กรุงเทพฯ 18 ม.ค. – ชุดลาดตระเวนออนไลน์รวบแก๊งหมวกกันน็อกตระเวนลักรถจักรยานยนต์ทั่วกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ส่งเอเยนต์ออกนอก ยึดของกลาง รถจักรยานยนต์ อุปกรณ์ที่ใช้ก่อเหตุกว่า 25 รายการ
ชุดลาดตระเวนออนไลน์ บก.สส.บช.น. IDMB รับแจ้งเรื่องร้องเรียนจากภาคประชาชนในพื้นที่ย่านพหลโยธินและย่านบางเขน กรุงเทพฯ ตั้งแต่เดือน พ.ย.65 จนถึงปัจจุบัน พบแก๊งมิจฉาชีพโจรกรรมรถจักรยานยนต์สร้างความหวาดวิตกกังวลแก่เจ้าของและผู้ครอบครองรถจนไม่สามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุข จึงสั่งการให้ บก.สส.บช.น. เร่งรัดออกสืบสวนปราบปราม
พบคนร้ายเป็นชายวัยรุ่น 2 ราย ขับรถจักรยานยนต์ตระเวนออกลักรถจักรยานยนต์ในพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งมีตำหนิพิเศษ โดยคนร้ายทั้งสองมักจะใส่หมวกกันน็อกสีเขียวและสีแดงออกตระเวนลักทรัพย์ฯ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน จึงจับกุมตัว คือ นายเจษฏาพร หรือบอล อายุ 20 ปี ตามหมายจับศาลอาญาที่ 71/2566 ลงวันที่ 12 มกราคม 2566 นายธรรมนูญ หรือแบงก์ อายุ 20 ปี ตามหมายจับศาลอาญาที่ 72/2566 ลงวันที่ 12 มกราคม 2566 และนายพจน์ อายุ 46 ปี โดยกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 1 และ 2 “ร่วมกันลักทรัพย์เวลากลางคืน โดยร่วมกันกระทำผิดตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปโดยใช้ยานพาหนะ เพื่อสะดวกในการกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไป เพื่อให้พ้นการจับกุม” โดยกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 3 ว่า รับของโจร พร้อมยึดของกลาง รถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุ 2 คัน รถจักรยานยนต์ที่ลักมาจำนวน 2 คัน รถจักรยานยนต์ 6 คัน จากการตรวจสอบพบว่าได้แจ้งหายในพื้นที่ กรุงเทพฯ เสื้อผ้า หมวกกันน็อก และอุปกรณ์ที่ใช้ในการก่อเหตุกว่า 25 รายการ จับกุมได้ที่ห้องพักแห่งหนึ่งใน อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี
ผู้ต้องหาทั้งสองรับสารภาพร่วมกันก่อเหตุตระเวนลักรถจักยานยนต์จอดในพื้นที่เปลี่ยว ปลอดคน และตามบ้านพักในพื้นที่ทั่วกรุงเทพฯ อาทิ เขตสายไหม คันนายาว พหลโยธิน และบางเขน และพื้นที่ อ.คูคต , อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี รวมกว่า 14 คัน โดยก่อนออกก่อเหตุ นายบอลฯ จะให้หมวกกันน็อกสีเขียว นายแบงก์จะใส่หมวกกันน็อกสีแดงเสริมความโชคดี ซึ่งรอดพ้นจากการถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตลอด ทั้งสองจะมีการแบ่งหน้าที่กันทำ โดยนายเจษฏาพร หรือบอล ทำหน้าที่คนขับรถตระเวนหาเหยื่อและรถ ส่วนนายธรรมนูญหรือ แบงก์ ทำหน้าที่ลักรถจักรยานยนต์ออกนอกพื้นที่และทำการต่อสายตรงโดยใช้เพียงแค่ลวดต่อวงจรไฟฟ้า จากนั้นทั้งสองจะขับรถจักรยานยนต์มาซุกซ่อนและขายต่อให้ลูกค้าประจำในพื้นที่นครราชสีมา โดยตนจะได้รับเงินจากการขายรถจักรยานยนต์คันละ 10,000–17,000 บาท
เจ้าหน้าที่ตำรวจยังสามารถขยายผลจับกุมผู้ต้องหาที่ 3 ผู้ร่วมขบวนการบรรทุกรถจักรยานยนต์ที่ลักมาขึ้นรถบรรทุกตู้จะนำไปส่งให้ผู้จ้างวานในพื้นที่นครราชสีมา เพื่อส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งได้รับค่าจ้างในการขนส่งคันละ 1,000 บาท โดยได้ทำการตรวจยึดรถจักรยานยนต์ได้เพิ่มเติมอีกจำนวน 6 คัน จากการตรวจสอบพบว่าได้แจ้งหายในพื้นที่ กรุงเทพฯ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งดำเนินการสืบสวนและติดตามกลุ่มผู้ร่วมขบวนการมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป โดยนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน สน.บางเขน ดำเนินคดีตามกฎหมาย.-สำนักข่าวไทย