พูล-เพิ่มพล ธีรพัฒน์พาณิชย์ สร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์เวิลด์ ซีรีส์ 2019



ชลบุรี 9 ธ.ค.-เพิ่มพล ธีรพัฒน์พาณิชย์ ยอดนักเจ็ตสกีไทยคว้าคนเดียว 3 โทรฟี่ ครองแชมป์เวิลด์ คัพ, ถ้วยพระราชทาน และเป็นคนไทยคนแรกที่คว้าแชมป์ เวิลด์ ซีรีส์ รุ่นโปรเจ็ตสกีนั่ง 1,100 ซีซี 



เพิ่มพล ธีรพัฒน์พาณิชย์ ยอดนักเจ็ตสกีไทยคว้าคนเดียว 3 โทรฟี่ ครองแชมป์เวิลด์ คัพ, ถ้วยพระราชทาน และเป็นคนไทยคนแรกที่คว้าแชมป์ เวิลด์ ซีรีส์ รุ่นโปรเจ็ตสกีนั่ง 1,100 ซีซี ในศึกเจ็ตสกีชิงแชมป์โลก “การบินไทย เจ็ตสกีเวิลด์ คัพ 2019” ที่พัทยาเมื่อวันที่ 8 ธ.ค. ขณะที่ ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่ากกท. ชมจัดใหญ่ที่สุดในโลกและสร้างประโยชน์ให้ประเทศไทยมากมาย


ศึกเจ็ตสกีชิงแชมป์โลก “การบินไทย เจ็ตสกี เวิลด์ คัพ 2019” ที่หาดจอมเทียน พัทยา สนามตัดสินแชมป์โลกชนแชมป์โลก “เวิลด์ ซีรีส์ 2019” ต่อจาก ศึกชิงแชมป์ยุโรปที่เบลเยียมและ เวิลด์ ไฟนอล ที่สหรัฐ โดยการชิงแชมป์โลกเวิลด์ ซีรีส์ ทั้ง 3 รายการมีประเทศไทยเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ทุกรายการ ทำการแข่งขันวันสุดท้ายตัดสินแชมป์ และถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่จะมอบให้แชมป์รุ่นโปร 6 รุ่นสุดยอดของโลก ที่เมืองพัทยาเมื่อวันที่ 8 ธ.ค.

รุ่นที่นักแข่งไทยคว้าแชมป์โลก แชมป์เวิลด์ ซีรีส์ และถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นรุ่นโปรเจ็ตสกีนั่ง 1,100 ซีซี โอเพ่น (Pro Runabout 1100 Open) ที่ สุภัค เสร็จธุระ กับ เพิ่มพล ธีรพัฒน์พาณิชย์ 2 นักแข่งไทย มีคะแนนนำที่ 1 ร่วมกันเมื่อจบ 2 โมโตแรกเมื่อวันที่ 7 ธ.ค.

เข้าการแข่งขันโมโต 3 เพิ่มพล ออกตัวได้ดีกว่าออกนำตั้งแต่ช่วงโฮลช็อต และนำโด่งจนเข้าเส้นชัยเป็นที่ 1 ขณะที่ สุภัค ยังพยายามตามไล่และแซงคู่แข่งจากชาติอื่นจนเข้าที่ 3 ขณะที่อันดับ 2 โมโตนี้เป็นของ สุภทัต ฟูตระกูล นักแข่งไทยอีกคน

โมโตสุดท้ายยังเป็นการชิงดำกันของ เพิ่มพล กับ สุภัค ทั้งตำแหน่งแชมป์เวิลด์ คัพ และเวิลด์ ซีรีส์ แต่สุดท้าย สุภัค โชคร้ายเรือมีปัญหาระหว่างแข่ง อันดับ 1 โมโตนี้เป็นของ สุภทัต ฟูตระกูล ส่วนเพิ่มพล เข้าเป็นที่ 2 และ บุ๊ค เสริมสุวรรณ เป็นที่ 3 ซึ่งก็เพียงพอที่ทำให้ เพิ่มพล คว้าแชมป์เวิลด์ คัพ และถ้วยพระราชทานฯด้วยคะแนนรวม 226 คะแนน รองแชมป์เป็น สุภัค 197 คะแนน และ บุ๊ค เป็นอันดับ 3 มี 182 คะแนน

เพิ่มพล ยังคว้าแชมป์ ออฟ เดอะ แชมป์ “เวิลด์ ซีรีส์ 2019” รุ่นนี้เมื่อรวมคะแนน 3 สนามจากศึกยุโรปที่เบลเยี่ยม, เวิลด์ ไฟนอล ที่สหรัฐ และเวิลด์ คัพ ที่ไทย สร้างประวัติศาสตร์เป็นนักแข่งไทยคนแรกในประวัติศาสตร์ที่คว้าแชมป์เวิลด์ ซีรีส์

รุ่นเจ็ตสกีที่แรงและเร็วที่สุดในโลกโปรเจ็ตสกีนั่ง จีพี (Pro Runabout GP) ทำการแข่งขัน 3 โมโต ในโมโต 2 โมฮาเหม็ด เบอร์บาย่า ตัวเต็งจากคูเวตที่เรือมีปัญหาในโมโตแรก กลับมาแก้ตัวไล่แซง มาร์คัส ยอร์เกนเซ่น มือดีจากเดนมาร์ก เข้าเป็นที่ 1 ตามด้วย ยอร์เกนเซ่น และ ฌอง บอตติ จากฝรั่งเศส ส่วน วาลิด อัลชาร์ชานี่ ของคูเวตที่ 1 จากโมโตแรกหลุดไปถึงอันดับ 10

ในโมโตตัดสิน ยอร์เกนเซ่น ที่มีคะแนนนำจาก 2 โมโต พลาดตกน้ำ แต่ก็ยังกลับมาสู้จนเข้าที่ 4 อันดับ 1 เป็น ฌอง บอตติ ตามด้วย ฮาจิเมะ อิซาไซ จากญี่ปุ่น และ โมฮาเหม็ด เบอร์บาย่า จากคูเวต ซึ่งรวมคะแนน 3 โมโต ยอร์เกนเซ่น ยังคว้าแชมป์เวิลด์ คัพ และถ้วยพระราชทาน 149 คะแนน เฉือน บอตติ แค่ 2 คะแนน อันดับ 3 เป็น ฟิล โปป จากสหราชอาณาจักร์ ส่วนแชมป์เวิลด์ ซีรีส์ เป็นของ เบอร์บาย่า จากคูเวต

รุ่นโปรสปอร์ต จีพี (Pro Sport GP) สุภัค เสร็จธุระ แชมป์โลกเวิลด์ ไฟนอล ที่สหรัฐ ลุ้นแชมป์กับ ดัสติน ฟาร์ทติ้ง จากสหรัฐ แต่น่าเสียดายที่โมโต 3 สุภัค ประสบอุบัติเหตุตกน้ำต้องออกจากการแข่งขันไม่มีคะแนน ทำให้ ฟาร์ทติ้ง เข้าที่ 1 สบายๆ ตามด้วย คริส แม็คคลอกเกจ เพื่อนร่วมชาติ และ ธภัทรวัฒน์ โจสรรค์นุสนธิ์ นักแข่งไทย

ก่อนโมโตสุดท้าย ฟาร์ทติ้ง ก็ยังเข้าวินอันดับ 1 เหมือนเดิม คว้าแชมป์เวิลด์ คัพ และถ้วยพระราชทานฯด้วยคะแนน 233 คะแนน รองแชมป์เป็น คริส แม็คคลอกเกจ 170 คะแนน ส่วน สุภัค ยังคว้าอันดับ 3 ได้มี 154 คะแนน ส่วนแชมป์เวิลด์ ซีรีส์ เป็นของ โจอิชิโร่ ทาคาโน่ จากญี่ปุ่น ซึ่งได้อันดับ 5 ในสนามนี้

สุดยอดเจ็ตสกียืน โปรเจ็ตสกียืน กรังด์ปรีซ์ (Pro Ski GrandPrix) เฌเรมี โพเรต์ แชมป์โลกชาวฝรั่งเศส อันดับ 1 โมโตแรก และที่ 2 โมโต 2 ยังฟอร์มแรงในโมโต 3 ขึ้นนำและเข้าที่ 1 แบบไม่มีใครแซง ขณะที่ตัวเต็งรายอื่นๆสลับอันดับกันตลอดก่อน มาร์เทน มานนี จากเอสโตเนียเป็นที่ 2 และ ราฟาแอล เมาริน เป็นที่ 3

