กรุงเทพฯ 25 พ.ย. – ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ยกคำร้อง หลังดีเอสไอ ยื่นขอถอนประกันชัยวัฒน์กับพวก รวม 4 คน ในคดีฆ่าเผาบิลลี่ เพราะยังไม่พบพฤติการณ์ยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน
ช่วงบ่ายวันนี้(25 พ.ย.) ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ได้เรียกพนักงานสอบสวน กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ และ นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน และเจ้าหน้าที่อุทยาน รวม 4 คน ซึ่งเป็นผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของนายพอละจี รักจงเจริญ หรือบิลลี่ แกนนำชาวกะเหรี่ยงบ้านโป่งลึก-บางกรอย ในคดีมาซักถามนานกว่า 1 ชั่งโมง ก่อนมีคำสั่งยกคำร้องขอถอนประกันตัวนายชัยวัฒน์ และพวก รวม 4 คน หลังก่อนหน้านี้ กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ยื่นคำร้องขอให้เพิกถอนการประกันตัว เนื่องจากพิเคราะห์และไต่สวนข้อเท็จจริง เห็นว่ากรณีนี้ยังไม่พบพฤติการณ์ของผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ว่าเข้ายุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน ศาลจึงยกคำร้องประกัน
นายพรชัย พฤกษ์พิชัยเลิศ ทนายความ เปิดเผยว่า รู้สึกพอใจในคำพิจารณาของศาล ซึ่งก่อนหน้านี้ที่นายชัยวัฒน์ ให้คำมั่นต่อศาลว่าจะไม่ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน และ จะไม่เข้าไปในพื้นที่ ก็จะให้นายชัยวัฒน์และพวกปฎิบัติตามนั้น ส่วนแนวทางการต่อสู้คดีก็จะดูที่พยานหลักฐานของดีเอสไอซึ่งคาดว่าจะมีความชัดเจนในวันที่พนักงานอัยการมีคำสั่งคดี ขณะนี้เบื้องต้นก็ได้มีการเตรียมหลักฐานในการแก้ต่างไว้บ้างแล้ว
ด้านนายชัยวัฒน์ กล่าวถึง กรณีถูกโยกย้ายไปดำรงตำแหน่งผู้อำนายการสำนักทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จังหวัดปัตตานี ว่าขอให้ชาวปัตตานี ดูการทำงานของตัวเองก่อน ส่วนตัวจะทำงานอยู่ที่ไหนก็ได้ และจะปฎิบัติหน้าที่อย่างดีที่สุด โดยจะเดินทางไปปฎิบัติหน้าที่ช่วงต้นเดือนหน้า และ จะกลับมารายงานตัวต่อศาลฯในวันที่ 6 ธันวาคม 2562
สำหรับกรณีการพิจารณาคำร้องขอถอนประกัน วันนี้ มาจากเมื่อวันที่18 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ดีเอสไอได้ยื่นเอกสารหลักฐานเป็นคำให้สัมภาษณ์ของนายชัยวัฒน์ เพื่อขอให้ศาลพิจารณาถอนประกันตัวชั่วคราว นายชัยวัฒน์ และเจ้าหน้าที่อุทยานฯรวม4คน โดยให้เหตุผลการให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนของนายชัยวัฒน์ มีการกล่าวอ้างว่า การได้มาซึ่งพยานหลักฐาน ไม่เป็นความจริง และสร้างพยานหลักฐานเท็จ นอกจากนี้ยังให้สัมภาษณ์ว่า จะไปสาบานตนที่จุดเกิดเหตุ ซึ่งอาจส่งผลให้พยานที่อยู่ในพื้นที่เกิดความสับสน และ อาจทำให้พนักงานสอบสวนไม่ได้รับความร่วมมือกับคนในพื้นที่ ซึ่งถือเป็นการเข้าไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน
ขณะเดียวกันฝ่ายนายชัยวัฒน์และพวก ได้ยื่นคัดค้านคำร้องของดีเอสไอต่อศาล โดยระบุว่าการให้สัมภาษณ์เป็นเพียงการอธิบาย แสดงความเห็นโดยสุจริต อีกทั้งตั้งแต่ผู้ต้องหาทั้งหมดได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว ไม่มีใครเข้าไปในพื้นที่ รวมถึง ตำแหน่ง หน้าที่ ปัจจุบันของผู้ต้องหาทั้งหมดไม่มีอำนาจในการสั่งการดำเนินการใดๆในพื้นที่เกิดเหตุ พร้อมกันนี้ในคำคัดค้านของผู้ต้องหาให้สัญญาว่าจะไม่เข้าไปในพื้นที่เกิดเหตุและไม่ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน .-สำนักข่าวไทย