ดีเอสไอไม่ตอบโต้ ‘ชัยวัฒน์’ จัดฉากกระดูกบิลลี่

ดีเอสไอ 14 พ.ย.-ดีเอสไอ ไม่ตอบโต้ “ชัยวัฒน์” หลังถูกกล่าวหาว่าจัดฉากกระดูกคดีบิลลี่ ด้าน ผอ.นิตวิทยาศาสตร์ ระบุต่อให้เอากระดูกที่พบไปตรวจที่ไหนในโลกก็ได้ผลแบบเดิม


จากรณีที่วานนี้ (13พ.ย.) นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ผู้ต้องหาในคดีที่ถูกพนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) แจ้งข้อกล่าวหาว่าร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และข้อหาอื่นรวม 6 ข้อหา ซึ่งเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของนายพอละจี รักจงเจริญ หรือบิลลี่ แกนนำกลุ่มกะเหรี่ยงบ้านโป่งลึกบางกลอย โดยนายชัยวัฒน์ ออกมาระบุว่า กระดูกที่ถูกระบุว่าเป็นของนายบิลลี่ มั่นใจว่าไม่ใช่กระดูกของบิลลี่แน่นอนและจะหาหลักฐานให้ได้ว่าเป็นกระดูกของใคร


นอกจากนั้นยังติดใจในเรื่องถังที่ดีเอสไอเขียนในสำนวนว่าเป็นถังที่นายชัยวัฒน์ใช้เผาบิลลี่ ด้วยความร้อน 700 องศาเซลเชียส พร้อมผ่ากระดูกเป็นชิ้นๆ เผาด้วยความร้อน 200-300 องศาเซลเซียส ซึ่งในความเป็นจริงไม่สามารถเผาได้ เพราะถังที่พบไม่ได้เจาะรูระบายอากาศ จึงมองว่าหมายจับที่เกิดขึ้น เกิดกระบวนการกลั่นแกล้งจากคนบางกลุ่มและเป็นการจัดฉากขึ้นมานั้น 

ในเรื่องนี้ พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวว่า ความคืบหน้าในคดีนี้ อยู่ในขั้นตอนสรุปสำนวน เพื่อเตรียมส่งให้อัยการ ส่วนจะเป็นเมื่อใดคงตอบแบบระบุวันไม่ได้ คงเป็นเร็วๆนี้ 


ส่วนเรื่องที่นายชัยวัฒน์ออกมาให้สัมภาษณ์นั้น ส่วนตัวคงไม่ขอไปตอบโต้ ตอบกลับหรือชี้แจงกลับอะไร เพราะการทำงานในคดีนี้ทำในรูปแบบคณะกรรมการสอบสวนมีหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาร่วมตรวจสอบด้วยทุกครั้ง อย่างตอนไปเจอถังก็มีหลายหน่วยงานลงไปดูไปเห็น หลังจากนี้คงต้องต่อสู้ พิสูจน์กันตามขั้นตอนของกฎหมาย

ด้าน พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์  กล่าาว่า จากการตรวจสอบ การตรวจในรอบเเรกก็ยืนยันได้ตามที่ข่าว  เผยเเพร่ออกไป ขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนการตรวจชิ้นส่วนกระดูกที่พบเป็นรอบที่ 2 คาดว่าภายในสัปดาห์นี้ผลจะออกได้ จากนั้นจะส่งต่อให้ พนักงานสอบสวนใช้เป็นหลักฐานทางคดีต่อไป

ส่วนข้อสอบถามที่ว่า ผลที่ออกมาระบุว่าเป็นชิ้นส่วนกระดูกของบิลลี่ ผลตรวจยืนยันได้ทั้ง 100% หรือเปอร์เซนต์ที่มากพอจะเชื่อได้ว่าเป็นของบิลลี่ พ.ต.ท.วรรณพงษ์ กล่าวว่า การตรวจครั้งนี้ใช้หลักสากลเช่นเดียวกับ ที่ใช้ในต่างประเทศ ในองค์กรใหญ่ๆ ระดับโลกก็ใช้กัน คือ การตรวจพิสูจน์สารพันธุกรรมในไมโทคอนเดรีย พบว่ารูปแบบสารพันธุกรรมมีความสัมพันธ์ทางสายโลหิตที่สืบทอด มาจากจากบรรพบุรุษคนเดียวกัน ซึ่งเป็นหลักการสากลที่ใช้กันทั่วโลกแต่คงไม่สามารถระบุชัดเป็นเปอร์เซนต์ได้ว่าเท่าใด แต่ขอให้มั่นใจว่ากระบวนการตรวจสอบของดีเอสไอไม่ได้น้อยหน้าไปกว่าของต่างประเทศ  

