ไทย-จีน
ลงนามความร่วมมือทางทหารและป้องกันประเทศ
กระทรวงกลาโหม
17พ.ย.-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกลาโหม ให้การต้อนรับการเข้าเยี่ยมคำนับของ
พล.อ.เว่ย เฟิ่งเหอ มนตรีแห่งรัฐ และ รัฐมนตรีกลาโหมสาธารณรัฐประชาชนจีนและคณะ พร้อมลงนามบันทึกความเข้าใจและส่งเสริมความร่วมมือในการป้องกันประเทศ
พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์
โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกลาโหม ได้ให้การต้อนรับการเข้าเยี่ยมคำนับของ พล.อ.เว่ย
เฟิ่งเหอ (Wei Fenghe) มนตรีแห่งรัฐ และ
รัฐมนตรีกลาโหมสาธารณรัฐประชาชนจีนและคณะ ณ ศาลาว่าการกลาโหม
ทั้งสองฝ่ายได้ชื่นชมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่ยั่งยืนและยาวนาน
และเห็นพ้องร่วมกัน ในการเพิ่มพูนและพัฒนาการทางทหารระหว่างกันให้มากขึ้น โดย
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวขอบคุณ และยืนยันว่า ไทยพร้อมสนับสนุนโครงการหนึ่งแถบ
หนึ่งเส้นทาง และแสวงความร่วมมือในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมระหว่างกัน
เพื่อให้เกิดการเติบโตและเข้มแข็งไปด้วยกัน และย้ำว่าความมั่นคง
เป็นพื้นฐานสำคัญของเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ ที่จำเป็นต้องร่วมมือกันในภูมิภาค
โดยพร้อมผลักดันให้มีการลงนามแสดงเจตจำนงความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีร่วมกันในอนาคตอันใกล้
โดยขอถือโอกาสนี้ ประสานส่งเจ้าหน้าที่ภาคส่วนต่างๆ
ร่วมศึกษาดูงานการแก้ปัญหาความยากจน
โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า พล.อ.เว่ย
เฟิ่งเหอ ชื่นชม พล.อ.ประยุทธ์ ที่มีบทบาทนำ พัฒนาบ้านเมืองให้มีเสถียรภาพ
มั่นคงและเติบโตทางเศรษฐกิจมากขึ้น
โดยจีนพร้อมสนับสนุนเต็มที่ ในการช่วยพัฒนาเศรษฐกิจไทย และย้ำวัตถุประสงค์ของข้อริเริ่ม
โครงการหนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง
ที่ต้องการแบ่งปันผลประโยชน์ของจีนกับทุกประเทศไปด้วยกัน
ตามลักษณะที่สอดคล้องกับแนวทางของแต่ละประเทศ
ทั้งนี้
จีนมีเป้าหมายที่จะขจัดความยากจนให้หมดไปและยินดีต้อนรับให้การสนับสนุนการศึกษาดูงานของไทย
ตามที่ได้ประสาน พร้อมทั้งขอขอบคุณไทย
ที่ร่วมรักษาความสัมพันธ์ที่ดีและให้การสนับสนุนจีนในผลประโยชน์ที่ผ่านมา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า
หลังการหารือทั้งสองฝ่ายได้ร่วมลงนามในบันทึกความเข้าใจระหว่าง
กลาโหมทั้งสองประเทศ ซึ่งใช้เป็นกรอบการทำงานในการส่งเสริมความร่วมมือด้านการป้องกันประเทศ
บนพื้นฐานหลักความเท่าเทียมกัน
ผลประโยชน์ร่วมกันและเคารพอย่างเต็มที่ต่ออำนาจอธิปไตยและบูรณภาพเหนือดินแดน
โดยมีขอบเขตความร่วมมือ ด้านการแลกเปลี่ยนการเยือน การฝึกและศึกษา
ความร่วมมือด้านข่าวกรองและข่าวสาร รวมทั้งการเสริมสร้างขีดความสามารถทางทหารระหว่างกัน
ซึ่งพล.ท.คงชีพ ย้ำในภาพรวมว่า
การลงนามความร่วมมือและแถลงวิสัยทัศน์ที่ กลาโหมทำกับแต่ละประเทศมหาอำนาจทั้ง 3
ในภูมิภาค
แสดงถึงสถานะความสำคัญและบทบาทนำของประเทศไทยในภูมิภาค
ซึ่งเป็นการเพิ่มพูนความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างประเทศระดับทวิภาคี
ในลักษณะเปิดกว้างและสมดุลกับทุกประเทศ โดยเฉพาะการเสริมสร้างขีดความสามารถทางทหาร
บนพื้นฐานของหลักความเท่าเทียมและผลประโยชน์ร่วมกัน
เพื่อส่งเสริมสันติภาพและเสถียรภาพในระดับภูมิภาค. สำนักข่าวไทย