นายจ้างกระทืบหนุ่มใหญ่อ่วม แค้นไปแจ้งความเบี้ยวค่าแรง

ปทุมธานี 22 พ.ย.-นายจ้างโหดพาพวกรุมกระทืบหนุ่มใหญ่วัย 52 ปี หลังแจ้งความทวงค่าแรงงานของพี่สาวภรรยา ผู้เสียหายไม่ติดใจ ขอให้เป็นหน้าที่ตำรวจ


หลังจากมีคลิปวิดีโอกลุ่มชายรุมทำร้ายคนขับรถเก๋ง ถูกเผยแพร่ในโลกออนไลน์ ก่อนขับรถกระบะอีซูซุ หลบหนี ซึ่งมีการแชร์คลิปออกไปจำนวนมาก

ความคืบหน้าเรื่องนี้ พ.ต.อ.พงศ์พัชร์ แจ้งหมื่นไวย์ ผกก.สภ.สวนพริกไทย ปิดเผยว่า เหตุการณ์ในคลิปเกิดขึ้นเมื่อ 21 พ.ย.62 เวลาประมาณ 11.50 น. บริเวณใกล้แยกโรงน้ำกรุงเทพน้ำทิพย์ ม.6 ต.สวนพริกไทย อ.เมือง จ.ปทุมธานี ผู้เสียหายคือนายสมบัติ นิยมมาก อายุ 52 ปี โดยก่อนเกิดเหตุผู้เสียหายได้มาเจรจากับนายจ้าง (ซึ่งเป็นกลุ่มที่ทำร้ายตนเอง) ถึงค่าจ้างค้างจ่ายของพี่สาวภรรยาที่ยังไม่ได้รับ บริเวณที่ทำการ ต.ม.ปทุมธานี เพื่อให้ทาง ตม.ไกล่เกลี่ยกรณีข้อพิพาทเรื่องค่าแรง หลังจากผู้เสียหายได้รับเงินจากฝ่ายนายจ้างแล้วได้เดินทางกลับ ระหว่างที่ขับรถมาจะถึงแยกโรงน้ำฯ ได้มีรถจักรยานยนต์ขับมาจอดขวางหน้ารถผู้เสียหาย และมีรถยนต์กระบะตามมาจอดปิดท้าย จากนั้นผู้ขี่รถจักรยานยนต์ลงมา ผู้เสียหายได้ลดกระจกรถลง ผู้ขี่รถจักรยานยนต์จับล็อกผู้เสียหาย จากนั้นนายจ้างชายได้เข้าใช้กำปั้นชกต่อยและเตะผู้เสียหาย โดยกลุ่มวัยรุ่นเป็นชายหญิงรวม 4 คน ช่วยกันจับผู้เสียหายไว้ คาดสาเหตุเพราะไม่พอใจที่ผู้เสียหายไปเรียกร้องค่าจ้างให้พี่สาวของภรรยา ส่งผลให้ผู้ได้รับบาดเจ็บมีบาดแผลที่ใบหน้าและดั้งจมูก ซึ่งพนักงานสอบสวนส่งตัวไปตรวจร่างกายไว้เป็นหลักฐาน ส่วนผู้ก่อเหตุคือ นายธันวา ทรัพย์สินไพบูลย์ อายุ 30 ปี และนางสาวกมล อ่อนเจริญ อายุ 33 ปี พร้อมกับพวกอีก 2 คน จึงเชิญตัวมาสอบสวนและดำเนินคดีทางกฎหมายต่อไป