ส่วนชิ้นส่วนกระดูกทั้ง 9 ชิ้น ยังระบุชัดไม่ได้ว่ามาจากคนคนเดียวกันหรือไม่ เนื่องจากบางส่วนก็เสียหายมาก จนไม่สามารถสกัดออกมาตรวจดีเอ็นเอได้ โดยทุกชิ้นยืนยันผ่านการตรวจสอบอย่างละเอียด มีมาตรฐานสากลรองรับ ยืนยันว่าชิ้นส่วนกระดูกที่พนักงานสอบสวนส่งมาให้ตรวจหากนำ ไปส่งตรวจต่อที่ใดก็จะได้ผลตามที่ตรวจไปอย่างแน่นอน

ส่วนเรื่องที่นายชัยวัฒน์ออกมาพูดว่าไม่ใช่ชิ้นส่วนของกระดูกบิลลี่จริง เรื่องนี้ตนคงไม่ขอตอบให้เป็นหน้าที่พนักงานสอบสวน.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“หมอพรทิพย์” เผย แผลศพบอกได้ ฆาตกรรม หรือ ฆ่าตัวตาย

“หมอพรทิพย์” อดีต ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เผยบาดแผลที่ศพ “ผกก.โจ้” จะบ่งชี้ได้ว่า ถูกฆาตกรรม หรือฆ่าตัวตาย

รู้ตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุคาร์บอมบ์-ยิงถล่มที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก

รู้ตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุคาร์บอมบ์-ยิงถล่มที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก คาดฝีมือ นายอับดุลเลาะ บูละ แกนนำระดับสั่งการ ฝึกรบจากต่างประเทศ พบบางส่วนหนีขึ้นเขาตะเว บางส่วนข้ามชายแดนแล้ว

ชายแดนตึงเครียด ทหารเมียนมา-KNLA ยังปะทะเดือด

สถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา ยังตึงเครียด ทหารเมียนมากับกะเหรี่ยงเคเอ็นแอลเอ ยิงปะทะดุเดือด ขณะที่ชาวเมียนมา อพยพเข้าไทยอีกครั้งแล้วหลายร้อยคน

เจอกระบะต้องสงสัยก่อเหตุหน้าที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก

พบแล้ว รถกระบะต้องสงสัยใช้ก่อเหตุยิงปืนและลอบวางระเบิด หน้าที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เมื่อคืนนี้

ข่าวแนะนำ

เร่งล่าคนร้ายไม่ต่ำกว่า 5 คน ซุ่มยิง อส.กรงปินัง เสียชีวิต

เจ้าหน้าที่เร่งล่าตัวคนร้ายไม่ต่ำกว่า 5 คน ซุ่มยิง อส.กรงปินัง เสียชีวิต ก่อนเผารถ ฉกปืนพกสั้น 9 มม. หลบหนี ทั้งยังพบวัตถุต้องสงสัยคล้ายระเบิดในพื้นที่ยะลาอีกหลายจุด

ลวงมาฆ่า จัดฉากเป็นอุบัติเหตุ หวังเงินประกัน 14 ล้าน

สุดโหด หนุ่มสกลนครถูกญาติตัวเองร่วมมือกับอดีตตัวแทนจำหน่ายประกัน ลวงมาฆ่า ก่อนจัดฉากเป็นอุบัติเหตุ หวังเงินประกัน พ.ร.บ.รถยนต์ 3 คัน รวม 14 ล้านบาท แต่บริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถพบพิรุธ แจ้งตำรวจตรวจสอบ ก่อนออกหมายจับเบื้องต้น 4 คน