โมโตสุดท้าย เควิน เรทเทอเรอร์ จากออสเตรียที่นำมาตลอดเกิดเรือเสียทำให้ ราฟาแอล เมาริน แซงเป็นที่ 1 มาร์เทน มานนี่ ตามมาเป็นที่ 2 ขณะที่ โพเรต์ เข้าที่ 3 แต่ก็เพียงพอจะได้แชมป์เวิลด์ คัพ และถ้วยพระราชทานฯไปครองด้วยคะแนน 221 คะแนน รวมทั้งยังคว้าแชมป์เวิลด์ ซีรีส์ ของรุ่นนี้เช่นกัน รองแชมป์เป็น เมาริน 204 คะแนน เฉือนชนะ มานนี อันดับ 3 ที่มี 202 คะแนน

รุ่นโปร ฟรีสไตล์ (Pro Freestyle) แชมป์เวิลด์ คัพ และถ้วยพระราชทานฯเป็นของ ไทจิ ยามาโมโต้ จากญี่ปุ่น และแชมป์เวิลด์ ซีรีส์ เป็นของ ลี สโตน จากสหราชอาณาจักร

อีกรุ่นที่นักแข่งไทยคว้าแชมป์โลกเป็นรุ่นอาชีพเจ็ตสกีนั่ง โอเพ่น (Pro-Am Runabout Open) อรพรรณ ธีรพัฒน์พาณิชย์ นักแข่งสาวไทยเอาชนะบรรดานักแข่งชายจนคว้าแชมป์ไปด้วยคะแนน 221 คะแนน รองแชมป์เป็น ซาดาฮิโร่ มิคามิ จากญี่ปุ่น และที่ 3 จุนอิจิโร่ โคกิตะ จากญี่ปุ่นเช่นกัน

สรุปผลงานทัพเจ็ตสกีไทยในเวิลด์ คัพ ครั้งนี้คว้าแชมป์โลกได้ 7 แชมป์ และแชมป์เวิลด์ ซีรีส์ อีก 1 ถ้วย ขณะที่ถ้วยพระราชทานฯรุ่นโปรทั้ง 6 รุ่นอยู่ที่ไทย 1 ถ้วย ฝรั่งเศสกวาดไป 2 ถ้วย ไปอยู่ที่เดนมาร์ก 1 ถ้วย, สหรัฐ 1 ถ้วย และญี่ปุ่น 1 ถ้วย

ด้าน ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ที่เดินทางมาร่วมชมการแข่งขันและมอบรางวัล ชมการจัดการแข่งขัน “การบินไทย เจ็ตสกี เวิลด์ คัพ 2019” ว่าเป็นการจัดการแข่งขันเจ็ตสกีนานาชาติที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก จากข้อมูลที่มีผู้ชมทั้งชาวไทยและต่างประเทศร่วมชมที่สนามมากกว่าวันละ 8,000 คน สร้างรายได้ให้ประเทศไทยเฉลี่ยหัวละ 8,000 บาทต่อคนต่อวัน

นอกจากนี้ยังได้รับความสนใจจากนักแข่งมากที่สุดในโลกเช่นกัน เมื่อมีนักแข่งต่างชาติร่วม 2,000 คน จาก 42 ประเทศ ซึ่งจุดนี้สร้างประโยชน์ให้กับประเทศไทยมากมาย ทั้งการแพร่ภาพผ่านสถานีโทรทัศน์ชั้นนำของโลกอย่าง ยูโร สปอร์ต เข้าถึงผู้ชม 137 ล้านครัวเรือน สร้างมูลค่าทางการสื่อให้ประเทศไทยมากกว่า 3,000 ล้านบาท

ทางการกีฬาแห่งประเทศไทยรู้สึกภูมิใจที่ได้ร่วมสนับสนุน กีฬาระดับโลกที่เป็นลิขสิทธิ์ของประเทศไทยเอง และการกีฬาแห่งประเทศไทยพร้อมจะให้การสนับสนุนให้วงการเจ็ตสกีไทยยิ่งใหญ่ขึ้นไปอีก.-สำนักข่าวไทย 


