ไทย-สหรัฐลงนามแถลงการณ์วิสัยทัศน์ร่วมด้านการป้องกันประเทศ

กระทรวงกลาโหม 17
พ.ย.-นายกรัฐมนตรี ต้อนรับการเยี่ยมคำนับ รมว.กห.สหรัฐฯ
และลงนามแถลงการณ์วิสัยทัศน์ร่วมด้านการป้องกันประเทศ


พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษก กห. เปิดเผยว่า
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ให้การต้อนรับการเยี่ยมคำนับของ
นายมาร์ค เอสเปอร์ (
Mark Esper ) รมว.กห.สหรัฐอเมริกา ณ ศาลาว่าการกลาโหม ในโอกาสเดินทางเยือนไทย
เพื่อเข้าร่วมประชุม
ADMM – Plus  ซึ่งทั้งสองฝ่าย
ชื่นชมและเน้นย้ำความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างไทย – สหรัฐฯ
ในฐานะพันธมิตรเก่าแก่  โดย  พล.อ.ประยุทธ์
ยืนยันว่าความสัมพันธ์ ไทยกับสหรัฐฯ มีความผูกพันมายาวนาน
และมีรากฐานที่มั่นคง ที่พัฒนามาจากความร่วมมือทางทหาร เศรษฐกิจ และการค้า ทั้งนี้
ความร่วมมือทางทหารระหว่างสองประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการศึกษา และการฝึก
Cobra Gold มีส่วนสำคัญในการเสริมสร้างศักยภาพของกองทัพ
และขีดความสามารถในการปฏิบัติการร่วมกัน
ซึ่งนอกจากจะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อกองทัพของทั้งสองประเทศแล้ว
ยังเกิดประโยชน์ต่อประชาชน และภูมิภาคโดยรวมอีกด้วย

พล.อ.คงชีพ กล่าวว่า ด้่านนายมาร์ค เอสเปอร์
ได้ชื่นชมการเป็นประธานอาเซียนของไทย รวมทั้งการจัดการประชุมในกรอบ
ADMM และ ADMM-Plus ที่เป็นไปอย่างดีเยี่ยม
รวมทั้งขอบคุณไทย
ที่ได้ร่วมเป็นเจ้าภาพจัดการฝึกร่วมผสมทางทะเลระหว่างอาเซียนกับสหรัฐฯ (
ASEAN – U.S. Maritime
Exercise)
เป็นครั้งแรกที่ผ่านมา
และการเป็นประธานร่วมคณะทำงานผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงทางทะเล (
EWG on Maritime
Security )
ในวงรอบถัดไป โดยสหรัฐฯ
ยึดมั่นในการสนับสนุนความเป็นแกนกลางของอาเซียน
รวมทั้งบทบาทของไทยในการขับเคลื่อนความร่วมมือ เพื่อเสริมสร้างเสถียรภาพและความมั่นคงในภูมิภาค



ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้น ได้ร่วมลงนาม
ในแถลงการณ์วิสัยทัศน์ร่วมระหว่าง ไทย – สหรัฐอเมริกา ค.ศ. 2020
ว่าด้วยการเป็นพันธมิตรด้านการป้องกันประเทศ โดยเน้นย้ำถึง
ความสำคัญของการเป็นพันธมิตรด้านการป้องกันประเทศระหว่างกันที่ยาวนาน ความเป็นหุ้นส่วนเสริมสร้างความร่วมมือด้านความมั่นคงที่ยั่งยืน
ซึ่งรวมถึงการฝึกและศึกษา การเสริมสร้างขีดความสามารถการปฏิบัติการร่วมกัน
และการพัฒนาหน่วยงานความมั่นคงและการทหารให้มีความทันสมัย
เพื่อการเติบโตและแข็งแกร่งไปด้วยกัน ซึ่งการร่วมลงนามในแถลงการณ์วิสัยทัศน์ร่วมฯ
เป็นสิ่งที่สะท้อนถึงการยกระดับความเป็นพันธมิตรและความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ระหว่างทั้งสองประเทศได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ก
ารลงนามร่วมกันระหว่าง กห.ไทย-
สหรัฐอเมริกา จะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาความสัมพันธ์ทางทหารที่แน่นแฟ้น โดยเป็นส่วนหนึ่งของความสัมพันธ์ในมิติอื่นๆ
ทั้งทางการทูต เศรษฐกิจและวัฒนธรรม
ที่มุ่งมั่นให้มีความเข้มแข็งและยั่งยืนไปด้วยกั
น. สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้ห้องพักคอนโดฯ หรูกลางเมืองพัทยา

เพลิงไหม้คอนโดมิเนียมหรูกลางเมืองพัทยา จ.ชลบุรี เจ้าหน้าที่ระดมรถน้ำควบคุมเพลิงได้ทัน ทำให้ไฟไม่ลุกลามห้องข้างเคียง

จับ “ใบเฟิร์น” อินฟลูฯสาวชื่อดัง โพสต์ชวนเล่นพนันออนไลน์

ตำรวจไซเบอร์ รวบ “ใบเฟิร์น กุลธาดา” อินฟลูฯ สาวแนวเซ็กซี่ ผู้ติดตามหลักล้าน แปะลิงก์เว็บพนันออนไลน์ เจ้าตัวยอมรับ ทำมาแล้ว 2-3 เดือน

ลิงลพบุรีแหกกรง กว่า 200 ตัว จ่าฝูงนำทีมบุกโรงพัก

ลิงลพบุรีกรงแตก เพ่นพ่านกว่า 200 ตัว จ่าฝูงนำทีมบุกโรงพักท่าหิน ตำรวจปิดประตูหน้าต่างวุ่น ล่าสุดกลับมากินอาหารในกรงแล้วกว่า 100 ตัว กรมอุทยานฯ เร่งลุยจับ คาดใช้เวลา 2-3 วัน

ข่าวแนะนำ

คุมตัวสาวใหญ่โหดฆ่าตัดนิ้วชิงทรัพย์ทำแผนฯ

ตร. คุมตัวสาวใหญ่โหด ลวงเพื่อนฆ่าตัดนิ้วชิงทรัพย์ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เจ้าตัวสำนึกผิด ฝากขอโทษญาติผู้เสียชีวิต ยอมรับทำเพราะติดหนี้พนันออนไลน์

Drone video captures severe flooding caused by super typhoon Man-Yi in the Philippines

ฟิลิปปินส์น้ำท่วมหนัก หลังไต้ฝุ่น “หม่านหยี่” ถล่ม

มะนิลา 18 พ.ย. – ฟิลิปปินส์เกิดน้ำท่วมรุนแรงในหลายพื้นที่ หลังจากซูเปอร์ไต้ฝุ่นหม่านหยี่ (Man-yi) พัดถล่มเกาะลูซอน ช่วงสุดสัปดาห์ เป็นไต้ฝุ่นลูกที่ 6 ในรอบ 1 เดือน ไต้ฝุ่นขึ้นฝั่งด้วยความเร็วลมสูงสุด 240 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำให้เกิดคลื่นสูง 7 เมตรบริเวณริมชายฝั่ง ส่งผลกระทบประชากรกว่า 760,000 คน และทำให้เกิดน้ำท่วมรุนแรงในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะที่จังหวัดนูเอวาเอซีฮา ทางตอนกลางของเกาะลูซอน ที่มีน้ำท่วมสูงเฉลี่ยเกือบ 1 เมตร นอกจากนี้ยังทำให้เกิดดินถล่มและสาธารณูปโภคพังเสียหายมากมาย ประชาชนมากกว่า 1 ล้านคนต้องอพยพไปอาศัยอยู่ในศูนย์พักพิงชั่วคราว ขณะนี้ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ พายุหม่านหยี่เป็นพายุไต้ฝุ่นลูกที่ 6 ที่พัดถล่มฟิลิปปินส์ในช่วง 1 เดือน ทั่วทั้งประเทศต้องตื่นตัวเพื่อรับมือภัยพิบัติด้วยมาตรการต่าง ๆ.-812(814).-สำนักข่าวไทย

ฆ่าตัดนิ้ว

เปิดปากสารภาพฆ่าตัดนิ้วแม่ยายอัยการ ชิงทรัพย์ล้างหนี้พนัน

หญิงวัย 56 ปี เปิดปากสารภาพฆ่าตัดนิ้วชิงทรัพย์แม่ยายอัยการ ก่อนนำทรัพย์สินไปขายใช้หนี้พนัน ตำรวจคุมตัวไปตามหาทรัพย์สินของกลาง อ้างลงมือก่อเหตุคนเดียว