กรุงเทพฯ 3 ธ.ค.-วัยรุ่น 16 ปี แจ้งความ สน.มีนบุรี เอาผิดแก๊งหมวกกันน็อก หลังหลงผิดเข้าไปทำงานด้วย แต่ถูกปืนจี้ศีรษะบังคับให้ทำงานต่อแถมถูกทำร้ายร่างกายจนน่วม
วันนี้ (3 ธ.ค.62) นางประจิม เจริญเมือง พาเยาวชนอายุ 16 ปี ซึ่งเป็นลูกเลี้ยง เข้าแจ้งความตำรวจ สน.มีนบุรี ดำเนินคดีกับนาย “โบ๊ท” ไม่ทราบชื่อและนามสกุล หนึ่งในสมาชิกแก๊งเงินกู้นอกระบบ โดยนำหลักฐานสำคัญภาพถ่ายขณะนาย “โบ๊ท” ใช้อาวุธปืนจี้ที่ศีรษะของผู้เสียหาย มอบให้ตำรวจไว้เป็นหลักฐาน
ผู้เสียหายเล่าว่า ภาพปืนจี้หัวเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นช่วงต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา หลังจากเข้าไปรับจ้างทำหน้าที่เป็น “ม้า” คือ การขี่จักรยานยนต์หรือในวงการเงินกู้เรียกแก๊งหมวกกันน็อก คอยเก็บดอกเบี้ยให้กับแก๊งเงินกู้นอกระบบแก๊งหนึ่งที่ย่านมีนบุรี แต่ทำได้ไม่ถึงสัปดาห์ต้องการถอนตัว เนื่องจากไม่ชอบการใช้กำลังข่มขู่ทำร้ายลูกหนี้ และหลายครั้งได้ใช้เงินส่วนตัวจ่ายหนี้แทนลูกหนี้ที่เขาเก็บเงินไม่ได้ แต่กลับถูกนาย “โบ๊ท” พูดจาข่มขู่ และใช้ปืนจี้ที่หัวบังคับไม่ให้ลาออก จึงยอมทนทำงานถึงช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ก่อนอาศัยจังหวะที่ออกไปเก็บดอกเบี้ยหนีกลับบ้านไปหาแม่ที่ตำบลเสม็ด จังหวัดระยอง และเข้าแจ้งความวันนี้
ผู้เสียหายเปิดบาดแผลที่ถูกแก๊งเงินกู้นอกระบบเฆี่ยนตีด้วยหวายให้ดู โดยบอกว่าหลังจากหนีกลับไปหาแม่ที่บ้าน แก๊งได้ส่งคนไปอุ้มตัวแล้วพาไปกักขังที่ป่าอ้อแถวเขาเขียวจังหวัดชลบุรี ก่อนลงมือทำร้าย เตะ ต่อย และตีด้วยหวาย พร้อมขู่จะกดน้ำให้ตายแล้วนำศพฝังดิน นอกจากนี้ยังระบุว่าแก๊งนี้ ใช้วิธีการรุนแรงในการทวงหนี้
ด้านนางประจิม แม่เลี้ยงผู้เสียหาย ยอมรับว่ากลัวบุตรชายจะไม่ได้รับความเป็นธรรมและถูกทำร้ายซ้ำอีก จึงขอให้ตำรวจและทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง จัดการกับแก๊งเงินกู้นอกระบบ แบบถอนรากถอนโคน กรณีที่เกิดกับลูกชายจะได้ครั้งสุดท้าย ไม่มีใครตกเป็นเหยื่ออีก
สำหรับการเข้าพบตำรวจวันนี้ ผู้เสียหายยังเปิดข้อมูลแก๊งเงินกู้นอกระบบย่านมีนบุรี ระบุว่ามีนายเติ้ล หรือ ฉายา “เติ้ล มีนบุรี” อายุประมาณ 20 ปี เป็นหัวหน้าแก๊ง โดย “เติ้ล” จะขึ้นตรงกับ “นายออฟ” และมีนายทุนเจ้าของเงินอยู่เบื้องหลังอีกทอดหนึ่ง ส่วนโต๊ะเงินกู้ของ “เติ้ล” อยู่ที่หมู่บ้านย่านรามคำแหงที่ผู้เสียหายเคยไปทำงาน
วิธีการปล่อยกู้แบ่งเป็นโต๊ะ โต๊ะมีนบุรี มีนายเติ้ลเป็นคนคุมสาย ปล่อยกู้ทั้งย่านมีนบุรี ลาดกระบัง และพื้นที่ใกล้เคียง โดยลูกหนี้ส่วนใหญ่เป็นพ่อค้า-แม่ค้า หาเช้ากินค่ำ การเก็บดอกแบบรายวัน เช่น กู้ 10,000 บาท จ่ายดอกวันละ 200 บาท นอกจากนี้มีโต๊ะพัทยา มีนายโบ๊ท เป็นคนคุมสาย และโต๊ะบึง อยู่ที่ตำบลบึง จังหวัดชลบุรี มีนายตี๋คุมสาย ดอกเบี้ยที่เก็บได้จะส่งผ่านคนคุมโต๊ะ เพื่อส่งต่อให้นายทุนเจ้าของเงิน
หากยังจำได้สมัย “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล เคยเปิดปฏิบัติการทลายแก๊งเงินกู้นอกระบบ ย่านกรุงเทพฝั่งตะวันออกมาแล้ว ช่วงนั้นจับกุมนายทุนและสมาชิกแก๊งเงินกู้ได้จำนวนมากจนสถานการณ์ดีขึ้น พอเวลาผ่านไปแก๊งพวกนี้ก็กลับมาคืนชีพอีกครั้ง.-สำนักข่าวไทย