ขอบคุณข้อมูล: เจ็ตสกีโปรทัวร์ 2019 ชิงแชมป์ประเทศไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“พี สะเดิด” เปิดใจเป็นมะเร็งเต้านมนานเกือบ 20 ปี แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย

กรุงเทพฯ 13 ส.ค. – “พี สะเดิด” เจ้าของเพลงฮิต “จี่หอย” เผยเป็นมะเร็งเต้านมมานานเกือบ 20 ปี ตัดสินใจหยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเองแข็งแกร่งต่อสู้กับโรค จนค่ามะเร็งดีขึ้น แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย “พี สะเดิด” นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง อายุ 46 ปี เปิดใจว่าป่วยเป็นมะเร็งเต้านม มาเกือบ 20 ปีแล้ว รักษาโรคนี้โดยที่ไม่บอกใครเลย เพราะกลัวครอบครัวเป็นห่วง ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้าอก และพบว่าก้อนเนื้อมันขึ้นเรื่อยๆ ขนาดเท่าลูกมะนาว คิดว่าเป็นเพราะไม่ดูแลตัวเอง ทำงานหนัก กิน-นอนไม่เป็นเวลา แต่เพราะเป็นคนที่ตรวจสุขภาพตลอดทุก 6 เดือน พอเช็กดูเลยรู้ว่ามีเชื้อมะเร็งเต้านม หมอบอกว่าโอกาสน้อยที่จะเห็นผู้ชายเป็นมะเร็งเต้านม จะเป็นหนึ่งในล้าน หรือหนึ่งในสิบล้าน พี สะเดิด บอกว่าตอนแรกก็กลัว เลยตัดสินใจหันหน้าเข้าทางธรรม และปรับปรุงตัวเองควบคู่กันไป กินของที่มีประโยชน์ หยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเราแข็งแกร่งต่อสู้กับโรคมะเร็งของตัวเอง จนตอนนี้อยู่ทุกระยะค่ามะเร็งดีขึ้น ค่อยๆ ลดลงมา จนเหลือ 0 […]

“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ

รัฐสภา 13 ส.ค.-“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ ทั้งที่ตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชาแล้ว ด้าน “อนุสรณ์” แจงยัน กมธ.ไม่ได้ตีเช็คเปล่า แต่ตรวจเช็กความพร้อมให้ทหาร การอภิปรายมาตรา 8 กระทรวงกลาโหม วงเงิน 9.51 หมื่นล้านบาท นายชยพล สท้อนดี สส.กทม. พรรคประชาชน (ปชน.) อภิปรายว่า ปีนี้ตัดงบกระทรวงกลาโหมยาก เมื่อถามหารายละเอียดจะมีคนพูดว่าปล่อยไปเถอะ ตอนนี้มีสถานการณ์ชายแดน ซึ่งตนเข้าใจถึงความจำเป็นที่ต้องใช้งบประมาณ เพราะเป็นห่วงทหารหน้างานเช่นกัน เลยต้องดูงบประมาณว่าใช้ถูกจุดหรือไม่ นายชยพล กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ตนเห็นงบเกี่ยวกับอุปกรณ์การแพทย์ คิดว่าเป็นอุปกรณ์ผ่าตัดแต่กลายเป็นว่าเป็นอุปกรณ์สำหรับม้า ตนหาอุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อดูว่าใส่ใจทหารมากแค่ไหน แต่กลับไม่พบอุปกรณ์สำหรับขันชะเนาะห้ามเลือดที่ใช้ได้ด้วยมือข้างเดียว มีแค่สายยางไส้ไก่ ถ้าอยู่คนเดียวจะทำอย่างไร อยากถามว่าเราใส่ใจบุคลากรของเราจริงหรือไม่ และที่ข้องใจคือเราตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชา มีการเรียกทูตไทยประจำพนมเปญกลับ แต่ปรากฏว่ากองทัพบกสั่งอุปกรณ์ฟิตเนสไปเติมที่บ้านผู้ช่วยทูตทหารอยู่เลย จะมีใครได้อยู่ใช้หรือไม่ “นี่เป็นเหตุผลว่าแม้อยู่ในความขัดแย้งแต่ต้องตรวจสอบกองทัพอย่างเข้มข้น การที่รัฐบาลเซ็นเช็คเปล่าให้กองทัพโดยไม่ตรวจสอบ คือการทำให้กองทัพอ่อนแอ คนที่ชอบออกมาพูดเชียร์ทหารอยากให้คิดไว้ด้วยว่า หากรักชีวิตทหารจริง ก็อยากให้ฟังทหารชายแดนว่าเขาลำบากอย่างไร การทำงานของนายพลสะท้อนความต้องการคนเหล่านั้นจริงหรือไม่” ด้าน นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ กมธ.เสียงข้างมากชี้แจงว่า […]

