ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน 3 เดือน ทรงตัวต่อเนื่องเดือนที่ 4

ตลท. 3 ธ.ค. – สภาธุรกิจตลาดทุนไทยเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้ลงทุน 3 เดือนข้างหน้า ทรงตัวต่อเนื่องเดือนที่ 4 หวังเจรจาการค้าคลี่คลาย กังวลผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนและภาวะเศรษฐกิจในประเทศ



นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนในอีก 3 เดือนข้างหน้าปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยอยู่ในเกณฑ์ทรงตัวเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน โดยผลสำรวจพบว่านักลงทุนคาดหวังการเจรจาการค้าระหว่างประเทศคลี่คลายและเงินทุนไหลเข้าเป็นปัจจัยหนุนความเชื่อมั่นนักลงทุนมากที่สุด และกังวลผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน และภาวะเศรษฐกิจในประเทศ เป็นปัจจัยฉุดความเชื่อมั่นนักลงทุนมากที่สุด


ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นรวมทุกกลุ่มนักลงทุนอีก 3 เดือนข้างหน้า หรือเดือนกุมภาพันธ์ 2563 อยู่ในเกณฑ์ทรงตัว ช่วงค่าดัชนี 80- 119 เพิ่มขึ้น 1.72% มาอยู่ที่ระดับ 87.93 โดยเดือนพฤศจิกายน 2562 ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ เคลื่อนไหวในช่วง 1,590 – 1,641 จุด มีความคาดหวังผลการเจรจาการค้าระหว่างประเทศระหว่างสหรัฐและจีนที่คาดว่าจะลงนามข้อตกลงการค้าขั้นที่ 1 ภายในปีนี้ และคาดหวังการเลื่อนหรือยกเลิกกำหนดการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจีนในกลุ่มที่ 2 จำนวน 300,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในวันที่ 15 ธันวาคม ขณะที่นักลงทุนสนใจลงทุนหมวดการท่องเที่ยวและสันทนาการ (TOURISM) รองลงมา คือ หมวดพลังงานและสาธารณูปโภค (ENERG) หมวดธุรกิจที่ไม่น่าสนใจมากที่สุด คือ หมวดสื่อและสิ่งพิมพ์ (MEDIA) รองลงมา คือ หมวดปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ (PETRO)

สำหรับทิศทางการลงทุนอีก 3 เดือนข้างหน้า ปัจจัยหนุนความเชื่อมั่นนักลงทุนมากที่สุด คือ ความคาดหวังการเจรจาการค้าของสหรัฐและจีน รองลงมา คือ การไหลเข้าออกของเงินทุน ขณะที่นักลงทุนกังวลผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนเป็นปัจจัยฉุดความเชื่อมั่นนักลงทุนมากที่สุด รองลงมา คือ ภาวะเศรษฐกิจในประเทศที่ชะลอตัวลงแม้ว่าภาคการท่องเที่ยวยังขยายตัวได้ สำหรับปัจจัยเศรษฐกิจโลกที่ต้องติดตาม ได้แก่ ความชัดเจนของข้อตกลงการค้าขั้นที่ 1 และแนวโน้มการเจรจาข้อตกลงทางการค้าขั้นที่ 2  ทิศทางอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางปี 2563 แนวโน้มอุปสงค์โลกชะลอตัว ความไม่แน่นอนของ Brexit ความต่อเนื่องของดัชนีชี้วัดความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศหลักของโลกที่เริ่มฟื้นตัวขึ้น แต่ยังอยู่ระดับต่ำสุดในรอบหลายเดือน ขณะที่ปัจจัยในประเทศที่ต้องติดตาม คือ ทิศทางผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน และนโยบายภาครัฐในการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม เป็นปัจจัยในประเทศที่ต้องติดตาม

ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินวันที่ 18 ธันวาคนี้ จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายอยู่ที่ระดับ 1.25% . – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้โรงอบลำไย อ.แม่สรวย จ.เชียงราย

เพลิงไหม้โรงงานอบลำไย อ.แม่สรวย จ.เชียงราย เจ้าหน้าที่เร่งนำรถดับเพลิงเข้าระงับเหตุ เพื่อควบคุมเพลิงไม่ให้ลุกลามไปยังพื้นที่ใกล้เคียง เบื้องต้นยังไม่สามารถประเมินความเสียหายได้

พุ่งไม่หยุดราคาทองคำโลกนิวไฮอีก คาดไปต่อถึง 3 พันดอลลาร์/ออนซ์

ราคาทองคำตลาดโลกพุ่งแตะ 2,800 ดอลลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ นักวิเคราะห์คาดมีโอกาสพุ่งต่อถึง 3,000 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่งผลราคาทองไทยวันนี้ขึ้นต่อจากราคาปิดวานนี้ และทำนิวไฮเท่าวานนี้

ข่าวแนะนำ

ศึกชิงทำเนียบขาว 2024 : คอมมาลา แฮร์ริส

รายงานศึกชิงทำเนียบขาว 2024 พาไปรู้จักกับนางคอมมาลา แฮร์ริส ที่เพิ่งได้เป็นตัวแทนพรรคเดโมแครต ไม่กี่เดือนก่อนเลือกตั้ง เปรียบเหมือนการเปลี่ยนม้าใหม่กลางศึก หากชนะได้เธอจะกลายเป็นประธานาธิบดีหญิงคนแรกของสหรัฐด้วย

เปิดโครงการ “เดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต” ครั้งที่ 10

นายกฯ ควง “คุณหญิงพจมาน-ครอบครัว” นำ ครม.-ประชาชน ร่วมโครงการเดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต ครั้งที่ 10 เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

สาว อบต.ตกใจ ตำรวจตามรอยเงิน 39 ล้านบาท ที่แท้ชื่อซ้ำกัน

สาว อบต. ตกใจ ตำรวจมาถึงที่ทำงาน ถามถึงเงิน 39 ล้านบาท ที่แท้ชื่อซ้ำกัน ยันไม่เคยรู้จัก “มาดามอ้อย-ทนายตั้ม” มาก่อน