สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสร่วมพิธีมิสซาร่วมกับเยาวชนคาทอลิก

กทม. 22 พ.ย.-สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสเสด็จยังอาสนวิหารอัสสัมชัญบางรัก ทรงประกอบพิธีบูชามิสซาร่วมกับเยาวชนคาทอลิก พร้อมประทานโอวาท สร้างความปลื้มปีติให้แก่เยาวชนที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในพิธีศักดิ์สิทธิ์

เมื่อเวลา 15.30 น. สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสเสด็จโดยรถยนต์พระที่นั่งมาถึงจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อพบปะผู้นำคริสตชนต่างนิกาย ผู้นำ ผู้แทน ผู้ที่นับถือศาสนาอื่นๆ ในประเทศไทย อาทิ อิสลาม พุทธ ซิกส์ ฮินดู พราหมณ์ พร้อมพบกับบรรดาผู้นำสถาบันอุดมศึกษา คณาจารย์ และนิสิต นักศึกษา บริเวณหอประชุมจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย


โดยคณะนักร้องประสานเสียงจากหลากหลายกลุ่มศาสนา ประกอบด้วย คณะนักร้องประสานเสียงจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, Al-Aman Chorus จากโรงเรียนอัตตัรกียะห์อิสลามียะห์ จ.นราธิวาส และคณะนักร้องประสานเสียง Moo hkof hpau จากโรงเรียนเซนต์โยเซฟแม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ ร่วมกันขับร้องเพลง Peace Prayer เพื่อต้อนรับการมาเยือนของสมเด็จพระสันตะปาปา

จากนั้นสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสทรงปาฐกถาในหัวข้อ “Building bridges for peace and understanding” โดยใจความตอนหนึ่งว่า ในโลกปัจจุบัน สิ่งที่สำคัญและจำเป็นอย่างยิ่งคือ การยอมรับและเห็นคุณค่าของกันและกัน รวมถึงความร่วมมือระหว่างศาสนาต่างๆ เป็นสิ่งที่ทวีความสำคัญยิ่งขึ้นต่อมนุษยชาติ

โลกทุกวันนี้เผชิญกับปัญหาที่ซับซ้อน เช่น ปัญหาสังคม เศรษฐกิจการเงิน และผลกระทบที่รุนแรงต่อการพัฒนาของสังคมท้องถิ่น แม้ความเจริญก้าวหน้าที่พัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็วซึ่งดูเหมือนจะทำให้โลกดีขึ้น ในอีกทางก็มาพร้อมกับความขัดแย้งทางสังคมที่แก้ไม่ตก รวมทั้งปัญหาการอพยพย้ายถิ่นฐาน ผู้ลี้ภัย สงคราม ภาวะเหล่านี้กระตุ้นเตือนว่าทุกภาคส่วนล้วนมีส่วนที่จะช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ ช่วยกันค้นหาวิธีการใหม่ๆ โดยไม่จำเป็นต้องตำหนิหรือกล่าวโทษใคร ยุคนี้เป็นยุคที่ต้องกล้าจินตนาการถึงวิธีคิดใหม่ๆ และการหันหน้าเข้าหากัน เพื่อพูดคุยหารือ ทำงานร่วมกันควรเป็นแนวทางปฏิบัติ สำหรับการแก้ปัญหาความขัดแย้ง สร้างความเข้าใจกันระหว่างผู้คน เป็นเครื่องมือเพื่อป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้นในอนาคต โดยที่ไม่จำเป็นต้องทิ้งใครไว้ข้างหลัง

สิ่งจำเป็นที่ต้องเร่งสร้างให้เกิดในโลกปัจจุบันคือ การให้เกียรติและการเคารพศักดิ์ศรีของบุคคลทุกคน ไม่ใช่เพียงแค่ให้สนใจเสียงร้องของคนยากจน คนชายขอบสังคม คนที่ถูกกดขี่ข่มเหง กลุ่มชนชาติพันธุ์ และชนกลุ่มน้อยทางศาสนา ทุกคนทุกสิ่งควรได้รับการปกป้องศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ และเคารพสิทธิและเสรีภาพอย่างเท่าเทียม โดยมุมมองทั้งหมดนี้จำเป็นที่จะต้องมีบทบาทของสถาบันการศึกษาเข้ามาเกี่ยวข้อง ศึกษาวิจัย ซึ่งการมีองค์ความรู้จะช่วยเปิดหนทางใหม่ๆ เพื่อลดความเหลื่อมล้ำระหว่างคน เสริมสร้างความยุติธรรมในสังคม ปกป้องศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ แสวงหาวิธีแก้ไขปัญหาความขัดแย้งอย่างสันติสุข และการอนุรักษ์ทรัพยากรที่ให้ชีวิตแก่แผ่นดินโลกของเราได้


