fbpx

เวคบอร์ดไทยคว้าทองทีมเคเบิลสกี

ฟิลิปปินส์ 8 ธ.ค. – ซีเกมส์ 2019 ที่ฟิลิปปินส์ ช่วงเช้าวันนี้ ทีมเวคบอร์ดของไทย คว้าเหรียญประเดิมให้ทัพนักกีฬาไทย 



ซีเกมส์ 2019 ที่ฟิลิปปินส์ ช่วงเช้าวันนี้ (8 ธ.ค.) เริ่มที่การแข่งขันเวคบอร์ด ที่เดก้า เวค ปาร์ค ในเมืองคลาร์ก มีชิง 5 เหรียญทอง ประเภทเคเบิลสกี มิกซ์ทีม รอบชิงชนะเลิศ ทีมชาติไทย ประกอบด้วย อัครินทร์ อินทรครรชิต, ปฏิวัติ แจ่มจันทร์, ณัฐวุฒิ หาผลดี, วีรยา โรเซ็นดาห์ล, พัทธนันท์ ภมรพล และ ศีรสินธุ์ ขำกล่อม โชว์ความแข็งแกร่งและท่วงท่าลีลาได้อย่างสวยงาม แต่หลังจบการแข่งขัน ทีมชาติไทย คะแนนรวมเท่ากับ อินโดนีเซีย 430 คะแนน ฝ่ายจัดการแข่งขันต้องนำคะแนนจากรอบคัดเลือกมารวม ทำให้ไทยแพ้ไป 10 คะแนน คว้าเพียงเหรียญเงิน ส่วนเหรียญทอง อินโดนีเซีย และเหรียญทองแดง มาเลเซีย


โบว์ลิ่ง ประเภทมาสเตอร์บุคคลชายและหญิง ที่สตาร์มอลล์ เอ็ดซา แข่งขันวันที่ 2 สะสมคะแนน 16 เกม คัดนักทอยแก่น 3 อันดับแรก เข้าไปชิงเหรียญทอง ผลปรากฏว่า 3 นักทอยแก่นหนุ่มของไทย ไม่ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ โดย “เจ้าโจ้” ญาณพล ลาภอาภารัตน์ ดีกรีเหรียญทองเอเชียนเกมส์ 2014 ทำคะแนนได้ 3,377 คะแนน ได้อันดับ 5, อัจฉริยะ เช็ง ทำได้ 3,125 คะแนน ได้อันดับ 15, สุรศักดิ์ มานุวงศ์ ทำได้ 3,123 คะแนน ได้อันดับ 16


กรีฑา วันที่ 3 ชิง 15 เหรียญทอง ช่วงเช้าเป็นการแข่งขันรอบคัดเลือก วิ่ง 100 เมตรชาย ฮีทที่ 1 “เจ้ารัตน์” รัตนพล โสวัน ลมกรดหนุ่มทีมชาติไทย วัย 25 ปี จากจังหวัดอุดรธานี ลงดวลกับ เอริค ฌอน เคลย์ แชมป์ 100 เมตร ซีเกมส์ 2015 และตัวเต็งจากฟิลิปปินส์ แต่ เอริค ฌอน เคลย์ ออกสตาร์ทฟาวล์ ทำให้ต้องออกจากการแข่งขัน และเป็น รัตนพล ที่วิ่งแบบไม่กดดัน เข้าเส้นชัยคนแรก เวลา 10.34 วินาที ซึ่งถือเป็นเวลาดีที่สุดในปีนี้ของตัวเอง และเป็นเวลาดีที่สุดในรอบคัดเลือก ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศในเย็นวันนี้ (8 ธ.ค.) เวลา 16.50 น. ตามเวลาประเทศไทย อันดับ 2 มาเลเซีย อันดับ 3 อินโดนีเซีย 

ฮีทที่ 2 “เจ้ามอส” บัณฑิต ช่วงไชย ลมกรดหนุ่มทีมชาติไทย วัย 26 ปี ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมเช่นกัน วิ่งเข้าเส้นชัยเป็นคนแรก เวลา 10.50 วินาที อันดับ 2 ฟิลิปปินส์ 10.61 วินาที และอันดับ 3 มาเลเซีย 10.65 วินาที ได้ผ่านเข้าไปลุ้นเหรียญทองเย็นนี้เช่นกัน

วิ่ง 100 เมตรหญิง อรอุมา เชษฐา ลมกรดสาวไทย วัย 22 ปี ลงดวลกับ เล ธู ชินห์ แชมป์เก่า 100 และ 200 เมตร จากเวียดนาม ผลปรากฏว่า อรอุมา เข้าเส้นชัยเป็นอันดับ 2 เวลา 11.75 วินาที อันดับ 1 เล ธู ชินห์ 11.61 วินาที อันดับ 3 สิงคโปร์ 11.77 วินาที ได้ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ เย็นวันนี้ เวลา 16.40 น. ตามเวลาประเทศไทย

ฮีทที่ 2 สุภาวรรณ ธิปัตย์ ลมกรดสาวทีมชาติไทย วัย 25 ปี ต้องดวลกับ คริสตินา มารี คน็อตต์ จากฟิลิปปินส์ ที่เพิ่งคว้าแชมป์ 200 เมตรหญิง เมื่อวานนี้ ซึ่ง สุภาวรรณ เข้าเส้นชัยอันดับ 3 เวลา 11.71 วินาที ได้เข้ารอบชิงชนะเลิศเช่นกัน อันดับ 1 คริสตินา มารี คน็อตต์ 11.45 วินาที อันดับ 2 มาเลเซีย 11.68 วินาที โดยขณะนี้ทีมกรีฑาไทยคว้ามาแล้ว 4 เหรียญทอง 4 เหรียญเงิน 1 เหรียญทองแดง

ว่ายน้ำซีเกมส์ วันที่ 5 ชิง 6 เหรียญทอง ช่วงเช้าเป็นการแข่งขันรอบคัดเลือก กบ 50 เมตรชาย กิติพัฒน์ ภิพิมพ์นันท์ ฉลามหนุ่มทีมชาติไทย วัย 27 ปี ว่ายแตะขอบสระเป็นคนที่ 2 เวลา 28.79 วินาที ได้ผ่านเข้าไปลุ้นเหรียญทองในเย็นวันนี้ อันดับ 1 สิงคโปร์ 28.42 วินาที อันดับ 3 อินโดนีเซีย 29.01 วินาที

ฟรีสไตล์ 50 เมตรหญิง ฮีทที่ 2 “เงือกจอย” เจนจิรา ศรีสะอาด วัย 24 ปี ที่คว้าไปแล้ว 2 เหรียญเงิน 1 เหรียญทองแดง กับ “เงือกเฟรช” มานิตา เสถียรโชควิศาล วัย 15 ปี ได้ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ เย็นวันนี้ โดย เจนจิรา ได้อันดับ 3 เวลา 25.77 วินาที ส่วน มานิตา ได้อันดับ 4 เวลา 26.10 วินาที 

ฟรีสไตล์ 100 เมตรชาย ฮีทที่ 1 แอนดรูว์ เจมส์ ดิกบี้ ฉลามหนุ่มไทย วัย 26 ปี ว่ายแตะขอบสระเป็นอันดับที่ 4 เวลา 50.88 วินาที ได้ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ เย็นวันนี้ อันดับ 1 เมียนมา 50.20 วินาที อันดับ 2 สิงคโปร์ 50.51 วินาที อันดับ 3 เวียดนาม 50.65 วินาที สำหรับรอบชิงชนะเลิศจะเริ่มแข่งขันในเวลา 17.00 น. ตามเวลาประเทศไทย 

สรุปเหรียญทองล่าสุด

1. ฟิลิปปินส์ 90 เหรียญทอง 68 เหรียญเงิน 71 เหรียญทองแดง รวม 229 เหรียญ

2. อินโดนีเซีย 52 เหรียญทอง 49 เหรียญเงิน 66 เหรียญทองแดง รวม 167 เหรียญ

3. เวียดนาม  47 เหรียญทอง 53 เหรียญเงิน 65 เหรียญทองแดง รวม 165 เหรียญ

4. ไทย 40 เหรียญทอง 53 เหรียญเงิน 59 เหรียญทองแดง รวม 152 เหรียญ

5. สิงคโปร์ 37 เหรียญทอง 30 เหรียญเงิน 42 เหรียญทองแดง รวม 109 เหรียญ

ส่วนโปรแกรมการแข่งขันที่น่าสนใจในช่วงบ่ายวันนี้ (8 ธ.ค.)

