญชีไม่พอใจ จึงสั่งฆ่า


พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9  นำทีมแถลงข่าวความคืบหน้าเหตุยิง นายโกวิทย์ หวังทวีทรัพย์ อายุ 53 ปี นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการ หัวหน้าโครงการจุฬาภรณ์ 7 ต.แม่หวาด อ.ธารโต จ.ยะลา เสียชีวิต กลางเมืองยะลา เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม ที่ผ่านมา ซึ่งล่าสุดตำรวจจับกุมทีมก่อเหตุได้  3 ราย  คือ นางสาวอาซีซะ กาหม๊ะ อายุ 34 ปี เสมียน ลูกน้องของผู้ตาย  ทำหน้าที่ดูต้นทาง  นายตรีย์นภัทร สุวรรณปฏิพัธ์ อายุ 33 ปี ทำหน้าที่คนขับรถจักรยานยนต์คันก่อเหตุ  และเด็กชายยามีน อายุ 14 ปี เป็นคนลงมือยิง 


ก่อนนำผู้ต้องหา 2 ราย คือนางสาวอาซีซะ และนายตรีย์นภัทร มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ท่ามกลางครอบครัวและญาติของผู้เสียชีวิตที่มาร่วมดูเหตุการณ์ ส่วนมือยิง เด็กชายยามีน ไม่ได้นำมาทำแผน เนื่องจากเป็นเยาวชน  โดยเริ่มตั้งแต่ นายตรีย์นภัทร ขับรถจักรยานยนต์ไปรับ ด.ช.ยามีน มือปืน ที่เดินทางมาจาก อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา   ซึ่งกล้องวงจรปิดจับภาพไว้ได้ ที่บริเวณจุดตรวจสะตงนอก  จากนั้นได้ขับรถไปที่บ้านของ น.ส.อาซีซะ ใน ต.สะเตงนอก อ.เมืองยะลา เพื่อวางแผนร่วมกัน  จากนั้น น.ส.อาซีซะ ได้ขับรถจักรยายนต์พาทีมมือปืนไปดูเส้นทาง กระทั่งเวลา 12.30 น. ผู้ตายขับรถจักรยานยนต์ออกมาจากสำนักงานย่อย ที่ ซ.ตือเบาะ 3  เพื่อกลับบ้าน  ระหว่างนั้น น.ส.อาซีซะ ได้ส่งสัญญาณให้ทีมมือปืนลงมือ ประกบยิงผู้ตาย 5 นัด ที่บริเวณถนนอาคารสงเคราะห์ 4 อ.เมือง ยะลา  ก่อนหลบหนีไป และไปกบดานอยู่ที่ ต.วังพญา อ.รามัน จ.ยะลา กระทั่งมาถูกจับกุมตัวได้

สำหรับปมการก่อเหตุ เป็นเพราะ น.ส.อาซีซะ เสมียนที่ดูแลบัญชีการเบิกจ่ายเงินของ โครงการจุฬาภรณ์7  โกรธแค้นที่ถูกบีบให้ออกจากงาน เนื่องจากผู้ตาย ตรวจพบว่า น.ส.อาซีซะ ซึ่งเป็นลูกจ้างทำงานไม่โปร่งใส  พร้อมเตรียมตั้งกรรมการสอบสวน และพูดคาดโทษว่าจะไล่ออก เป็นเหตุให้ น.ส.อาซีซะ เกิดความกดดันและไม่พอใจ  จึงติดต่อ นายตรีย์นภัทร ซึ่งสนิทเหมือนญาติมาก่อเหตุครั้งนี้ สำหรับ ด.ช.ยามีน อายุ 14 ปี  ถูกจ้างวานให้เป็นผู้ยิง ตรวจสอบประวัติ เป็นเด็กที่มีความช่ำชองในการใช้อาวุธปืน ตำรวจยืนยัน เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นความขัดแย้งส่วนตัว ไม่ใช่เหตุเกี่ยวกับคดีความมั่นคง.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง