ทำเนียบฯ 14 พ.ย.-สทนช.ขอความร่วมมือเกษตรกรงดทำนาปรังพื้นที่ภาคกลาง-อีสาน ชี้น้ำไม่เพียงพอต่อการเกษตร โดยเฉพาะบริเวณเขื่อนอุบลรัตน์ ขณะที่ “พล.อ.ประวิตร” สั่งทุกเขื่อนทั่วประเทศจัดทำแผนรายงานการใช้น้ำทุกสัปดาห์ ห่วงสถานการณ์แม่น้ำโขงน้ำลดต่อเนื่อง เตรียมแนวทางแก้ไขทั้งในและนอกประเทศ
นายสมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) กล่าวภายหลังการประชุมคณะอนุกรรมการอำนวยการด้านบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ และการประชุมคณะกรรมการแม่น้ำโขงแห่งชาติไทย โดยมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม ว่า ในที่ประชุมฯ พล.อ.ประวิตร ได้มอบให้หน่วยงานที่ดูแลรายพื้นที่จัดแผนรับรองและบุคคลดูแลรับผิดชอบอย่างชัดเจน โดยในสัปดาห์หน้าจะมีการประชุมและรายงานผลกลับมาอีกครั้ง
นายสมเกียรติ ยืนยันว่า ยังมีความจำเป็นที่จะต้องใช้น้ำบาดาลช่วยในเรื่องน้ำ อุปโภค-บริโภคในพื้นที่ภัยแล้ง ขณะที่ด้านการเกษตร ขณะนี้อยู่ในช่วงการทำข้าวนาปีต่อเนื่อง 1.35 ล้านไร่ และการทำนาปรังที่มีมากกว่า 1 ล้านไร่ จึงต้องมุ่งเน้นเรื่องการทำประชาสัมพันธ์และหาแผนรับมือในทุกเดือน โดยแต่ละเขื่อนทั่วประเทศจะต้องมีแผนการบริหารจัดการน้ำ จัดสรรน้ำ และระบายน้ำ ส่งเป็นรายสัปดาห์ พร้อมประสานไปยังจังหวัดและเครือข่ายผู้ใช้น้ำประจำจังหวัดเพื่อการควบคุม และระบายน้ำอย่างเป็นระบบ
“รองนายกรัฐมนตรี ได้กำชับ สทนช.มอบหมายงานบริหารจัดการน้ำให้หน่วยงานทุกพื้นที่เพื่อดูแลบริหารจัดการน้ำในรายพื้นที่ของตนเองในสัปดาห์หน้า เตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ภัยแล้งในปีหน้า โดยไม่ให้เกิดเหตุซ้ำอย่างที่ จ.สุรินทร์ ส่วนการรับมือในขณะนี้ได้กำชับทุกพื้นที่ทำการขุดเจาะบาดาลหากสามารถทำได้ เพื่อนำน้ำบาดาลมาใช้ในการอุปโภค-บริโภคให้เพียงพอ ก่อนนำไปใช้ในการเกษตร ซึ่งรัฐบาลพร้อมสนับสนุนงบประมาณ พร้อมทั้งขอให้ทุกพื้นที่สำรวจการทำแก้มลิงว่าสามารถดำเนินการได้หรือไม่ และสั่งตั้งคณะกรรมการแก้ปัญหาพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซาก โดยเฉพาะพื้นที่ภาคอีสาน เช่น จ.อุบลราชธานี ที่เกิดน้ำท่วมใหญ่ เพื่อหาแนวทางแก้ปัญหาระยะยาวต่อไป” นายสมเกียรติ กล่าว
นายสมเกียรติ กล่าวอีกว่า ในที่ประชุมฯ รองนายกรัฐมนตรี ยังเป็นห่วงด้านบริหารจัดการน้ำของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เช่นเดียวกับพื้นที่ภาคกลาง ที่ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดูแลในเรื่องการผลักดันน้ำเค็ม และจากข้อมูลล่าสุด มี 38 จังหวัดทั่วประเทศที่มีปัญหาน้ำน้อย ขณะที่แหล่งเก็บน้ำขนาดกลางและขนาดใหญ่มีปัญหาน้ำน้อยมากกว่า 70 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งต่อจากนี้จะมีการลงพื้นที่ดูแลในทุกจังหวัด
นายสมเกียรติ กล่าวด้วยว่า พล.อ.ประวิตร ได้ย้ำในที่ประชุมให้ทุกจังหวัดมีผู้รับผิดชอบอย่างชัดเจน ป้องกันการเสียประโยชน์ของประชาชน และในวันพรุ่งนี้ (15 พ.ย.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะมีการประชุมเพื่อวางแผนรับมือการทำนาปรังของเกษตรกรให้น้อยที่สุดเพื่อให้เพียงพอต่อการ อุปโภค-บริโภคของภาคกลาง อย่างไรก็ตาม สทนช.ไม่สนับสนุนให้เกษตรกรทำนาปรังในพื้นที่ภาคกลางและอีสาน โดยเฉพาะพื้นที่บริเวณเขื่อนอุบลรัตน์ เนื่องจากเหลือปริมาณน้ำน้อยมาก ยกเว้นแต่พื้นที่ที่มีน้ำเพียงพอสามารถทำได้
นายสมเกียรติ กล่าวอีกว่า พล.อ.ประวิตร ยังเป็นห่วงสถานการณ์แม่น้ำโขงที่ลดต่ำลงมามาก 2-3 เมตร ในระยะเวลาไม่เกิน 7 วัน โดยมีแนวทางแก้ไขทั้งในและต่างประเทศ ที่ให้กระทรวงมหาดไทยและแต่ละจังหวัดแจ้งประชาชนทราบทันที พร้อมให้ สทนช.ดำเนินการระหว่างประเทศ ผ่านกลุ่มแม่โขงล้านช้าง และคณะกรรมการแม่น้ำโขง ที่จะประชุมในประเทศกัมพูชาระหว่างวันที่ 25-26 พฤศจิกายน 2562 และวันที่ 10 ธันวาคม 2562 จะมีประชุมระดับรัฐมนตรีที่กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อเจรจาในกรณีจำเป็นจะขอให้ประเทศต้นน้ำปล่อยน้ำมามากขึ้น.-สำนักข่าวไทย