ขสมก.ลุยสกัดโควิด-19 ให้ผู้โดยสารสแกนคิวอาร์โค้ดบนรถทุกครั้ง

กรุงเทพฯ 10 มิ.ย. – ขสมก.ขอความร่วมมือผู้ใช้บริการสแกนคิวอาร์โค้ดบนรถโดยสารทุกครั้ง เพื่อเก็บประวัติการเดินทาง กรณีมีผู้ติดเชื้อโควิด – 19


นายสุระชัย เอี่ยมวชิรสกุล ผู้อำนวยการ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผยว่า ขสมก.พร้อมยกระดับความสะดวก ปลอดภัยของผู้ใช้บริการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด – 19 โดยได้นำคิวอาร์โค้ด (QR Code) แอปพลิเคชั่นไทยชนะมาติดตั้งในรถโดยสาร ขสมก.ทุกคัน  

นอกจากนี้ ขอความร่วมมือผู้ใช้บริการให้ทำการสแกนคิวอาร์โค้ดเช็คอินเมื่อขึ้นใช้บริการ และเช็กเอาท์ก่อนลงจากรถโดยสารทุกครั้ง เพื่อเก็บบันทึกข้อมูลการเดินทางเพิ่มความรวดเร็วในการสืบสวนโรคของแพทย์  กรณีมีการติดเชื้อโควิด – 19


“ขสมก.สนองนโยบายศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด – 19) หรือ ศบค.ที่ต้องการติดตามผลและควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด – 19 โดยขอความร่วมมือทุกภาคส่วนทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในการนำคิวอาร์โค้ด แอปพลิเคชั่นไทยชนะมาติดตั้ง ณ สถานที่ทำการ รวมถึงบนรถโดยสารสาธารณะ เพื่อเก็บบันทึกประวัติการเดินทาง  และเพิ่มความรวดเร็วในการสืบสวนโรคของแพทย์  กรณีที่มีผู้ติดเชื้อโรคโควิด – 19” นายสุระชัย กล่าว

อย่างไรก็ตาม ขสมก.ได้นำคิวอาร์โค้ดดังกล่าวทยอยติดตั้งภายในรถโดยสารให้ครบทุกคัน บริเวณด้านหน้า ช่วงกลางรถ  ช่วงหลังรถ และหลังเบาะที่นั่ง  จึงขอความร่วมมือจากผู้ใช้บริการในการสแกนคิวอาร์โค้ดเช็คอินเมื่อขึ้นใช้บริการและเช็กเอาท์ก่อนลงจากรถโดยสารทุกครั้ง ตั้งแต่วันที่ 11 มิถุนายน 2563 เป็นต้นไป  

ทั้งนี้ ในส่วนของสำนักงานใหญ่และสำนักงานเขตการเดินรถ ขสมก.ได้นำคิวอาร์โค้ดแอปพลิเคชั่นไทยชนะ  มาติดตั้ง พร้อมกำชับให้พนักงานและบุคคลภายนอกทำการสแกนคิวอาร์โค้ดเช็คอินเมื่อเข้าพื้นที่ และเช็คเอาท์ก่อนออกจากพื้นที่ทุกครั้ง โดยเริ่มปฏิบัติตั้งแต่กลางเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัย ลดความเสี่ยงของพนักงานและประชาชนในการติดเชื้อโควิด – 19.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย