กรุงเทพฯ 25 พ.ย.-อสมท มอบเงินสมทบทุนในงานครบรอบ 67 ปี อสมท แก่มูลนิธิอุทกพัฒน์ฯ เพื่อบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืน
นายเขมทัตต์ พลเดช กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) เข้าพบ ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล ประธานกรรมการมูลนิธิอุทกพัฒน์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เพื่อมอบเงินสมทบทุนมูลนิธิฯ เป็นจำนวน 909,200 บาท ซึ่งได้รวบรวมจากหน่วยงานต่างๆ ร่วมสมทบทุน แทนการมอบกระเช้าแสดงความยินดีในงานครบรอบ 67 ปี อสมท ที่ผ่านมา เพื่อให้มูลนิธินำไปใช้ในการบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืน ณ มูลนิธิชัยพัฒนา ในการนี้ มี ดร.รอยล จิตรดอน เลขาธิการมูลนิธิอุทกพัฒน์ฯ และคณะผู้บริหารมูลนิธิฯ ร่วมในการรับมอบเงินครั้งนี้ด้วย
นับตั้งแต่ปี 2558 เป็นต้นมา บมจ.อสมทได้ประกาศเชิญชวนให้หน่วยงานและองค์กรต่างๆ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน เปลี่ยนจากการนำแจกันดอกไม้ กระเช้าดอกไม้ หรือของขวัญต่างๆ มาร่วมแสดงความยินดี ในโอกาสวันครบรอบการก่อตั้ง อสมท วันที่ 9 เมษายน เปลี่ยนเป็นการให้นำเงินมาร่วมกันสนับสนุนการดำเนินงานของมูลนิธิอุทกพัฒน์ฯแทน ซึ่งได้รับการตอบรับจากทุกภาคส่วนอย่างดียิ่ง
สำหรับพื้นที่การบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืนที่ บมจ.อสมท ให้การสนับสนุน คือพื้นที่บริเวณชุมชนบ้านศาลาดิน ตำบลมหาสวัสดิ์ อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม และชุมชนตลาดน้ำคลองลัดมะยม แขวงบางระมาด เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ
ดร.สุเมธ ได้กล่าวขอบคุณ อสมท ที่ให้การสนับสนุนการดำเนินงานของมูลนิธิอุทกพัฒน์ฯ มาโดยตลอด ทั้งการมอบเงินสนับสนุนการดำเนินโครงการเรื่องน้ำ และการนำเสนอข้อมูลข่าวสารต่างๆ ผ่านสื่อของ อสมท พร้อมยังได้เล่าให้คณะผู้บริหาร อสมท ฟังด้วยว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ทรงให้ความสำคัญกับการดูแลรักษาทรัพยากรของประเทศ ทั้งดิน น้ำ ป่าและสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะเรื่องน้ำ ทรงให้ความ สำคัญอย่างยิ่งมาก เพราะถ้าไม่มีน้ำ คนเราก็อยู่ไม่ได้ ในแต่ละปี จึงทรงใช้เวลาเสด็จฯ ไปทรงเยี่ยมราษฎรตามภาคต่างๆ ทั่วประเทศถึงปีละ 8 เดือน เป็นเวลานานต่อเนื่องถึง 70 ปี การเสด็จฯแต่ละครั้ง ล้วนเป็นพื้นที่ทุรกันดาร ห่างไกลความเจริญเพื่อไปทรงดูทุกข์สุขของราษฎรที่ยังอดอยากยากไร้ ไปทรงแก้ปัญหาให้ ทั้งเรื่องน้ำ เรื่องดิน เรื่องป่า เรื่องไร่นาที่ทำกิน เพื่อให้ราษฎรมีสภาพชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้นอย่างถ้วนหน้า
ดร.สุเมธ เล่าด้วยว่า มูลนิธิอุทกพัฒน์ฯ ได้เข้าไปให้คำแนะและสนับสนุนชุมชนต่างๆ ทั่วประเทศ ที่ประสบปัญหาเรื่องน้ำ หาที่มาของปัญหาและ หาแนวทางแก้ไข ก่อนลงมือดำเนินการปรับปรุงแก้ไขปัญหา จนประสบผลสำเร็จมาแล้วหลายชุมชน เป็นแบบอย่างให้ชุมชนอื่นๆได้มาเรียนรู้ดูงาน และนำไปประยุกต์ใช้เพื่อแก้ไขปัญหาในพื้นที่ของตนต่อไป
ด้าน นายเขมทัตต์ กล่าวว่า อสมท ในฐานะสื่อกลางสนับสนุนมูลนิธิอุทกพัฒน์ ในการบริหารจัดการด้านน้ำ ซึ่งขณะนี้ขยายไปทั่วประเทศ เพื่อการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน ขณะเดียวกันมูลนิธิฯ ยังลงไปให้ความรู้ด้านการบริหารจัดการขยะแปลงเป็นทรัพย์สิน สร้างรายได้ให้เกิดกับชุมชน โดย อสมท เห็นความสำคัญด้านบริหารจัดการน้ำ 9 เมษายนของทุกปี วันเกิดอสมท จะร่วมทำกิจกรรมกับมูลนิธิฯ ให้องค์ความรู้ด้านน้ำ แก่ชุมชน สังคม และประเทศ โดยปัจจุบัน อสมท เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยดำเนินการพัฒนาแหล่งน้ำคลองมหาสวัสดิ์และคลองลัดมะยม จัดการผักตบชวา ทำให้น้ำใสสะอาด นำผักตบมาผลิตเป็นปุ๋ย สร้างมูลค่าทางการเกษตร และรายได้สู่ชุมชน
ทั้งนี้พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรทรงให้ความสำคัญกับเรื่องน้ำมาก มีพระราชดำรัสว่า ”น้ำคือชีวิต” จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ก่อตั้งมูลนิธิน้ำขึ้น เมื่อปี2555 เพื่อสนองพระราชดำริเกี่ยวกับการพัฒนาเรื่องน้ำ พระราชทานชื่อมูลนิธิว่า “อุทกพัฒน์” มาจากคำว่า อุทก ซึ่งหมายถึง “น้ำ” และ พัฒน์ มาจากคำว่า “พัฒนา” เมื่อนำมารวมกันจึงมีความหมายว่า “มูลนิธิเพื่อการพัฒนาเรื่องน้ำ” พระราชทานตราประจำมูลนิธิ และทรงให้มูลนิธิอยู่ในพระบรมราชูปถัมภ์ พร้อมกับพระราชทานเงินทุนประเดิม 84 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินที่คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. ทูลเกล้าฯ ถวาย เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม พ.ศ.2554.-สำนักข่าวไทย
