ธปท.ระบุหนี้เสียธุรกิจขนาดกลางเพิ่ม เหตุสงครามการค้า-เศรษฐกิจชะลอพ่นพิษ

กรุงเทพฯ 18 พ.ย. – ธปท.ระบุเศรษฐกิจชะลอ – สงครามการค้า กระทบธุรกิจขนาดกลางหนี้เสียเพิ่ม  มองไตรมาส 4 /62 สินเชื่อจะขยายตัวขึ้น หลังไตรมาส 3/62 โตเพียงร้อยละ 3.8


นายธาริฑธิ์ ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายตรวจสอบและวิเคราะห์ความเสี่ยงสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า การชะลอตัวอย่างต่อเนื่องของเศรษฐกิจส่งผลกระทบต่อคุณภาพสินเชื่อของระบบธนาคารพาณิชย์ โดยไตรมาส 3/2562 หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 2.95 เป็นร้อยละ 3.01 ยอดคงค้าง NPL อยู่ที่ 469,500 ล้านบาท โดย NPL ธุรกิจ SME เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 4.52 เป็น 4.75 โดยธุรกิจขนาดกลางที่มีขนาด 100- 500 ล้านบาท เริ่มได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจ โดยธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการกีดกันทางการค้าเป็นหนี้เสียเพิ่มขึ้น เช่น กลุ่มอาหาร อิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์และชิ้นส่วน ซึ่ง ธปท.ต้องการให้ธนาคารดูแลลูกค้ากลุ่มนี้เป็นพิเศษ  ช่วยเหลือในภาวะที่ธุรกิจหยุดชะงัก เช่นเดียวกับ NPL สินเชื่อที่อยู่อาศัย รถยนต์ และบัตรเครดิตที่สูงขึ้นต่อเนื่อง จากร้อยละ 2.74 เป็น 2.81  ซึ่ง ธปท.ต้องการให้ธนาคารดูแลการปล่อยสินเชื่ออย่างมีความระมัดระวังไม่ให้กลุ่มเปราะบางเป็นหนี้สินเพิ่ม เพราะมีแนวโน้มที่จะเป็น NPL ในอนาคต


ส่วนผลของมาตรการ LTV หลังบังคับใช้มา 6 เดือน พบว่ามาตรฐานการปล่อยสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ดีขึ้นผู้ซื้อสามารถซื้อที่อยู่อาศัยในราคาที่เข้าถึงได้มากขึ้น การกู้ซื้อที่อยู่อาศัยสัญญาแรกขยายตัวร้อยละ 8.8 แต่ยอมรับการกู้ซื้อที่อยู่อาศัยสัญญาที่ 2 ลดลงร้อยละ 14 และกู้สัญญาที่ 3 ขึ้นไปลดลงมากร้อยละ 31.4 โดยเฉพาะคอนโดมิเนียม ทำให้การเก็งกำไรในคอนโดมิเนียมลดลง

นายธาริฑธิ์ กล่าวว่า แม้สินเชื่อระบบธนาคารพาณิชย์ไตรมาส 3 ปี 2562 เติบโตลดลงต่อเนื่องจากร้อยละ 4.2 ในไตรมาสก่อน มาอยู่ที่ร้อยละ 3.8  โดยเฉพาะสินเชื่อธุรกิจ SME หดตัวร้อยละ 1.0 จากที่ขยายตัวร้อยละ 0.1 ในไตรมาสก่อน  แต่ยังเชื่อว่าไตรมาส 4 ปี 2562 การขยายตัวของสินเชื่อจะดีขึ้น เพราะมองว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวดีขึ้น การลงทุนภาครัฐ ภาคเอกชนจะขยายตัว ทำให้การขอสินเชื่อโตตามไปด้วย โดยตามปกติสินเชื่อจะขยายตัวสูงกว่าจีดีพีประมาณ 1.5 เท่า หากเศรษฐกิจไทยโตได้ร้อยละ 3 สินเชื่อธนาคารพาณิชย์จะขยายตัวประมาณร้อยละ 3-5 และเมื่อเศรษฐกิจขยายตัวดีก็จะมีผลช่วยให้สถานการณ์ NPL ดีขึ้นเช่นกัน 

ส่วนการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ของธนาคารพาณิชย์ส่งผลต่อกำไรของธนาคารพาณิชย์ในระดับที่บริหารจัดการได้ โดยไตรมาส 3 ปี 2562 ธนาคารพาณิชย์มีกำไรสุทธิ 96,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน ขณะที่รายได้ดอกเบี้ยสุทธิต่อสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดรายได้ดอกเบี้ยเฉลี่ยทรงตัวร้อยละ 2.74 ซึ่งระบบธนาคารพาณิชย์มีความมั่นคงและมีเสถียรภาพ สามารถรองรับความท้าทายจากความไม่แน่นอนของภาวะเศรษฐกิจได้.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย