ทำเนียบรัฐบาล 6 ธ.ค.- นายกฯ ยืนยันไม่ปรับครม. ไม่ยุบสภา ย้ำพรรคร่วมรัฐบาลทำงานเข้าขากันดี รับเป็นนักการเมืองเต็มตัวแล้ว ยินดีถ้าเศรษฐกิจใหม่ร่วมรัฐบาล
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า ขอสื่อมวลชนหยุดสอบถามเรื่องสภาผู้แทนราษฏร โดยมองว่าหากรัฐบาลและฝ่ายค้านร่วมมือกันทำงาน มองถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก จะทำให้ทุกอย่างประสบผลสำเร็จ ทั้งนี้ มีความเข้าใจการทำหน้าที่ของแต่ละฝ่ายเป็นอย่างดี แต่ขอให้มีเหตุและผล รวมถึงสอดคล้องกับสถานการณ์ภายในประเทศ ไม่ได้หวังให้ทุกคนมาคล้อยตามทั้งหมด แม้ขณะนี้จะมีเสียงวิพากย์วิจารณ์สถานการณ์ต่าง ๆ มากมาย รวมถึงเรื่องการยุบสภา
“ยืนยันว่าไม่มีแนวคิดจะศยุบสภาขณะนี้ เพียงแต่สอบถามว่าที่ผ่านมาดำเนินการเรื่องนี้กันอย่างไรเท่านั้น แต่ไม่ใช่จะตัดสินใจยุบสภาอย่างแน่นอน เพราะจะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่น ผมคงไม่โง่พอที่จะพูดเรื่องเหล่านี้ในสื่อต่าง ๆ เพราะเราต้องรักษาเสถียรภาพให้มากที่สุด ถ้าวันนี้ยอมรับว่ามีปัญหาเรื่องเสียงน้อย แล้วมาจากไหน จากประชาชนหรือไม่ เขาเลือกพรรคการเมืองมา จึงเป็นสิทธิของส.ส.ว่าจะเลือกอยู่กับฝ่ายค้านหรือรัฐบาล ซึ่งเราจะแก้ไขอย่างไร ครั้งหน้าก็ต้องไปว่ากันต่อจากนี้” นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่มีแนวคิดปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพราะทุกคนทำงานเข้าขากันดี เพียงแต่การทำงานที่ผ่านมาอาจจะมีปัญหาบ้าง เนื่องจากแต่ละพรรคต้องคำนึงถึงนโยบายที่หาเสียงไว้กับประชาชน ขณะที่รัฐบาลต้องระมัดระวังเรื่องการใช้จ่ายงบประมาณในภาพรวม ดังนั้น ขอให้ทุกคนเข้าใจว่าแม้จะมีนโยบายของแต่ละพรรค แต่ทุกอย่างต้องผ่านการกลั่นกรองร่วมกัน และต้องนำเข้าสู่การพิจารณาของครม.เพื่อให้เป็นมติ และเป็นผลงานของรัฐบาล ไม่ใช่ของพรรคใดพรรคหนึ่ง เพราะแม้จะประกาศนโยบายไปแล้วก็ต้องมาพิจารณาว่าจะสามารถทำได้หรือไม่ โดยต้องดูว่างบประมาณมีเพียงพอหรือไม่ด้วย ซึ่งท้ายที่สุดหากทุกฝ่ายยอมรับสามารถทำได้ด้วยดี จึงไม่กังวลว่าสถานการณ์จะนำไปสู่การตัดสินใจยุบสภา
“รัฐบาลยังมีเสถียรภาพ ซึ่งไม่ใช่เพราะนายกรัฐมนตรีไปร่วมงานเลี้ยงกับพรรคร่วมรัฐบาลอย่างแน่นอน แต่เป็นเพราะทุกคนทำงานเข้าขากันได้ จึงไม่จำเป็นต้องปรับครม. และไม่ได้ตั้งหลักเกณฑ์ว่าจะต้องปรับครม.ช่วงไหน แต่จะปรับเมื่อพรรคร่วมรัฐบาลทำงานร่วมกันไม่ได้แล้ว” นายกรัฐมนตรี กล่าว
ส่วนกรณีกระแสข่าวดึงพรรคเศรษฐกิจใหม่เข้าร่วมรัฐบาล นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของพรรคเศรษฐกิจใหม่ หากต้องการมาร่วมงานกันก็ยินดี เป็นเรื่องของพรรคการเมืองที่จะพูดคุยกัน ส่วนการต่อรองตำแหน่ง เห็นว่ายังไม่ใช่เรื่องที่ต้องหยิบยกมาพูดคุยเวลานี้ เพราะควรมาทำงานร่วมกันก่อนจึงจะมาตกลงกัน เนื่องจากแต่ละพรรคมีสัดส่วนรัฐมนตรีตามโควต้าที่กำหนด หากมาจำนวน 2-3 คนก็ต้องมาคุยกันอย่างไรก็ตาม มุ่งหวังให้ทุกพรรคการเมืองมาร่วมงานกันทั้งหมด แต่จะมาหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของแต่ละพรรค
นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่พรรคร่วมรัฐบาลต้องการให้พบปะแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลทุกเดือน และให้นายกรัฐมนตรีไปร่วมงานด้วยทุกครั้ง ว่า ต้องดูเวลาและความเหมาะสม การที่ตนไปร่วมงานด้วย ไม่ได้ไปสั่งการหรือก้าวล่วงใคร แต่ไปเพื่อทำความเข้าใจว่าตนเองเป็นอย่างไร ทำงานเพื่อใคร และจะร่วมมือกันทำงานได้หรือไม่ ซึ่งต้องเรียนรู้ซึ่งกันและกัน หากมีสิ่งใดไม่เข้าใจก็ต้องอธิบายกัน
เมื่อถามว่านายกรัฐมนตรีเข้าใจหัวอกนักการเมืองมากขึ้นหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ก็มีทั้งเข้าใจและไม่เข้าใจ แต่ส่วนตัวยึดมั่นในชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์และประชาชน เพราะฉะนั้นอย่างอื่น ไม่คิด และหวังว่าทุกคนจะคิดเหมือนตนเอง
เมื่อถามย้ำว่านายกรัฐมนตรีเป็นนักการเมืองเต็มตัวแล้วหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หากจะพูดว่าไม่ใช่ก็คงไม่ได้ แต่มีหลักการที่ว่าไม่ใช่เฉพาะการเมืองเพียงอย่างเดียว แต่เป็นการเมืองที่มีธรรมาภิบาล เป็นผู้นำที่ดี มีหลักการ ยึดมั่นในสิ่งที่ถูกต้อง.-สำนักข่าวไทย