หลังเสร็จสิ้นพระกรณียกิจที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยแล้ว สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสได้เสด็จไปยังอาสนวิหารอัสสัมชัญบางรัก ซึ่งที่นั่นมีการเปิดจุดคัดกรองในเวลา 12.00 น. คริสตชนและเยาวชนจำนวนมากหลั่งไหลเพื่อเฝ้ารับเสด็จสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส มีแจกหนังสือที่ระลึกในโอกาสสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสเยือนไทยอย่างเป็นทางการ รวมถึงธงชาติ และธงตราสัญลักษณ์แจกให้ผู้ที่เข้าร่วมพิธี พื้นที่โดยรอบอาสนวิหาร มีเยาวชนกว่า 7,500 คน จาก 11 สังฆมณฑลทั่วประเทศ มีตัวแทนเยาวชนที่ได้รับคัดเลือกเข้าไปร่วมพิธีมิสซาภายในอาสนวิหาร จำนวน 700 คน

เวลา 16.00 น. สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสเสด็จถึงยังอาสนวิหารอัสสัมชัญบางรัก ทรงเปลี่ยนจากรถยนต์พระที่นั่งขึ้นรถ Pope Mobile (โป๊ป โมบิล) ทรงโบกพระหัตถ์ทักทายคริสตชนและเยาวชนคาทอลิกที่มาเฝ้ารอรับ คริสตชนต่างโบกธงปลิวไสวพร้อมเปล่งเสียง “วีว่า อิล ปาป้า” ตลอดเส้นทางการเสด็จ หลังจากนั้นสมเด็จพระสันตะปาปาทรงประกอบพิธีบูชามิสซาร่วมกับเยาวชนคาทอลิก ซึ่งเป็นภารกิจสำคัญที่พระองค์ทรงให้ความสำคัญกับคนรุ่นใหม่ พร้อมประทานโอวาทมีใจความว่า “เยาวชนนี้คืออนาคตของประเทศและโลกของเรา เป็นคนรุ่นใหม่ที่มีความหวัง มีความฝัน และมีคำถามใหม่ๆ อาจรวมถึงความสงสัยต่างๆ ให้รักษาความชื่นชมยินดีให้มีชีวิตชีวา จงอย่ากลัวที่จะมองไปในอนาคตข้างหน้า ด้วยความเชื่อมั่น จงหยั่งรากลึกลงในพระเยซูคริสต์

นอกจากนี้คณะนักร้องประสานเสียงเยาวชนคาทอลิกไทยจากสังฆมณฑลทั่วประเทศขับร้องบทเพลงอันเป็นมงคลต่อหน้าพระพักตร์ของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส มีบทเพลงที่แต่งขึ้นใหม่ อาทิ สมเด็จพระสันตปาปาเสด็จเยือนแผ่นดินสยาม, มาร์ช วีว่า อิล ปาป้า รวมทั้งให้รักเป็นสะพาน เพลงที่แต่งขึ้นสำหรับการเสด็จเยือนไทย ตัวแทนเยาวชนบอกว่าปลาบปลื้มใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่ง และเป็นการเข้าร่วมพิธีสำคัญครั้งแรกในชีวิต.-สำนักข่าวไทย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เนืองแน่นรอรับเสด็จ ‘โป๊ปฟรังซิส’ รพ.เซนต์หลุยส์
นายกฯ รับเสด็จสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส ที่ทำเนียบรัฐบาล
สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส เข้าเฝ้าสมเด็จพระสังฆราช
ปลื้มปีติรับเสด็จ ‘สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส’ อย่างใกล้ชิด
ชาวคริสต์หลั่งไหลรอร่วมพิธีบูชาขอบพระคุณพระเจ้าเย็นนี้
ประมุข 2 ศาสนา พบกระชับความสัมพันธ์
ทยอยต่อเนื่องร่วมพิธีบูชาขอบพระคุณพระเจ้าเย็นนี้
สมเด็จพระสันตะปาปาทรงชื่นชมแพทย์-พยาบาล รพ.เซนต์หลุยส์
สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส เสด็จวัดนักบุญเปโตร
จุฬาฯเตรียมพร้อมรอต้อนรับสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส
เยาวชนคาทอลิกหลั่งไหลอาสนวิหารอัสสัมชัญ รอรับเสด็จโป๊ปฟรังซิส
หลั่งไหลรอร่วมพิธีมิสซาเยาวชนช่วงเย็นนี้
นิสิตจุฬาฯ ปลื้มปีติ ร่วมรับเสด็จ ‘สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส’
อาสนวิหารอัสสัมชัญบางรักเนืองแน่นด้วยเยาวชนคาทอลิกรอร่วมพิธีมิสซา


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ

กทม. 23 ส.ค.- กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ เฝ้าระวัง “พายุดีเปรสชัน” มีแนวโน้มทวีกำลังแรงเป็นพายุโซนร้อน กระทบไทย 24-27 ส.ค.นี้ กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดตาก จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนตกสะสมที่อาจเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวตอนบน และเวียดนามตอนบน สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนมีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน และจะขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามและประเทศลาวตอนบน ในช่วงวันที่ 25–26 ส.ค. 68 ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้น กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ กับมีลมแรงบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 24–27 ส.ค. 68 -สำนักข่าวไทย

โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊ก ขรก.มหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน

ทำเนียบ 23 ส.ค.- โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊กข้าราชการมหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน ด้าน “เชษฐา” เป็นอธิบดี ปภ. ราชกิจจานุเบกษา ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงมหาดไทย พ้นจากตำแหน่ง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 6 ราย ดังนี้ ตั้งแต่วันที่ 21 ส.ค.2568 เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 22 ส.ค.2568 ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี -สำนักข่าวไทย

จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมืองโกงเงินอุดหนุน ก่อนหนีกบดานลาว

22 ส.ค. – ตำรวจภูธรภาค 1 จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมือง โกงเงินอุดหนุน 17.6 ล้านบาท หนีกบดานลาว ก่อนจนมุมถูกจับกุมได้ พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (ผบช.ภ.1), พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1, พล.ต.ต.ธรรมนูญ เชาวะวนิชย์ ผบก.ภ.จว.สระบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระพุทธบาท, ตม.จว.หนองคาย, กกต.จว.หนองคาย ร่วมกันจับกุม นายพีระวิทย์ อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ สืบเนื่องจากเมื่อปี 2562 นายพีระวิทย์ เป็นหัวหน้าพรรคการเมือง รับเงินอุดหนุนพรรคการเมือง เพื่อพัฒนาพรรคการเมือง จำนวนประมาณ 17.6 ล้านบาท โดยไม่มีการทำหลักฐานการเบิกจ่าย ทำให้ กกต. เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายพีระวิทย์ และเหรัญญิกพรรค ต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สภ.พระพุทธบาท โดยเลื่อนการเข้าให้ปากคำและแสดงหลักฐานการเบิกจ่ายเงิน และต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองได้หลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงออกหมายจับในข้อหา […]

“ธีรรัตน์” สั่งผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บาย 24 ชม. รับพายุคาจิกิ

กทม. 22 ส.ค.- “ธีรรัตน์” สั่งการผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บายรับมือผลกระทบ “พายุคาจิกิ” ตลอด 24 ชั่วโมง ย้ำ ประชาสัมพันธ์ข้อมูลให้ประชาชนรับรู้และเตรียมพร้อมอย่างต่อเนื่อง นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทยโดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ติดตามสภาวะอากาศร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับผลกระทบพายุโซนร้อน “คาจิกิ” ซึ่งพบว่าพื้นที่บางส่วนมีความเสี่ยงต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขังในเขตชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังซ้ำซาก ระหว่างวันที่ 24 – 28 สิงหาคม 2568 ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ 45 จังหวัด และกรุงเทพมหานคร นางสาวธีรรัตน์ ได้สั่งการผู้ว่าราชการจังหวัด 45 จังหวัด และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต รวมถึงกรุงเทพมหานคร กำชับให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด พร้อมกำชับให้จัดทีมปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัยเข้าประจำพื้นที่เสี่ยง เพื่อเข้าเผชิญเหตุและให้การช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงทีตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้บุคคลใดเข้าพื้นที่หากพบว่ามีความเสี่ยง ในส่วนพื้นที่ชายฝั่ง ให้สั่งห้ามนักท่องเที่ยวเล่นน้ำและห้ามเดินเรือทุกชนิดหากสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรง “ให้ผู้ว่าฯ […]