“สืบพงษ์” ขึ้นศาลสืบพยานนัดแรก กรณียื่นฟ้องรักษาการอธิบดี ม.รามฯ ข้อหาเบิกความเท็จ

ศาลอาญา 13 ส.ค. – ศาลนัดสืบพยาน “สืบพงษ์” ยื่นฟ้อง รักษาการ อธ.รามคำแหง พร้อมพวก ข้อหาเบิกความเท็จถูกยื่นถอดถอนเมื่อปี 65 ชี้ “ฮุนเซน” ทิ้งใบปริญญาลงโถส้วมเป็นการไม่ให้เกียรติมหาวิทยาลัย วอนยุติพฤติกรรมไม่เหมาะสม ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดสืบพยานที่ นายสืบพงษ์ ปราบใหญ่ อดีตอธิการบดี ม.รามคำแหง เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายวุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ รักษาการอธิการบดี ม.รามคำแหง กับพวกรวม 2 คน ในความผิดฐาน “ฟ้องเท็จ / เบิกความเท็จ นายสืบพงษ์ เปิดเผยว่า ศาลนัดสืบพยานนัดแรกในคดีที่ตนได้ฟ้องผู้บริหารมหาวิทยาลัยรามคำแหงฟ้องตนที่ศาลแขวงพระนครเหนือโดยกล่าวหาตนว่ากระทำตนเป็นเจ้าพนักงานทั้ง ๆ ที่ไม่มีอำนาจ จากนั้นทางศาลได้ยกฟ้องคดีดังกล่าว ซึ่งได้ดำเนินคดีที่ศาลอาญาในข้อหาฟ้องเท็จและเบิกความเท็จ โดยวันนี้ตนเองเป็นพยานปากแรกที่ขึ้นเบิกความในวันนี้และจะมีพยานทั้งหมด 5 ปาก สืบพยานในวันนี้และวันที่ 14 ส.ค. ส่วนประเด็นที่ถูกถอดถอนอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหงเมื่อปี 2565 นั้น มีการถอดถอนตนเองทั้งหมด 2 ครั้ง หลังจากที่ดำรงตำแหน่งอธิการบดีได้ […]

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

ข่าวแนะนำ

พลทหารยิงชาวบ้านเจ็บ 2 ก่อนหนีเข้าป่า จบชีวิตตัวเอง

สุรินทร์ 15 ส.ค. – ตื่นตระหนก เหตุพลทหารที่ปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ชายแดน อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ควงปืนอาวุธประจำกาย ออกมายิงชาวบ้าน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ก่อนจะหลบหนี และสุดท้ายปลิดชีพตนเอง ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนหาสาเหตุ ติดตามได้จากรายงานของศูนย์ข่าวภาคตะวันออกเฉียงเหนือ.-สำนักข่าวไทย

ไล่ล่าโจรชิงทอง 123 บาท กลางห้างย่านบางบ่อ

สมุทรปราการ 15 ส.ค. – ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ เรียกประชุมตำรวจที่เกี่ยวข้อง แกะรอยหาเบาะแส ไล่ล่าโจรชิงทองห้างย่านบางบ่อ ยืนยันจำนวนทอง 123 บาท มูลค่ากว่า 6 ล้าน ขณะที่พนักงานยังผวาทุกครั้งที่เห็นคนใส่ชุดไรเดอร์เดินเข้าห้าง จากเหตุการณ์คนร้ายแต่งกายด้วยชุดไรเดอร์ สวมกางกางยีนขายาวสีดำ รองเท้าผ้าใบสีขาว เดินเท้าบุกเดี่ยวมาที่ร้านทอง แล้วชักอาวุธปืนพกแบบออโตเมติก สีบอร์นซ์ ขู่บังคับให้พนักงานขายทองซึ่งเป็นหญิง 3 คน หยิบทองรูปพรรณส่งให้คนร้าย แต่พนักงานขายทองไม่หยิบส่งให้ และหมอบลงกับพื้น คนร้ายจึงกระโดดข้ามตู้ทองด้านหน้าร้าน ไปเลื่อนกระจกตู้ทองด้านหลัง หยิบเอาทองคำรูปพรรณ มีสร้อยข้อมือ หนัก 5 บาท 5 เส้น น้ำหนัก 25 บาท น้ำหนัก 3 บาท 30 เส้น น้ำหนักรวม 90 บาท, หนัก 2 บาท 24 เส้น รวม 48 บาท […]