13.15 น. ฮอกกี้

14.00 น. มวย

14.00 น. ฮอกกี้น้ำแข็ง

14.45 น. บาสเกตบอล

17.00 น. วอลเลย์บอลชาย

19.00 น. ฟุตบอลหญิง รอบชิงชนะเลิศ. – สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบจุดที่ ฮ.ปธน.อิหร่านตกแล้ว

เตหะราน 20 พ.ค.- สื่อทางการอิหร่านรายงานอ้างแหล่งข่าวภาคสนามว่า ผลการตรวจตราทางอากาศในพื้นที่ที่เฮลิคอปเตอร์ของประธานาธิบดีเอบราฮิม เรซี ประสบเหตุตก สามารถกำหนดพิกัดการตกที่แม่นยำได้แล้ว เว็บไซต์สำนักข่าวไออาร์เอ็นเอ (IRNA) ของทางการอิหร่านรายงานว่า ทีมค้นหาและกู้ภัยกำลังเดินทางไปยังจุดที่อาจเกิดอุบัติเหตุ แต่ยังไม่มีการยืนยันเรื่องนี้จากทางการ ขณะเดียวกันโดรนของทูร์เคียหรือตุรกีได้ตรวจพบจุดความร้อนที่น่าจะเป็นจุดที่เฮลิคอปเตอร์ตก ผู้บัญชาการของกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามของอิหร่านยืนยันว่า โดรนทูร์เคียพบจุดความร้อนที่น่าจะเป็นซากเฮลิคอปเตอร์ ไออาร์เอ็นเอรายงานว่า แม้ว่าสภาพอากาศเลวร้ายหมอกลงจัดและมีฝนตก ทีมกู้ภัยกำลังเร่งค้นหาเฮลิคอปเตอร์ที่ประธานาธิบดีไรซีโดยสารมาพร้อมกับคณะและหายไปเมื่อวันอาทิตย์ขณะบินอยู่เหนือภาคตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ โดยได้ค้นหาอย่างละเอียดตามพื้นที่เทือกเขาและเนินเขาใกล้เมืองวาร์ซากานในจังหวัดอาร์เซอร์ไบจานตะวันออก.-814.-สำนักข่าวไทย

เร่งวิจัยยาฉีดพ่นรักษามะเร็งปอด คาดสำเร็จใน 3 ปี

การรักษามะเร็งมีความหวังมากขึ้น หลังนักวิจัยไทยจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ร่วมกับนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลก ใช้เทคโนโลยีรักษามะเร็งสมองได้สำเร็จ และนำมาวิจัยต่อยอดรักษามะเร็งกระดูกอ่อนและมะเร็งตับแนวใหม่ได้ผล ซึ่งจะเป็นจุดเริ่มต้นการวิจัยยารักษามะเร็งปอดแบบฉีดพ่น

รวบแล้วหนุ่มปากี-เมียคนไทย ลวงชายอินเดียฆ่าทิ้งศพ

ตำรวจภูธรภาค 8 จับกุมชายปากีสถาน พร้อมภรรยาชาวไทย ลวงชายอินเดียมาฆ่าแล้วทิ้งศพริมถนน พุ่งเป้าปมขัดแย้งธุรกิจ โดยมีหลักฐานสำคัญจากวงจรปิดที่จับภาพเหตุการณ์ ขัดแย้งกับคำให้การของผู้ต้องหา

Made in Thailand แดนไทยเท่ : จากเมืองเก่าภูเก็ตสู่แพ็กเกจกล่องชิโนโปรตุกีส

ช่วง Made in Thailand แดนไทยเท่ วันนี้ จะพาไปดู มนต์เสน่ห์ของตึกรามบ้านช่องในย่านเมืองเก่าภูเก็ต ที่ถูกถ่ายทอด ไปสู่กล่องขนมรูปแบบชิโนโปรตุกีส กลายเป็นซอฟต์พาวเวอร์ภูเก็ตและไทยที่โดนใจนักท่องเที่ยวทั่วโลก