ขณะที่นายสมบัติ นิยมมาก อายุ 52 ปี ผู้เสียหาย พร้อมภรรยาและลูก เดินทางมาที่โรงพยาบาลปทุมธานี ตำบลบางปรอก อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี เพื่อมาตรวจเช็กร่ายกายประกอบสำนวนคดี พร้อมเล่าเหตุการณ์ว่าสืบเนื่องจากวันที่ 19 พ.ย. ได้ไปแจ้งความเรื่องแรงงานต่างด้าวไม่ได้รับค่าแรงที่ สภ.สวนพริกไทย วันที่ 20 พ.ย. ทาง ต.ม.ปทุมธานี เรียกตนไปไกล่เกลี่ยแต่ตนไม่ว่าง ก็เลยนัดให้ไปวันที่ 21 พ.ย. เวลา 10.30 น. รออีกฝ่าย (กลุ่มนายจ้าง) มาถึง 11.00 น. ก็ไกล่เกลี่ยชดใช้เงินส่วนที่ค้างเสร็จ ตนก็ออกมาจาก ตม. แต่อีกฝ่ายกลุ่มนายจ้างได้เดินมาเปิดประตูพร้อมถอดกุญแจรถมาชกตนสักพักก็รุมเตะ ตนก็ทำอะไรไม่ได้เพราะโดนล็อกตัวอยู่ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนก็ไม่ได้โกรธอะไร หลังจากตรวจร่างกายแล้วหมอบอกว่าตนจมูกหัก ส่วนเรื่องของคดีตนขอให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ ตนไม่ติดใจกับกลุ่มนายจ้างแต่การกระทำที่ทำไปมันรุนแรง


นางเหม๋ง สีพันดร ภรรยาของนายสมบัติ เล่าว่าวันที่นัดไกล่เกลี่ยไม่ได้คุยกับคู่กรณีเลย ฝั่งคู่กรณีให้แฟนมาจ่ายเงินค่าจ้างที่ค้าง ทางเจ้าหน้าที่ก็ถ่ายรูปเป็นหลักฐาน แล้วตนก็ออกมา ขณะที่เดินออกมาฝั่งคู่กรณีก็มองตนแบบโกรธแค้น ตนก็เปิดประตูให้สามีออกมาก่อน ขณะที่ตนจะปิดประตูผู้หญิงก็กระชากประตูออกจากมือตน ตนก็ไปเล่าให้สามีฟังเพราะกลัว จังหวะที่ขึ้นรถเห็นคนยืนคร่อม รถ จยย.อยู่ มั่นใจว่าเป็นเพื่อนคู่กรณี ตนก็บอกสามีแต่สามีบอกว่าไม่ต้องกลัวเราเป็นฝ่ายถูก พอขับรถออกมาก็มีรถจักรยานยนต์มาขวางหน้ารถและรถกระบะมาจอดปิดหลัง แล้วก็มีคนมาเคาะประตู มีการถกเถียงกัน อีกฝั่งบอกให้ออกจากรถพร้อมดึงกุญแจรถไป เมื่อสามีเปิดประตูรถ ก็ถูกล็อคแขนก่อนถูกรุมทำร้าย ตนสงสารสามี ไม่ได้ตั้งใจให้เกิดเรื่องแบบนี้ แม่ตนก็ป่วย ตนมาทำงานหาเงินส่งกลับบ้าน ทำไมอีกฝั่งไม่เห็นใจตนบ้าง

ด้าน ร.ต.อ.เลิศวรรณ์ อุทัยนาง พนักงานสอบสวน สภ.สวนพริกไทย ได้มารอรับใบตรวจร่างกายของ นายสมบัติ นิยมมาก และนำรูปผู้ต้องหามาให้นายสมบัติ นิยมมาก ชี้ตัวผู้กระทำผิดเพื่อเรียกตัวมาสอบสวนต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

ฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ส่งสุขรับปีใหม่

ส่งความสุขรับปีใหม่ กับฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ศิลปินลูกทุ่งเกือบ 100 ชีวิต ร่วมโชว์จัดเต็ม

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

เด้ง ตร.จราจร ปมคลิปรับเงินแลกไม่เขียนใบสั่ง

ผบก.ภ.จว.นนทบุรี สั่งย้าย “รอง สว.จร.สภ.รัตนาธิเบศร์” เซ่นคลิปรับเงินแลกไม่ออกใบสั่ง พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงภายใน 3 วัน ด้านเจ้าตัวอ้างไม่เห็นเงินที่วางบนโต๊ะในตู้ควบคุมสัญญาณไฟจราจร