ย้าย “ลุงพล” มาคุมขังต่อที่เรือนจำกลางนครพนม

15 ส.ค. – เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ย้ายตัว “ลุงพล” จำเลยคดีน้องชมพู่ ไปควบคุมต่อที่เรือนจำกลางนครพนม ด้าน “ป้าแต๋น” ตามมาเยี่ยมให้กำลังใจสามี บอกเอาหัวใจมาฝาก ยืนยันลุงพลสู้ต่อถึงฎีกา หลังเมื่อวันที่ 13 สิงหาคมที่ผ่านมา ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษาแก้เพิ่มโทษ นายไชย์พล วิภา หรือ “ลุงพล” จำเลยที่ 1 จาก 20 ปี เป็น 26 ปี และยกฟ้อง นางสมพร หลาบโพธิ์ หรือ “ป้าแต๋น” ในคดีฆ่า เด็กหญิงอรวรรณ หรือน้องชมพู่ อายุ 3 ขวบ หลังหายตัวจากบ้านพัก ขณะนั่งเล่นกับพี่สาวที่บ้าน กกกอก ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร เหตุเกิดช่วงเช้าวันที่ 11 พ.ค.2563 ต่อมาจำเลย ได้ยื่นหลักทรัพย์ขอปล่อยตัวชั่วคราว และวานนี้ ศาลฎีกาไม่อนุญาตให้ประกันตัว […]

สส.เพื่อไทย ให้กำลังใจ “แพทองธาร” ผ่านอุปสรรคกลับมารับใช้ประชาชน

รัฐสภา 15 ส.ค.-สส.เพื่อไทย ให้กำลังใจ “แพทองธาร” ผ่านอุปสรรคกลับมารับใช้ประชาชน ด้านเจ้าตัวยิ้มสู้-ยังเข้มแข็ง กำชับ สส.ทำงานสภาเต็มที่ ลงพื้นที่ดูแลประชาชนใกล้ชิด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร​ เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 วาระที่สอง วันสุดท้าย ซึ่ง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้เดินทางเข้ามาติดตามการประชุม ตลอด 3 วันที่ผ่านมา โดยในช่วงเช้า สส.พรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะ สส.เขต ได้มีการเข้าพบหารือกับนางสาวแพทองธาร ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เพื่อปรึกษาปัญหาในพื้นที่ รวมถึงเรื่องการผลักดันนโยบายต่างๆ ที่จะลงในพื้นที่ เนื่องจากในหลายจังหวัดมีโครงสร้างพื้นฐานพร้อมทุกด้าน แต่ยังขาดเรื่องการประชาสัมพันธ์ จึงอยากให้นางสาวแพทองธาร ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมผลักดันเกี่ยวกับซอฟพาวเวอร์ และจัดกิจกรรมอีเวนท์ต่างๆเพื่อ ให้จังหวัดนั้นๆเป็นที่รู้จักมากขึ้น นอกจากนี้ บรรดา สส. ของพรรคยังได้ให้กำลังใจนางสาวแพทองธาร เนื่องจากกลัวว่า อาจมีความเครียดและกังวลเรื่องคดีความ พร้อมขอให้นายกฯสู้ๆ เข้มแข็ง ผ่านอุปสรรคไปได้และได้กลับมาทำงานเพื่อประชาชน ขณะที่นางสาวแพทองธาร ยังคงยิ้มแย้ม แสดงความเข้มแข็ง และขอให้ สส.ทุกคน เดินหน้าทำหน้าทำงานในสภาอย่างเข้มแข็งเช่นกัน […]