ข่าวแนะนำ

“พิชิต” ยื่นลาออก รมต.ประจำสำนักฯ ให้นายกฯ บริหารประเทศต่อไปได้

“พิชิต” ยื่นหนังสือลาออก รมต.ประจำสำนักฯ แล้ว เพื่อให้นายกรัฐมนตรีเดินหน้าบริหารประเทศต่อไปได้ ยืนยัน ไม่ยึดติดตำแหน่ง

ตรวจสอบเรือยอชต์ถูกเพลิงไหม้ ขณะจอดลอยลำหน้าเกาะโหลน อ่าวฉลอง จ.ภูเก็ต

เจ้าท่าภูมิภาค สาขาภูเก็ต ประสานตำรวจตรวจสอบสาเหตุเพลิงไหม้เรือยอชต์เสียหายทั้งลำ ขณะผูกทุ่นลอยลำอยู่หน้าเกาะโหลน อ่าวฉลอง จ.ภูเก็ต คาดเสียหายกว่า 100 ล้านบาท

กรมอุตุฯ ประกาศเข้าฤดูฝนเป็นทางการแล้ว

กรุงเทพฯ 21 พ.ค.- กรมอุตุนิยมวิทยาประกาศเริ่มฤดูฝนอย่างเป็นทางการแล้วตัั้งแต่ 20 พ.ค. โดยพบว่า ปัจจัยทางอุตุนิยมวิทยาครบทุกปัจจัย ฤดูฝนปีนี้อาจมีพายุหมุนเขตร้อน 1 – 2 ลูกเท่าค่าเฉลี่ยปกติ สภาวะเอลนีโญจะสิ้นสุด แล้วพลิกกลับเป็นลานีญา ทำให้ฝนตกชุก ดังนั้นช่วงปลายฤดูฝนจะตกชุกหนาแน่นทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้ในบางพื้นที่ นางสาวกรรวี สิทธิชีวภาค อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยากล่าวว่า ได้ออกประกาศรื่อง การเริ่มต้นฤดูฝนของประเทศไทย พ.ศ. 2567 โดยประเทศไทยได้สิ้นสุดฤดูร้อนและเริ่มต้นเข้าสู่ฤดูฝนแล้ว ตั้งแต่เมื่อวานนี้ (วันที่ 20 พฤษภาคม) เนื่องจากบริเวณประเทศไทยตอนบน สภาพอากาศมีฝนตกชุกหนาแน่นครอบคลุมพื้นที่มากกว่าร้อยละ 60 และต่อเนื่อง 3 วันขึ้นไป ประกอบกับลมชั้นบนที่พัดปกคลุมประเทศไทยที่ระดับความสูงประมาณ 1.5 กิโลเมตรได้เปลี่ยนทิศเป็นลมตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งจะพัดนำความชื่นจากะเลอันดามันเข้ามาปกคลุมบริเวณประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ส่วนลมชั้นบนที่ระดับความสูงประมาณ 10 กิโลเมตรได้เปลี่ยนทิศเป็นลมฝ่ายตะวันออก เมื่อปัจจัยทางอุตุนิยมวิทยาครบทั้ง 3 ปัจจัยจึงถือว่า เป็นการเข้าสู่ฤดูฝนของประเทศไทยในปีนี้ ทั้งนี้ฤดูฝนของประเทศไทยตอนบนจะสิ้นสุดประมาณกลางเดือนตุลาคม ส่วนภาคใต้โดยเฉพาะฝั่งตะวันออกจะมีผนตกชุกหนาแน่นต่อไปอีกจนถึงกลางเดือนมกราคม สำหรับปรากฏการณ์เอนโซ (ENSO) ขณะนี้อยู่ในสภาวะเอลนีโญกำลังอ่อน โดยเป็นช่วงท้ายของสภาวะเอลนีโญ คาดการณ์ว่า จะเข้าสู่สภาวะเป็นกลางหรือ Neutral ในเดือนมิถุนายน […]