ข่าวแนะนำ

กู้ซากคานสะพานลอยคนข้ามพังถล่ม เปิดการจราจรแล้ว

23 ส.ค. – เจ้าหน้าที่เร่งหาสาเหตุคานสะพานลอยคนข้ามขนาดใหญ่ ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง มูลค่าเกือบ 7 ล้านบาท พังถล่มลงมากีดขวางถนน สาย 317 จันทบุรี–สระแก้ว ล่าสุดกู้ซากคานสะพานลอย ออกจากถนน และเปิดการจราจรได้ตามปกติแล้ว เหตุคานสะพานลอยถล่ม บริเวณพื้นที่ก่อสร้างสะพานลอยข้ามถนนสาย 317 จันทบุรี-สระแก้ว ระหว่างฝั่งขาเข้าเมือง บ้านมะทาย ต.ปัถวี ข้ามไปยังตลาดกลางเทศบาลตำบลมะขามเมืองใหม่ อ.มะขาม จ.จันทบุรี เหตุเกิดเมื่อช่วงเวลาประมาณ 22.20 น. ที่ผ่านมา เหตุดังกล่าวทำให้เกิดผลกระทบ สภาพการจราจรติดขัด ตลอดช่วงสายและบ่าย เป็นระยะทางยาวกว่า 1 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่ได้ พยายามเร่งกู้ซากสะพานลอย ประสาน นำเครื่องจักรกลหนักทั้ง รถแบ็กโฮ 3 คัน รถแบ็กโฮหัวขุดเจาะ 2 คันและรถเครนใหญ่อีก 1 คัน ระดมลงพื้นที่เกิดเหตุ โดยบริษัทผู้รับเหมา ต้องใช้รถหัวขุดเจาะ 2 คัน ทำการขุดเจาะกระแทกแผ่นคอนกรีตให้แตก จนเหลือแต่เส้นเหล็กจากนั้นได้ใช้ชุดเชื่อมทำการใช้ไฟแก๊สตัดเหล็ก แยกชิ้นส่วนของคานคอนกรีตออก […]

ตามล่านักโทษชายหลบหนีเรือนจำนนทบุรี

นนทบุรี 23 ส.ค. – นักโทษเรือนจำนนทบุรีหลบหนี ขณะออกมาทำงานนอกเรือนจำ เจ้าหน้าที่พบชุดนักโทษ ถอดทิ้งไว้ใต้สะพานมหาเจษฎาบดินทรานุสรณ์ อยู่ระหว่างไล่ติดตาม กล้องวงจรปิด บันทึกเหตุการณ์ ช่วงบ่ายวันนี้ หลังตำรวจ สภ.เมืองนนทบุรี ได้รับเเจ้งว่ามีนักโทษชายหลบหนีจากร้านหับเผย อ.เมือง จ.นนทบุรี ตรวจสอบเบื้องต้นทราบชื่อ นช.อนุชิต อายุ 29 ปี เป็นผู้ต้องขังกองนอกประจำร้านหับเผย ของเรือนจำจังหวัดนนทบุรี ชุดที่หลบหนีสวมชุดสีส้มของเรือนจำ ขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อเรมเบสต้า สีดำ ทะเบียนกรุงเทพมหานคร หลบหนี เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ พบชุดที่นักโทษสวมใส่ถอดทิ้งไว้ใต้สะพานมหาเจษฎาบดินทรานุสรณ์ อยู่ระหว่างไล่ติดตาม สำหรับ นช.อนุชิต สุขสด ถูกตำรวจ สภ.บางบัวทอง จับกุมเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2567 ข้อหาพยายามลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้น โดยใช้ยานพาหนะในการกระทำผิด หลังจับกุม สภ.บางบัวทอง นำตัวส่งเรือนจำกลางจังหวัดนนทบุรี วันที่ 27 ธันวาคม 2567 ศาลตัดสินโทษจำคุก 1 ปี โดยจะพ้นโทษในวันที่ในวันที่ […]

