ผู้บริหาร ขสมก.ยืนยันแผนเช่ารถไม่ใช่แผนแปรรูปกิจการ

ก.คมนาคม 21 พ.ย. – คมนาคม-ขสมก.ยืนยันการจัดหารถใหม่ วิธีเช่าไม่ใช่การแปรรูป ขสมก. ขณะที่เวทีเวิร์คช็อปคุกรุ่น สุดท้ายต้องยุติ โดยกระทรวงคมนาคมให้ผู้บริหารกลับไปทำความเข้าใจกับสหภาพและพนักงาน


ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการประชุม Workshop แผนฟื้นฟูกิจการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ หรือ ขสมก.ที่กระทรวงคมนาคมวันนี้คุกรุ่นตั้งแต่ช่วงเช้า โดยมีกลุ่มสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ ขสมก.ส่วนหนึ่งมาชุมนุมหน้ากระทรวงคมนาคม พร้อมใช้รถขยายเสียง โดยอ้างว่าการจัดเช่ารถเมล์ตามแนวทางการปรับปรุงแผนฟื้นฟูกิจการครั้งนี้เป็นการแปรรูปกิจการของ ขสมก. 


หลังจากนั้นเมื่อถึงเวลาประมาณ 13.00 น. ก่อนเริ่มการประชุมกลุ่มสหภาพได้ทำการเจรจากับนายสุชาติ โชคชัยวัฒนากร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงคมนาคม เบื้องต้นจะให้มีการส่งตัวแทนของสหภาพฯ เข้าร่วมรับฟังการประชุม Workshop แต่กลุ่มสหภาพยืนยันจะนำสมาชิกที่มาเข้ารับฟังทั้งหมด ทำให้เกิดการโต้เถียงกัน และท้ายที่สุดผู้บริหารกระทรวงคมนาคมได้มีการหารือกันและได้ตัดสินใจยุติเลื่อนการประชุม Workshop เพื่อให้ผู้บริหาร ขสมก.ไปทำความเข้าใจกับสหภาพฯ และพนักงาน 

ก่อนการประชุมมีช่วงหนึ่งนายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก และและนายสุระชัย เอี่ยมวชิรสกุล ผู้อำนวยการ ขสมก. ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนถึงข้อดีในการปรับปรุงแผนฟื้นฟูกิจการในส่วนของการจัดหารถใหม่ โดยวิธีจัดเช่ารถของเอกชนเอามาให้ ขสมก. วิ่งและจ่ายค่าตอบแทนตามระยะทาง ตามจริง

นายสุระชัย กล่าวว่า การปรับปรุงแผนฟื้นฟูกิจการครั้งนี้ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงแผนทั้งหมด แต่ดำเนินการเฉพาะ 2 ประเด็น คือ การจัดหารถใหม่และการปรับปรุงเส้นทางเท่านั้น โดยยืนยันว่าการเช่ารถมาวิ่งให้บริการจะไม่ส่งผลกระทบให้มีการปลดพนักงานในส่วนของคนขับรถที่มีประมาณ 5,500 คน โดยจะเป็นการใช้คนขับของ ขสมก. พนักงานเหล่านี้ก็จะปฎิบัติงานจนกว่าจะเกษียณอายุ ซึ่งทุกปีก็จะมีพนักงานเกษียณอายุ 200-300 คน โดย ขสมก.จะไม่มีการรับพนักงานเพิ่ม


นอกจากนี้ ขสมก.ยังมีผลศึกษาชัดเจนว่าการเช่าและ ขสมก.จ่ายค่าตอบแทนให้แก่เอกชนที่นำรถมาให้เช่าตามระยะทางจริงนั้น มีต้นทุนต่ำกว่าการจัดหารถโดยการจัดซื้อ เนื่องจากไม่ต้องแบกรับค่าซ่อมบำรุง หรือ มีค่าใช้จ่ายอื่น ๆ แม้ว่ารถต้องจอดไม่ได้ทำการวิ่ง ส่วนการปรับปรุงแผนฟื้นฟู  ยังมีการปรับปรุงเส้นทางเดินรถใหม่จากเดิมที่มี 269 เส้นทาง แม้วันนี้จะยังไม่สามารถสรุปได้ว่าจะมีเส้นทางเท่าใด แต่เป้าหมายในการปรับปรุงเส้นทาง เพื่อลดปัญหาการเดินรถที่ซ้ำซ้อน เช่น เส้นทางผ่านอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ปัจจุบันมีรถเมล์หลายสาย ทั้งรถร่วมเอกชนและรถของ ขสมก.วิ่งผ่าน หากแก้ปัญหาความซ้ำซ้อนตรงนี้ เพื่อนำรถไปเพิ่มความถี่ในการเดินรถเข้าพื้นที่ดังกล่าว ก็จะทำให้ประชาชนผู้ใช้บริการได้ประโยชน์อย่างเต็มที่ รวมทั้งยังเป็นแนวทางแก้ปัญหาการทับซ้อนเส้นทาง ซึ่งสิ้นเปลืองพลังงานและเกิดฝุ่นควันที่ทำลายมลพิษ

ส่วนการกำหนดค่าโดยสารตั๋ววัน 30 บาทนั้น ประชาชนจะเดินทางกี่เที่ยวก็ได้ ซึ่งรถที่จัดเช่าทั้งหมดเป็นรถปรับอากาศ เชื่อว่าจะเป็นราคาที่คุ้มค่าในการเดินทางต่อวัน หากประชาชนต้องจ่ายและลดค่าครองชีพในการเดินทางได้เป็นอย่างดี

“ยืนยันว่าการจัดหารถเช่ายังเท่าเดิม 3,000 คัน แต่แผนการจัดหารถด้วยวิธีนี้จะมีต้นทุนต่ำกว่าการจัดซื้อแน่นอน ถือเป็นแนวทางที่เกิดประโยชน์ทุกฝ่าย ทั้งองค์กร ขสมก.เองและผู้ใช้บริการ” นายสุระชัย กล่าว

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ชี้แจงกรณียกเลิกการประชุมเชิงปฏิบัติการการปรับปรุงแผนฟื้นฟูกิจการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) วันนี้ ว่า แผนฟื้นฟู ขสมก.ฉบับที่จะนำเสนอในการประชุมเชิงปฏิบัติการ (work shop) และถูกประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ ขสมก.ยื่นเรื่องให้เลื่อนการประชุม ทำให้ไม่สามารถจัดประชุม work shop 

สำหรับแผนฟื้นฟู ขสมก.ที่จะ work shop วันนี้ มีรายละเอียดดังนี้ 1.ทำให้ประชาชนใช้บริการถูกลงสามารถเดินทางด้วยรถ ขสมก.ทั้งระบบวันละ 30 บาทตลอดทั้งวัน ไม่จำกัดจำนวนเที่ยว จำนวนสายรถ หากเป็นตั๋วรายเดือนจะราคาเพียง 750 บาท หรือคิดเป็นวันละ 25 บาท  2.ไม่ก่อหนี้สาธารณะ เพราะไม่ซื้อรถ 3,500 คัน ตามแผนฟื้นฟูฉบับเดิม แต่จะใช้วิธีบริหารจัดการจ้างรถมาวิ่งแทน ซึ่งจะไม่มีภาระซ่อมบำรุงและค่าซื้อรถ  3.ปรับสายทางให้รถโดยสารประจำทาง (รถเมล์) ไม่วิ่งทับซ้อนกัน สามารถลดจำนวนรถเมล์ เดิมจดทะเบียนอนุญาตประมาณ 6,000 คัน เหลือเพียง 3,000 – 3,500 คัน 4. กำหนดรถเมล์ที่จะจ้างเช่าวิ่งต้องเป็นรถใช้พลังงานไม่สร้างปัญหาสิ่งแวดล้อม โดยจะต้องเป็นรถที่ใช้พลังงานไฟฟ้าหรือ NGV และเป็นรถปรับอากาศเท่านั้น 5.ดูแลสวัสดิการพนักงานแบบเดียวกับแผนฟื้นฟูฉบับก่อนทุกประการ

“เสียดายวันนี้ไม่สามารถจัดประชุม work shop  ทำให้การฟื้นฟู ขสมก.ต้องล่าช้าออกไปและรถเมล์ก็ไม่มีการปรับปรุงให้ดีขึ้น ยังเป็นรถร้อน ราคาแพงกว่ารถปรับอากาศที่แผนฟื้นฟูใหม่เสนอมา” นายศักดิ์สยาม กล่าว

ทั้งนี้ ได้สั่งการให้นายสุระชัย เอี่ยมวชิรสกุล ผู้อำนวยการ ขสมก. ทำความเข้าใจกับสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจว่าต้องการสิ่งใด แต่ขอให้เป็นประโยชน์กับประชาชนและการฟื้นฟูกิจการ ขสมก. จะกำหนดวันจัดประชุมทำ work  shop ต่อไปโดยเร็วที่สุด.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

เพื่อไทย ยังไม่มีแกนนำเข้าพรรค รอลุ้นมติ ปชน.บ่ายนี้

พรรคเพื่อไทย 1 ก.ย.-เพื่อไทย ยังไม่มีแกนนำเข้าพรรค แยกปฏิบัติภารกิจแต่ละกระทรวง รอลุ้นมติ ปชน.บ่ายนี้ ด้าน “ชัยเกษม” ลั่นไม่ต้องห่วงเรื่องความพร้อม เพื่อชาติบ้านเมืองไม่มีปัญหา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเมื่อวานนี้ (31 ส.ค.) แกนนำ ซึ่งนำโดย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะปฏิบัติหน้านายกรัฐมนตรี นำคณะเจรจาแกนนำไปพูดคุยขอเสียงสนับสนุนจากพรรคประชาชน บรรยากาศที่พรรคเพื่อไทยตั้งแต่ช่วงเช้าไม่พบแกนนำพรรคเดินทางเข้ามา โดยจากการสอบถามทุกคนยังคงปฏิบัติภารกิจตามงานของกระทรวง มีเพียงสื่อมวลชนที่เข้ามาเกาะติดสถานการณ์ อย่างไรก็ตาม คาดว่าหลังพรรคประชาชนมีมติออกมาว่าจะสนับสนุนแคนดิเดตนายกฯ ฝ่ายใดนั้น แกนนำพรรคเพื่อไทย จะมีความเคลื่อนไหวออกมาแน่นอน ด้านนายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า ตนเองมีความพร้อมในการเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งหากพรรคเพื่อไทยมีมติอย่างไร ก็ว่ากันไปตามนั้น “ไม่ต้องห่วงเรื่องความพร้อม ตนพร้อมทำหน้าที่ เพื่อชาติบ้านเมือง ไม่มีปัญหา” นายชัยเกษม กล่าว ส่วนเรื่องการยอมรับเงื่อนไขจากพรรคประชาชน นั้น นายชัยเกษม ระบุว่า ก็เป็นไปตามที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรี ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย ได้ให้สัมภาษณ์ไปแล้วเมื่อวานนี้ และถือว่าให้เป็นไปตามมติของแกนนำพรรค.-316.-สำนักข่าวไทย

วางบึ้ม-เผายางรถยนต์ 5 อำเภอ 6 จุด จ.นราธิวาส

นราธิวาส 1 ก.ย.-ใต้ป่วนหนัก วางระเบิด-เผายางรถยนต์ 5 อำเภอ 6 จุดในพื้นที่นราธิวาส กล้องวงจรปิดจับภาพชัด เจ็บ 2 ราย รายงานข่าวจากพื้นที่ จ.นราธิวาส แจ้งว่า ในช่วงคืนที่ผ่านมาตั้งแต่เวลา 19.50 น. ของคืนวันที่ 31 ส.ค.68 ถึงเวลา 00.30 น. ของคืนวันที่ 1 ก.ย.68 ได้มีกลุ่มสมาชิกผู้ก่อเหตุรุนแรง ได้มีการประชุมวางแผนกระจายกำลังกันก่อเหตุเผายางรถยนต์ และลอบวาระเบิดในพื้นที่ 5 อำเภอ ของ จ.นราธิวาส ประกอบด้วย อ.สุไหงปาดี, จะแนะ, บาเจาะ, เจาะไอร้องและศรีสาคร ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตรวจพบ จำนวน 6 จุด มีผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 2 ราย รถยนต์ได้รับความเสียหาย 1 คัน พร้อมกันพื้นที่จุดเกิดเหตุและได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อเข้าทำการตรวจสอบในช่วงสายของวันนี้ โดยจุดแรก เกิดขึ้นเมื่อเวลา 19.50 น. ของคืนวันที่ […]

“บิ๊กเต่า” ยันไม่น้อยใจ หลังหลุดโผแต่งตั้ง-โยกย้าย

กทม. 1 ก.ย.-“บิ๊กเต่า” ยันไม่น้อยใจ หลังหลุดโผแต่งตั้ง-โยกย้าย เผยชีวิตนี้ผ่านอะไรมาเยอะ ยันทำเพื่อส่วนรวมไม่ใช่เพื่อตนเอง หลังจากนี้จะเดินหน้าทำงานต่อไปและทำงานให้หนักขึ้น จากการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) เมื่อวานนี้ใช้เวลานานถึง 8 ชั่วโมงจัดทำบัญชีรายชื่อ ซึ่งมีตำรวจที่ได้รับการแต่งตั้งโยกย้ายครั้งนี้ 250 นาย แต่ปรากฎว่า พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ไม่มีชื่อในการแต่งตั้งโยกย้าย ซึ่งก่อนหน้านี้ออกมาเปิดหน้ายื่นขอความเป็นธรรมกับ นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ เปิดเผยว่า ไม่น้อยใจที่ไม่ได้รับการแต่งตั้ง ซึ่งก่อนหน้านี้เคยให้สัมภาษณ์ไปแล้วว่าอยากให้คนทำงานมีโอกาสได้รับการแต่งตั้ง สำหรับคนที่ได้รับการแต่งตั้งก็ยินดีและดีใจด้วย อย่าง พลตำรวจตรีนพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้บัญชาการประจำสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพราะเป็นคนเก่งและมีความสามารถ ทำงานด้านสืบสวน มองว่าหากตนเองไม่ออกมาให้สัมภาษณ์และให้มีการแก้ไขก็คงแก้ยากเพราะทุกคนไม่มีรายชื่อเข้าไป เพราะฉะนั้นตนเองก็เห็นด้วยที่ ก.ตร. เข้ามาแก้ไขปัญหา ส่วนที่ตนเองไม่ได้เลื่อนตำแหน่งก็ไม่เป็นไร เพราะเชื่อว่าการทำเพื่อส่วนรวมและให้ระบบเดินต่อไปได้เป็นสิ่งที่ดี และอยากสร้างมาตรฐานอีกหนึ่งอย่างคือ อยากเห็นแนวทางการพิจารณาเรื่องการแต่งตั้งในหมวดความรู้ความสามารถ อยากให้คณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ (ก.พ.ค.ตร.) หาแนวทางในการให้ความเป็นธรรมกับตำรวจที่จะมีการแต่งตั้งในระดับผู้บัญชาการและรองผู้บัญชาการในปีต่อไป หลังจากนี้จะต้องปรึกษากับฝ่ายกฎหมายว่าการพิจารณาต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นในการประชุมคณะกรรมการชุดเล็กและชุดใหญ่ ควรนำหลักการอะไรมาพิจารณาเพื่อความเป็นธรรมกับเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย และเพื่อประโยชน์กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการเป็นขวัญกำลังใจ ทำให้ตำรวจและส่วนรวมได้มีความมุมานะในการทำงานเพื่อประโยชน์ของประชาชน […]

เปิดโผตำรวจ ประชุม ก.ตร. กว่า 8 ชม. แต่งตั้งนายพล 250 ตำแหน่ง

1 ก.ย. – เปิดโผตำรวจ ประชุม ก.ตร. กว่า 8 ชม. บัญชีแต่งตั้งนายพลตำรวจ 250 ตำแหน่ง “บิ๊กเต่า” แห้ว “นพศิลป์” ได้ขึ้น พล.ต.ท. เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 31 สิงหาคม 2568 ที่ห้องศรียานนท์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ในฐานะรองประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (รองประธาน ก.ตร.) เป็นประธานการประชุม ก.ตร. ครั้งที่ 8/2568 วาระแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจ ระดับผู้บังคับการ (ผบก.) ถึง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ประจำปี 2568 โดยแต่งตั้งเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น และโยกย้ายสับเปลี่ยน กว่า 250 ตำแหน่ง ทั้งนี้ ก.ตร.ครบองค์ประชุม ขาดเพียงนายภูมิธรรม […]