fbpx

กฟผ. สานต่อโครงการบ้านเบอร์ 5

กรุงเทพ ฯ 5 ธ.ค. – กฟผ. ร่วมกับ กคช. ลงนามความร่วมมือโครงการฉลากแสดงระดับประสิทธิภาพพลังงานสำหรับบ้านที่อยู่อาศัย หรือโครงการบ้านเบอร์ 5 ในระยะที่ 2 ตั้งเป้าหมายเดินหน้าส่งเสริมประสิทธิภาพการใช้พลังงาน ในที่อยู่อาศัยของ กคช. เดิม และที่อยู่อาศัยที่มีแผนงานสร้างใหม่ รวมกว่า 10 พื้นที่


นายวิบูลย์ ฤกษ์ศิระทัย ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และ นายธัชพล กาญจนกูล ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ (กคช.) ลงนามความร่วมมือโครงการฉลากแสดงระดับประสิทธิภาพพลังงานสำหรับบ้านที่อยู่อาศัย ระยะที่ 2 พร้อมมอบโล่แก่โครงการเคหะชุมชนที่ผ่านการประเมินเกณฑ์บ้านเบอร์ 5 ในปี 2562 จำนวน 6 แห่ง ณ ห้องแถลงข่าวชั้น 3 อาคาร ท.103 สำนักงานใหญ่ กฟผ.

นายวิบูลย์ ฤกษ์ศิระทัย ผู้ว่าการ กฟผ. กล่าวถึงความร่วมมือว่า เพื่อให้การดำเนินโครงการบ้านเบอร์ 5 ในปี 2563 บรรลุผลสำเร็จตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ กฟผ. และ กคช. จึงได้จัดทำบันทึกความร่วมมือฉบับใหม่ ในระยะที่ 2 โดยสานต่อการดำเนินโครงการบ้านเบอร์ 5 อย่างต่อเนื่อง และพัฒนานวัตกรรมด้านที่อยู่อาศัย รวมถึงเพิ่มเติมในส่วนการส่งเสริมการใช้พลังงานไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพในพื้นที่ชุมชนเดิม ที่มีผู้อยู่อาศัยแล้วในปัจจุบัน โดย กฟผ. เป็นที่ปรึกษาพลังงานให้กับเคหะชุมชน ตั้งเป้าหมายนำร่องจำนวน 4 พื้นที่ทั่วประเทศ 



ทั้งนี้ ที่ผ่านมา กฟผ. ได้ดำเนินโครงการฉลากแสดงระดับประสิทธิภาพพลังงานสำหรับบ้านที่อยู่อาศัย หรือโครงการบ้านเบอร์ 5 ตั้งแต่ปี 2560 เพื่อผลักดันให้เกิดการยกระดับการใช้พลังงานในภาคอาคารและที่อยู่อาศัยของประเทศ โดยเชื่อมโยงเกณฑ์ประเมินพลังงานกับมาตรฐานประสิทธิภาพอาคารขั้นต่ำ หรือ Building Energy Code (BEC) ซึ่งในการนำร่องโครงการดังกล่าว กฟผ. ได้ประสานงานเชิญ กคช. ร่วมเป็นพันธมิตรในการดำเนินงาน โดยลงนามบันทึกความร่วมมือร่วมกันเมื่อปี 2560 ในการพัฒนาปรับปรุงการออกแบบ รวมถึงเลือกใช้วัสดุการก่อสร้างที่มีประสิทธิภาพสูง และอุปกรณ์ไฟฟ้าเบอร์ 5 ในโครงการบ้านที่อยู่อาศัยที่สร้างใหม่สำหรับผู้มีรายได้น้อยถึงปานกลาง ซึ่งในปี 2561 สามารถยกระดับให้เกิดการออกแบบและก่อสร้างตามเกณฑ์บ้านประหยัดไฟฟ้าเบอร์ 5 นำร่องในเคหะชุมชน จำนวน 8 พื้นที่ และในปี 2562 ที่ผ่านมา ได้เปิดตัวโครงการเคหะชุมชนและบริการชุมชนเชิงสังคม ชลบุรี (บ่อวิน) ระยะที่ 2 เป็นโครงการบ้านนำร่องแห่งแรกของโครงการบ้านเบอร์ 5 รวมถึงให้การรับรองแบบก่อสร้างตามเกณฑ์ประเมินบ้านเบอร์ 5 ให้กับโครงการเคหะชุมชนของ กคช. อีกจำนวน 6 แห่ง ซึ่งคาดว่าเมื่อดำเนินการสร้างแล้วเสร็จ จะสามารถส่งผลให้ประเทศประหยัดพลังงานไฟฟ้าได้ประมาณ 1.5 ล้านหน่วยต่อปี ลดภาระค่าใช้จ่ายไฟฟ้าของผู้อาศัยได้ประมาณ 6 ล้านบาทต่อปี และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ประมาณ 754 ตันต่อปี 

นายธัชพล กาญจนกูล ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ เผยว่า ความร่วมมือโครงการฉลากแสดงระดับประสิทธิภาพพลังงานสำหรับที่อยู่อาศัย สอดคล้องกับ แผนยุทธศาสตร์การเคหะแห่งชาติ พ.ศ. 2560 – 2565 ด้านการพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับประชาชนโดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อยให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี ซึ่งโครงการบ้านเบอร์ 5 ระหว่าง กคช. และ กฟผ. นี้ เป็นอีกหนึ่งโครงการ ที่สร้างโอกาสให้ประชาชนผู้มีรายได้น้อย ได้เข้าถึงที่อยู่อาศัยที่นำไปสู่การยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยเฉพาะที่อยู่อาศัยในโครงการของ กคช. ซึ่งบ้านเบอร์ 5 จะช่วยลดการใช้ไฟฟ้า ลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานในครัวเรือน และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก นอกจากนี้ ยังก่อให้เกิดการพัฒนาการออกแบบที่อยู่อาศัยและวัสดุก่อสร้างที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมทั้งเป็นการสร้างงานและสร้างอาชีพที่เกี่ยวข้องในภาคอสังหาริมทรัพย์ในระดับประเทศ  โดยใน ปี 2561 -2562 ที่ผ่านมา กคช. ได้ดำเนินการก่อสร้างโครงการที่อยู่อาศัย บ้านเบอร์ 5 ที่ผ่านเกณฑ์ประสิทธิภาพพลังงานของ กฟผ. จำนวน 14 โครงการ รวม 3,411 หน่วย 

“ในอนาคต กคช. มีแนวทางการดำเนินงานและสนับสนุนโครงการบ้านเบอร์ 5 อย่างต่อเนื่อง รวมถึงรณรงค์และประชาสัมพันธ์ให้ความรู้เกี่ยวกับการประหยัดพลังงานแก่ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะผู้อยู่อาศัยในโครงการของ กคช. และร่วมกันพัฒนาที่อยู่อาศัยที่ออกแบบตามมาตรฐานประหยัดพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัยอย่างเป็นรูปธรรม อันจะนำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนสืบไป” ผู้ว่าการ กคช. กล่าวเพิ่มเติม

สำหรับโครงการเคหะชุมชนของ กคช. ที่ผ่านเกณฑ์ประเมินบ้านเบอร์ 5 ในปี 2562 ซึ่งเข้ารับโล่ จำนวน 6 แห่ง ประกอบด้วย 1) โครงการบ้านเคหะกตัญญูคลองหลวง 1 จังหวัดปทุมธานี 2) โครงการเคหะชุมชนและบริการชุมชนเชิงสังคม จังหวัดสุพรรณบุรี (อู่ยา 1) 3) โครงการเคหะชุมชนและบริการชุมชนเชิงพาณิชย์ จังหวัดสมุทรปราการ (บางพลี) ทาวน์โฮม 3 4) โครงการเคหะชุมชนและบริการชุมชนหารายได้ จังหวัดอุดรธานี (สามพร้าว) ระยะที่ 1 ส่วนที่ 2 5) โครงการเคหะชุมชนและบริการชุมชนเชิงสังคม จังหวัดนครนายก (พรหมณี 1) และ 6) โครงการเคหะชุมชนและบริการชุมชนเชิงสังคม จังหวัดสกลนคร (สว่างแดนดิน) . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

“สารวัตรแจ๊ะ” ยื่นฟ้องหมิ่น “ทนายรัชพล” กล่าวหาจับแพะติดคุกฟรีปีกว่า

“สารวัตรแจ๊ะ” พร้อมทนายความ ยื่นฟ้องหมิ่นประมาททนายดัง และฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย 5 ล้านบาท ยันไม่ได้นําตัวไปเซฟเฮาส์ ด้านทนายเผยพบหลักฐานทนายคู่กรณีบีบผู้เสียหายกลับคําให้การ แบ่งเงินคนละครึ่ง

ข่าวแนะนำ

“บิ๊กโจ๊ก” ร้อง ตร.ขอความเป็นธรรม ปมโดนให้ออกจากราชการ

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล บุกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หอบหลักฐานยื่นคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมตำรวจ ขอให้เพิกถอนคำสั่งให้ออกจากราชการ

เร่งตรวจสอบเหตุสารเคมีรั่วไหลโรงงานย่านพระราม 2

เจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบเหตุสารเคมีรั่วไหลในโรงงานย่านพระราม 2 ควันสีขาวลอยโขมง เบื้องต้นพบเป็นสารไทโอยูเรีย

อุตุฯ เผยไทยตอนบนร้อนจัด แนะเลี่ยงทำงานในที่โล่งแจ้งเป็นเวลานาน

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด แนะหลีกเลี่ยงการทำงานหรือการประกอบกิจกรรมในที่โล่งแจ้งเป็นระยะเวลานาน ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง กรุงเทพฯ-ปริมณฑล อากาศร้อนจัดบางแห่ง

คดีสะเทือนขวัญ ฆ่าหั่นศพ “ยากูซ่า” จ.นนทบุรี

คดีสะเทือนขวัญ พบชิ้นส่วนมือ ในพื้นที่ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ล่าสุดตำรวจจับกุมหนึ่งในผู้ต้องหาได้แล้ว และทราบว่าทั้งผู้ตายและผู้ลงมือฆ่าหั่นศพ เป็นแก๊งยากูซ่าชาวญี่ปุ่น