ผบ.ทบ. ตรวจฐานภูมะเขือ ขอบคุณกำลังพลทุ่มเทปฏิบัติงาน

23 ส.ค.- ผบ.ทบ. ตรวจเยี่ยมฐานปฏิบัติการภูมะเขือ ย้ำกำลังพลปฏิบัติงานเต็มความสามารถ ตั้งอยู่บนความปลอดภัย เมื่อวันที่ 23 ส.ค.68 พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ในฐานะ ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก (ศปก.ทบ.) พร้อม พล.ท.ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ รองเสนาธิการทหารบก พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 พล.ต.ธีรนันท์ นันทขว้าง ดำรงตำแหน่งเป็นผู้บัญชาการหน่วยข่าวกรองทางทหาร เดินทางมาตรวจเยี่ยม และรับฟังบรรยายสรุปการปฏิบัติงานของฐานการภูมะเขือ โดยมี พล.ต.สมภพ ภาระเวช ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี พร้อมด้วยฝ่ายเสนาธิการกองกำลังสุรนารี, ผู้บังคับหน่วย และหัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่ให้การต้อนรับ และร่วมปฏิบัติภารกิจ ผู้บัญชาการทหารบก รับฟังการบรรยายสรุปสถานการณ์ และการปฏิบัติงาน ณ ฐานปฏิบัติการภูมะเขือกลาง พร้อมทั้งมอบเครื่องอุปโภคบริโภคให้กับกำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่ฐานปฏิบัติการภูมะเขือ ผู้บัญชาการทหารทัพบก กล่าวขอบคุณกำลังพลทุกนายที่ทุ่มเทปฏิบัติงานอย่างเต็มกำลังความสามารถ ให้ปฏิบัติภารกิจอย่างปลอดภัย จากนั้นได้เดินดูบริเวณฐานธุรการและพื้นที่ต่างๆ บนภูมะเขือ -สำนักข่าวไทย

เร่งเคลียร์ซากสะพานลอยถล่ม ขวางถนนสาย 317 จันทบุรี-สระแก้ว

จันทบุรี 23 ส.ค.- เร่งเคลียร์ซาก! เหตุสะพานลอยคอนกรีตที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง พังถล่มขวางถนนสาย 317 จันทบุรี-สระแก้ว ส่งผลเช้านี้การจราจรติดขัดสะสม คาดเสียหายไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท เมื่อเวลาประมาณ 22.20 น. ที่ผ่านมา พื้นที่ก่อสร้างสะพานลอยข้ามถนนสาย 317 จันทบุรี-สระแก้ว ระหว่างฝั่งขาเข้าเมือง บ้านมะทาย ต.ปัถวี ข้ามไปยังตลาดกลางเทศบาลตำบลมะขามเมืองใหม่ อ.มะขาม จ.จันทบุรี กล้องวจรปิดร้านขายของชำบันทึกภาพวินาทีระทึก  ขณะคานสะพานพังถล่ม โดยยังมีคนงานเดินอยู่ใกล้กับที่เกิดเหตุหลายสิบคน โชคดีไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ จากการตรวจสอบความเสียหายในที่เกิดเหตุ เบื้องต้นพบรถเทรลเลอร์ 1 คัน และรถเครนของบริษัทรับเหมาเอกชนอีก 1 คัน ถูกคานสะพาน คอนกรีตที่หนักรวมกว่า 116 ตัน ถล่มลงมาทับพังเสียหาย กีดขวางการจราจรทั้งขาเข้าและขาออก เบื้องต้นกรมทางหลวงซึ่งเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบ ได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผู้รับเหมา เร่งดำเนินการใช้แยกคอนกรีตตัดคานสะพานออก เพื่อง่ายต่อการเคลียร์เส้นทาง เนื่องจากเป็นถนนสายหลัก ส่วนมูลค่าความเสียหายคาดไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท สอบถามเจ้าหน้าที่กรมทางหลวง ทราบข้อมูลเบื้องต้นว่าสะพานลอยแห่งนี้ มีรูปแบบการก่อสร้างประกอบด้วย เสาเตาหม้อคอนกรีตเสริมเหล็กจำนวน 2 ต้น มีความกว้างของทางเดินบนสะพาน 2.4 เมตร พร้อมราวจับและหลังคายาวตลอดทางเดินราว 36 เมตร ซึ่งครอบคลุมบันไดทั้งขาขึ้นและลง […]